5 เรื่องเริ่ดของ งาน GeneLabCon ไม่ได้มีแค่คอนเสิร์ต ที่เล่าจักรวาล “Gene Lab” ได้ “แตกต่าง”
หนึ่งในงานคอนเสิร์ตที่เราชอบมากๆ ในปี 2022 ก็คืองาน Gene Lab Con ที่ศิลปินในค่าย Gene Lab ได้มาจัดคอนเสิร์ตรวมแบบยกค่าย ทำให้พวกเราได้ฟังเพลงศิลปินที่เรารัก และค้นพบวงใหม่ที่น่ารู้จัก ซึ่งแต่ละวงในงานวันนั้นเรียกได้ว่าพิเศษมากๆ สมกับที่เป็นวงที่ถูกเลือกโดย Gene Lab ค่ายที่ให้ความสำคัญเรื่องความแตกต่างและความสามารถ
และการกลับมา Cocktail, Three Man Down, Tilly Birds, Taitosmith, The Darkest Romance, ASIA7, Gaikai, Only Monday, Pang Pattanan (แพง-พัทธนันท์ อภิวัฒน์เวคิน) ไปจนถึงน้องใหม่ HARD BOY, Adora, Famoso และ ก้อง ห้วยไร่ (อัครเดช ยอดจำปา) และ ผู้เข้าแข่งขัน 19LAB รายการที่เพิ่งจบไปสดๆ ร้อน แต่ผู้เข้าแข่งขันมีแฟนเพลงรอเชียร์กันแล้ว
1. ได้ดูศิลปินสุดแรร์ แต่อนาคตไกลแน่นอน
Gene Lab Con นอกจากเราจะได้ฟังเพลงของศิลปินดังในค่ายแล้ว วันนี้ยังเป็นโอกาสแรกๆ ที่เราจะได้สัมผัสฝีมือของเหล่าคลื่นลูกใหม่ด้วย อย่างเช่นเหล่าผู้เข้าแข่งขัน 19Lab อย่าง Jigsaw Story, QEETHA, fit aroon, ossey และ กอกี้ กวิสรา รวมถึงเพื่อนร่วมรายการอีกหลายคนที่แวะมาอย่างเป็นทางการครั้งแรก ก่อนที่พวกเขาจะไปโลดแล่นในวงการต่อไปในอนาคต โดยใครที่ติดตามรายการ 19Lab บอกเลยว่าเป็นกำไรสุดๆ ที่ได้เห็นพวกเขาพร้อมหน้ากันในงานวันนี้ และเราขอชมคนวางไทม์ไลน์รายการด้วย ที่วางการออกอากาศรายการให้มาบรรจบกับคอนเสิร์ตนี้ได้ลงตัวมาก
นอกจากศิลปินค่ายใหม่แล้ว ก็ยังมี GAIKAI วงน้องสาวที่นานๆ ทีจะออกมาโชว์สดๆ FAMOSO วงน้องใหม่ที่แจ้งเกิดจากการเล่นดนตรีย่านสยามสแควร์, ADORA วงเจร็อคญี่ปุ่นวงแรกของค่าย รวมถึง แพง พัทธนันท์ สาวเสียงหวานที่ร่วมทำเพลงกับทีมได้แทบทุกขั้นตอน ซึ่งแต่ละวงฝีมือไม่ธรรมดา แถมปีนี้ก็ได้เวลาปล่อยของวงละครึ่งชั่วโมงเต็มๆ ซึ่งพวกเขาและเธอก็เต็มที่กันมากๆ เพื่อมัดใจเหล่าแสตนค่าย Gene Lab ที่มาชม
2. รุ่นกลางฝีมือดี ก็โชว์ดีแบบไม่มีดร็อป
งาน Gene Lab Con จะไม่ใช่ Gene Lab Con แน่นอน ถ้าไม่มีวงฟิวชั่นสไตล์ไทยอย่าง ASIA7 ที่เพิ่งไปคว้ารางวัล สีสัน อะวอร์ดส์ ครั้งที่ 33 หรือวง Only Monday ที่มี 3 ชิ้น แต่เล่นสดได้แน่น และเพลงฮิตเต็มเซ็ทลิสต์ รวมถึง Hard Boy อีกหนึ่งน้องใหม่ที่เข้าค่ายในวันที่ประสบการณ์เยอะและมีแนวทางความเป็นแกลมร็อคแบบชัดเจนสุดๆ โดยวงที่มาโชว์บนเวทีงานนี้ทุกวงก็ถูกครอบโดยสเตจที่จัดแสงสีแบบมีบรรยากาศเข้ากับทุกวง ซึ่งแม้จะไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวาบนเวที แต่มันก็เพียงพาให้พวกเขาเฉิดฉาย
ซึ่งทั้ง 3 วงที่มีเพลงใหม่ต่อเนื่อง ก็เอาทุกเพลงมาสาดแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะ “จดจำ” จาก Only Monday หรือเพลง “เผา”, “Loop” และ “คิดถึง” ส่วน Hard Boy ก็สาดเสียงสูงแบบจัดเต็ม และมีเพลง “เผย”, “ไม่เคยลืม”, “ห้อง 8” มาโชว์ ซึ่งบรรยากาศงานก็เต็มไปด้วยสีสันและความเข้มข้นเมื่อมีทั้ง 3 วงบนเวที โดยเฉพาะ Only Monday ที่ความฮิต และการเอาเวทีอยู่สุดๆ ก็ทำให้เราอยากบอกว่า “จัดคอนเสิร์ตใหญ่ได้แล้วน้อง!”
