INTERVIEW: Linkin Park พูดคุยถึงการกลับมาในรอบ 7 ปี กับอัลบั้ม “FROM ZERO”
เสียงกีตาร์หนักๆ ที่คุ้นเคยกลับมาดังก้องอีกครั้งในวงการเพลงร็อก เมื่อวงดนตรีระดับตำนานอย่าง Linkin Park ประกาศการเดินทางครั้งใหม่ ร่วมกับ “Emily Armstrong” และ “Colin Brittain” พร้อมปล่อยอัลบั้มใหม่ “FROM ZERO” ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นการคัมแบ็คในรอบ 7 ปีของวง Linkin Park
Sanook Music ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานแถลงข่าวของ Linkin Park ในเอเชีย เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา และได้ร่วมพูดคุยถึงความรู้สึกของสมาชิกวง Linkin Park ถึงการกลับมากับอัลบั้มใหม่ในรอบ 7 ปีอย่าง “FROM ZERO” อีกด้วย จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย!
บทสัมภาษณ์ Linkin Park กับการกลับมาในรอบ 7 ปี ในอัลบั้ม FROM ZERO
Linkin Park
Q: นี่เป็นการกลับมาในรอบ 7 ปีของ Linkin Park อะไรทำให้รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องคัมแบ็ค?
Mike Shinoda: ผมแค่รู้สึกว่ามันเกิดขึ้นมาเอง ใช่ พวกเราตั้งใจรวมตัวกันอีกครั้ง ทำเพลงด้วยกัน และนัดเพื่อคุยเรื่องนี้ แต่พวกเราไม่ได้มาด้วยความคิด “เฮ้ เรามาทำให้ Linkin Park กลับมาเถอะ” แต่มันมาด้วยความรู้สึกว่า “กลับมาทำเพลงในแบบที่พวกเรารักกันเถอะ” มากกว่า ซึ่งในความคิดผมมันเป็นทางที่ดีนะ เพราะอัลบั้ม และเพลงของ Linkin Park อื่น ๆ ก็มาด้วยความคิดแบบนี้เช่นเดียวกัน พวกเรามักเริ่มต้นทำเพลง เมื่อมีแรงบันดาลใจ หรือไอเดียต่าง ๆ
Q: Emily และ Colin รู้สึกอย่างไรบ้าง ที่ได้เข้าร่วมวง Linkin Park ในฐานะสมาชิกใหม่?
Emily Armstrong: เชื่อว่าเราทุกคนต้องเคยมองใครสักแล้วรู้สึกว่า “พวกเขาโชคดีจัง” ซึ่งจากที่คอยเฝ้ามองความโชคดีของคนอื่นมาตลอด กลายเป็นว่าตอนนี้ฉันได้เป็นคนที่โชคดีคนนั้นซะเอง มันเลยเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก สำหรับฉันการที่ได้เข้าร่วมวง Linkin Park เป็นโอกาสที่ดีในชีวิต ทุก ๆ วันดูเหมือนจะมีเรื่องน่าตื่นเต้นรอคอยอยู่เสมอ และฉันพยายาทำให้เต็มที่ในทุก ๆ วัน ฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อตำแหน่งนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มเตรียมอัลบั้ม ไปจนถึงฝึกซ้อม มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก ๆ เป็นปีที่ฉันชอบที่สุด ทุก ๆ อย่างค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ และฉันเองก็เชื่อว่าปีหน้าจะยิ่งดีขึ้นไปอีก
Colin Brittain: สิ่งที่ Emily พูดไปก่อนหน้าค่อนข้างตรงกับความรู้สึกผมนะ จริง ๆ จนถึงตอนนี้ผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ผมเติบโตมาในครอบครัวที่มีพี่น้อง 5 คน และผมเป็นคนโตสุด ดังนั้นผมจึงไม่เคยได้สัมผัสการมีพี่ชายหรือพี่สาวเลย แต่หลังจากที่ผมได้เข้ามาใน Linkin Park พวกเขาได้กลายเป็นพี่ชายและพี่สาวของผม นอกจากนี้ทั้งผม และ Emily เราต่างทำงานในวงการมากว่า 20 ปี ดังนั้นการได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Linkin Park มันเหมือนเป็นการเติบโตของอาชีพอีกขั้น เราไม่ได้เข้ามาแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เราทั้งคู่ทุ่มเทเวลา และแรงกายกว่าจะมาอยู่ในวง Linkin Park ดังนั้นอย่างที่ Emily บอก ทุก ๆ วันมันเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ และเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ทั้งตื่นเต้นที่จะได้แสดงคอนเสิร์ต ตื่นเต้นที่จะได้ตื่นขึ้นมาเขียนและทำเพลงร่วมกับสมาชิกทุกคน
Q: Linkin Park อยู่ในวงการมานาน คิดว่าอะไรทำให้เรายังทำสิ่งนี้ต่อไปได้
Dave “Phoenix” Farrell: ผมมีความสุขที่จะทำเพลงร่วมกับทุกคนในวง และผมก็ยังรักที่จะทำมัน ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครสนใจเพลงของผมแล้วก็ตาม ผมไม่เคยมีความคิดที่จะเล่นดนตรีเป็นอาชีพนะ ผมเรียนจบด้านปรัชญา และตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานักปรัชญาเป็นสิ่งที่ผมคิดจะทำเป็นอาชีพมาตลอด ส่วน “ดนตรี” เป็นเหมือนสิ่งที่เติมพลังให้กับผม ผมรักที่จะเล่นดนตรี โดยเฉพาะกับพวกเขาทุกคน ดนตรีทำให้ผมได้อยู่กับพวกเขา เพื่อนสนิทของผม
Q: หากย้อนเวลาไปในปี 2000 วันที่ปล่อยอัลบั้ม “Hybrid Theory” อยากทำอะไร?
