รีวิวคอนเสิร์ต eaj เล่นใหญ่ จัดเต็ม เอนเนอร์จี้ไม่มีดร็อป!

หลังจากรอคอยกว่า 5 ปี ในที่สุด eaj หรือ Jae Park ได้กลับมาหา Jars ชาวไทยอีกครั้งกับคอนเสิร์ต ‘VERY LIVE Presents eaJ when the rain stopped following me Live in Bangkok 2024’ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา 

คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของ eaj เอนเนอร์จี้บูสต์ ๆ ไม่มีอ่อม!

สำหรับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ Sanook Music เอง ก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมชมการแสดงในครั้งนี้ และสิ่งที่สัมผัสได้เลยสำหรับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ คือ ‘เอนเนอร์จี้ที่เหลือล้นของ eaj และแฟน ๆ ทุกคน’ 

ตั้งแต่ก่อนเริ่มคอนเสิร์ต แฟน ๆ ก็บูสต์เอนเนอร์จี้ด้วยการตะโกนเรียกชื่อ ‘eaj park’ กันสุดเสียง แถมยังมีการวอร์มเสียงด้วยการร้อง ‘โห่…ฮิ้ว’ อีกด้วย เรียกเสียงหัวเราะ และสร้างบรรยากาศให้สนุกยิ่งขึ้นไปอีก

eaj

หลังจากนั้นไม่นาน eaj ก็เปิดตัวด้วยเพลง ‘Voices’ ในลุคออลแบล็ค พร้อมกับหมวกคู่ใจ และปลดปล่อยเอนเนอร์จี้ตั้งแต่เพลงแรก ด้วยการกระโดดลงจากเวทีเพื่อใกล้ชิดกับแฟน ๆ เรียกได้ว่ามันส์สุด ๆ 

eaj

นอกจากนี้เรื่องการร้อง eaj ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โชว์เสียงร้องหวาน ๆ เข้ากับเสียงดนตรีสดได้อย่างลงตัว และทุกคำที่เขาร้องเหมือนส่งตรงจากหัวใจ ยิ่งทำให้ค่ำคืนนี้กลายเป็นค่ำคืนที่แสนวิเศษและน่าจดจำ 

eaj

หนึ่งในเพลงที่เราประทับใจที่สุดในคอนเสิร์ตครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นเพลง 'When the Rain Stops' ที่ยังไม่เคยปล่อยอย่างเป็นทางการมาก่อน ครั้งแรกที่เราได้ฟังเพลงนี้ เรารู้สึกว้าวกับเสียงร้องและอินเนอร์ของ eaj สุด ๆ 

ยิ่งช่วงที่ eaj ร้องท่อน "Oh god I’m sorry, And I’ll be sorry till I die, My past it haunts me every night, And if you’re wondering I might have tried a couple times, I’ll be sorry till I die" บรรยากาศในฮอลล์เงียบ ทุกคนต่างจดจ่ออยู่กับเสียงร้องอันทรงพลังของเขา ในขณะที่ eaj คุกเข่าลงบนเวทีราวกับหัวใจแตกสลาย ถ่ายทอดความรู้สึกเสียใจ ผ่านเสียงร้องของเขาได้อย่างดี จนทำให้เราขนลุกไปทั้งตัว

You’ve always got a place here, and that’s set in stone

บรรยากาศของคอนเสิร์ตไม่ได้มีเพียงแค่สนุกสนาน แต่เรายังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น และความสบายใจของทั้ง eaj และ Jars ทุก ๆ คน ให้เรารู้สึกว่าเหมือนเป็นการกลับมาพบกันระหว่าง ‘เพื่อนสนิท’ มากกว่า ‘ศิลปิน และแฟนคลับ’

โดยในคอนเสิร์ตครั้งนี้ eaj ได้เปิดใจพูดคุยกับแฟน ๆ ว่า “ผมเคยมีชีวิตที่บ้ามาก ๆ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคแพนิค อาการก็แย่ลงมาก ๆ ยิ่งงานของผมต้องขึ้นเวที ร้องเพลงต่อหน้าผู้คนมากมาย พอมีแพนิคเข้ามาก็ไม่ใช่การรวมตัวที่เท่าไร พอนึกออกไหม? ผมเลยต้องใส่หมวกทุกครั้ง จะได้มองไม่เห็นใคร” 