Brad Delson: ผมอยากมอบกอดอุ่น ๆ ให้กับสมาชิกทุกคน
Dave “Phoenix” Farrell: ผมคงบอกกับตัวเองว่าให้เก็บกางเกงโอเวอร์ไซส์ไว้ เพราะเดี๋ยวมันจะกลับมาฮิตอีกในอนาคตอีก (หัวเราะ) และก็อยากใช้เวลากับแม่มากขึ้นด้วย
Emily Armstrong: หากย้อนเวลาได้ ฉันคิดว่าไม่ได้อยากเปลี่ยนอะไรนะ มันเป็นปีที่ดี และอัลบั้มนี้ ก็เปลี่ยนชีวิตฉันด้วย มันเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันรู้ว่าฉันอยากทำอะไร
Colin Brittain: ผมก็ไม่คิดจะเปลี่ยนอะไรเช่นกันนะ ผมจำได้ว่าในปีนั้น ผมชอบผู้หญิงคนหนึ่ง และเธอแนะนำให้ผมรู้จัก Linkin Park หลังจากนั้นอัลบั้มนี้ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำเพลง
Q: พูดถึงอัลบั้ม “FROM ZERO” หน่อย อัลบั้มนี้จะออกมาเป็นอย่างไร?
Joe Hahn: ผมตอบได้ทันทีเลย อัลบั้มนี้ต้องยอดเยี่ยมมาก ๆ (หัวเราะ)
Mike Shinoda: สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับอัลบั้มนี้ คือ ถึงแม้ว่าอัลบั้มนี้จะแตกต่างไปจากเดิม แต่ก็ยังคงความเป็น Linkin Park อยู่ อัลบั้มนี้ไม่ได้เหมือนยุคใดยุคหนึ่งของ Linkin Park อย่างไรก็ตาม มันยังคงกลิ่นอายของ Linkin Park ได้อย่างดี นอกจากนี้อัลบั้ม “From Zero” ยังเป็นอัลบั้มที่เต็มไปด้วยพลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราไม่ได้ทำมานาน อีกทั้งยังมีแนวเพลงที่หลากหลาย ซึ่งทุกคนจะเห็นได้จาก 2 เพลงที่ปล่อยให้ฟังไปก่อนหน้า (“The Emptiness Machine” และ “Heavy Is The Crown”) แต่ความจริงแล้วอัลบั้มนี้ยังมีอะไรอีกมากมายให้ติดตาม ทุกคนก็รอฟังกันได้
Colin Brittain: พวกเราเคยคุยกันว่า หากเราพูดถึงอัลบั้มก่อนปล่อยมากเกินไป ผู้คนก็จะคาดหวังกับมันมาก รวมถึงเหมือนไปตีกรอบให้พวกเขาเชื่อในสิ่งที่เราบอก ดังนั้น ผมอยากให้ทุกคนรอฟังวันที่ 15 พฤศจิกายนเองเลยดีกว่า ว่าอัลบั้มนี้จะออกเป็นอย่างไร
Q: แล้วเพลงไหนในอัลบั้ม “FROM ZERO” ที่อยากแสดงในคอนเสิร์ตมากที่สุด
Emily Armstrong: จริง ๆ ก็มีหลายเพลง ถ้าได้ไปเล่นไลฟ์ เพลง “Two Faced” ก็คงสนุกมาก ๆ และก็เพลง “Casualty” ที่มีเนื้อเพลงที่สุดยอดมาก ๆ รวมไปถึงเพลง “Overflow” ด้วย ฉันคิดว่า 3 เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่พวกเราตั้งตารอแสดงในคอนเสิร์ตมากที่สุด
Joe Hahn: “A Place For My Head Part 2” และ “Two Steps Closer” (เพลงจากอัลบั้ม Hybrid Theory) ล้อเล่นครับ (หัวเราะ) ส่วนตัวแล้วผมอยากเล่นทั้ง 12 เพลงในอัลบั้ม FROM ZERO เลย
Q: สุดท้ายนี้ มีแพลนที่จะมาแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศอื่น ๆ ในเอเชียไหม?
Joe Hahn: ผมเคยคุยกับ Colin นะว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจัดคอนเสิร์ตให้ครบทุกประเทศในเอเชีย เดี๋ยวให้ Collin เสริมเรื่องนี้ดีกว่า
Colin Brittain: ส่งมาได้จังหวะดีมากๆ (หัวเราะ) ผมชอบที่จะได้มาเอเชียนะ เพราะคนที่นี่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทุกครั้งที่ผมมาเอเชีย รวมถึงก่อนที่ผมจะมาอยู่ใน Linkin Park ด้วย ผมสัมผัสได้ถึงแพสชั่นของเอเชียที่มีต่อเสียงเพลงนั้นลึกซึ้งอย่างมาก ทุกคนร้องตามกันอย่างเสียงดัง นอกจากนี้พวกเราได้รับข้อความมาตั้งแต่วันแรกที่ประกาศทัวร์ว่าเมื่อไรจะมาประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย
สำหรับ Linkin Park ในตอนนี้ เพิ่งจบการแสดงคอนเสิร์ตในประเทศเกาหลีใต้ ไปเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา และเดินหน้าทัวร์ในยุโรปและสหรัฐฯ อีกหลายเมือง รวมถึงก่อนหน้านี้ได้มีการปล่อยเพลงใหม่อย่าง “The Emptiness Machine” และ “Heavy Is The Crown” ซึ่งเป็นน้ำจิ้ม ก่อนที่จะปล่อยอัลบั้มเต็ม “FROM ZERO” ในวันที่ 15 พฤศจิกายน แฟน ๆ Linkin Park สามารถ กด pre save อัลบั้มนี้กันไว้ได้เลย