จากการใส่หมวกเพื่อปิดกั้นโลกภายนอก eaj ค่อย ๆ เปิดหมวกจนในที่สุดก็ eaj ก็ถอดหมวกออก แสดงให้เห็นว่าเขาพร้อมเปิดใจและสบายใจมากขึ้นเมื่อได้อยู่ท่ามกลางแฟน ๆ ที่รักและสนับสนุนเขา

eaj

ในช่วงที่ eaj ร้องเพลง ‘Traveler’ บรรยากาศในฮอลล์ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นอีกครั้ง เมื่อแฟน ๆ ชาวไทยพร้อมใจกันชูป้ายที่มีข้อความว่า ‘You’ve always got a place here, and that’s set in stone’ (ประเทศไทยยังมีที่ให้กับเจเสมอ และมันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง) ถือเป็นกำลังใจดี ๆ จากชาว Jars ที่เหมือนเพื่อนที่ไม่ว่าหันกลับไปเมื่อไรก็จะเจออยู่เสมอ

เราเชื่อว่าไม่ใช่แค่ eaj เท่านั้นที่ได้รับกำลังใจดี ๆ แต่ชาว Jars เอง ก็ได้รับการปลอบประโลมจากเสียงเพลง และเนื้อเพลงของ eaj ด้วยเช่นกัน 

ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ

อีกหนึ่งสิ่งที่เราประทับใจในคอนเสิร์ตครั้งนี้คือแมสเสจที่ eaj ตั้งใจจะฝากไว้ผ่าน เรื่องราวเกี่ยวกับ ‘ฝน’ ตามชื่อคอนเสิร์ต ‘when the rain stopped following me’ 

โดยตลอดคอนเสิร์ต จะมีเสียงบรรยายของ eaj เป็นช่วง ๆ ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบชีวิตกับฝนที่ตกลงมา บางครั้งฝนทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า ท้อแท้ และหมดหวัง เราภาวนาให้ฝนหยุดตก เพื่อให้ชีวิตเราสดใสขึ้น แต่แม้ว่าฝนจะยังตกอยู่ เรายังคงต้องก้าวเดินต่อไป ท่ามกลางความยากลำบาก

อย่างไรก็ตาม eaj ได้สื่อถึงความหวังว่า "มันจะต้องมีสักวันที่ฝนหยุดตก" เมื่อวันนั้นมาถึง โลกจะเปลี่ยนไปอย่างสวยงาม ท้องฟ้าจะสดใส และหัวใจของเราจะโล่งสบาย นี่คือข้อความที่ eaj ต้องการส่งผ่านเพลงและเสียงบรรยายของเขา ชีวิตอาจมีช่วงเวลาที่มืดมน แต่เมื่อฝนหยุดตก ความงดงามก็รออยู่ข้างหน้าเสมอ

eaj

สำหรับภาพรวมของคอนเสิร์ตครั้งนี้ เราต้องบอกว่าเป็นคอนเสิร์ตที่เต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ ตั้งแต่ความสนุกสุดเหวี่ยงที่ทำให้เรากระโดดไปพร้อมกับทุกคน ไม่รู้ว่ากระโดดไปเยอะแค่ไหน แต่กลับบ้านต้องรีบแปะแผ่นตราเสือด่วน ๆ ขณะเดียวกัน เรายังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความใกล้ชิดที่ทำให้ค่ำคืนนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ

อีกสิ่งที่เราประทับใจไม่แพ้กัน คือ ความสามารถของ eaj ที่ไม่ว่าจะเป็นในฐานะนักร้องโซโล่ eaJ, Jae วง DAY6 หรือพัค เจฮยอง เขาก็สามารถร้องเพลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทุ่มเทกับทุกการแสดงเสมอไม่เปลี่ยนแปลง 

สุดท้ายนี้ ยินดีกับคอนเสิร์ตครั้งแรก และก็สุขสันต์วันเกิด พัค เจฮยอง ขอให้เป็นวัย 32 ที่มีความสุข ไม่มีฝนตกในใจอีกต่อไป 

eaj