3. รุ่นใหญ่กับเพลงฮิต และ “มิตรใหม่” ที่ทำให้หลายคนตื่นเต้น
อีกหนึ่งกลุ่มที่มาครบในงานครั้งนี้ ก็คือพี่โตของค่ายที่ล้วนแล้วแต่มีคอนเสิร์ตใหญ่กันหมดแล้ว ทั้ง The Darkest Romance, TaitosmitH, Tilly Birds,Three Man Down และ Cocktail ที่ต้องบอกเลยว่า จัดเต็มทุกวง แม้ว่าเพลงกับคอนเทนต์ไม่ได้อัดหนักเท่าคอนเสิร์ตใหญ่ แต่เราก็ได้ฟังเพลงหลายเพลงที่ไม่ได้ฟังในงานทั่วไป รวมถึงเพลงฮิตที่ทุกคนร้องตามได้ จนพอจบโชว์ก็หายคิดถึงเลย โดยเฉพาะสำหรับแฟนๆ Three Man Down ที่อาจจะไม่ได้เจอพวกเขามาเป็นเดือน
และอีกคนที่ทำให้หลายคนตื่นเต้นก็คือ ก้อง ห้วยไร่ (อัครเดช ยอดจำปา) ที่มาเป็นสมาชิกใหม่ และจัดเต็มเพลงฮิตของตัวเอง และร้องเพลงเพื่อนๆ ในค่าย และยังเป็นสีสันสนุกๆ ตอนเล่นเกมด้วย จนเราอยากเห็นแล้วคนที่มีความสามารถรอบด้านแบบเขา จะสร้างอะไรในบ้าน Gene Lab ออกมา
4. เมื่อ Gene Lab Con ไม่ใช่แค่คอนเสิร์ต อีกต่อไป
นอกจากการได้ฟังเพลงที่ชอบ และค้นพบเพลงใหม่และศิลปินวงใหม่ที่ชอบแล้ว งานครั้งนี้ยังมีกิจกรรมอีกมาก ที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในคอนเสิร์ตไหนๆ ราวกับว่าทางผู้จัดอยากให้งานนี้เป็นจักรวาลปล่อยของ ของเหล่าศิลปิน โดยกิจกรรมในงานมีทั้ง Hard Talk Conference ในหัวข้อ 'ลิขสิทธิ์เพลงไทย' กับ โอม COCKTAIL (ปัณฑพล ประสารราชกิจ), ก้อ-ณฐพล ศรีจอมขวัญ, เต Three Man Down (เตธนันท์ วงศ์ปรีชาโชค), บิลลี่ Tilly Birds (ณัฐดนัย ชูชาติ) ตามด้วยการแข่งกีฬาบาสเก็ตบอล, Futsal และ E-SPORT Arena of Valor หรือ ROV ที่เป็นกีฬาสุดโปรดของศิลปิน Gene Lab แบบเข้มข้น และมีแขกรับเชิญนอกบ้านมาร่วมแข่งขันด้วย
อีกหนึ่งพาร์ทที่เราว่าเด็ดมากๆ ก็คือความจริงที่ หลายรายการที่ศิลปิน Gene Lab เคยไปออก แล้วสร้างตำนาน ก็มากับเวอร์ชั่นไลฟ์บนเวที ไม่ว่าจะเป็นรายการ คำต้องเชื่อม ของ เทพลีลา ที่ ออย ASIA7 (อมรภัทร เสริมทรัพย์) เป็นผู้ชนะได้เงินหมื่นกลับไป และมี
รายการ ป๋าเต็ดทอล์ก ที่มาพูดเรื่องความจำเป็นของการมีค่ายเพลง ที่ได้ทั้งข้อมูลและความฮา พร้อมแถมอยู่ดีๆ Eric ten Hag กุนซือบอลดังก็มาอยู่ในบทสนทนาเฉย, และอีกรายการที่ทำกลายคนขำและปวดหัวตุ๊บๆ อย่าง Buff Talk โดย Buffalo Gags ก็มาอยู่บนเวทีด้วย โดยผู้โชคดี (หรืออาจจะโชคร้าย) ที่โดนเจาะลึกก็คือ TaitosmitH นั่นเอง
และถ้าคิดว่านั่นคือสุดแล้ว ยังมีเกม เป่า ยิ้ง ฉุบ วัดความโชคดีของคนทั้งค่าย ซึ่ง ไมโล Tilly Birds (ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล) คือผู้ชนะ และมีการแจก Golden Ticket ให้กับแฟนๆ ผู้โชคดีมีโอกาสชมคอนเสิร์ต Gene Lab ฟรีตลอดชีวิตด้วย ซึ่งการจัดกิจกรรมเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นในคอนเสิร์ตไทย แต่เราเชื่อว่าหลายค่ายที่สามารถจัดคอนเสิร์ตรวมได้ น่าลองเอากิมมิกนี้ไปเล่น เพราะนอกจากจะเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แฟนๆ แล้ว สิ่งนึงที่กิจกรรมเหล่านี้ทำให้เราได้เห็น ก็คือบุคลิกของศิลปินในค่ายทั้งนักร้องไปจนถึงนักดนตรี ซึ่งบุคลิกนี้อาจจะทำให้พวกเขาตกแฟนๆ ในงานให้อยากรู้จักมากขึ้น
แต่ในพาร์ทการจัดกิจกรรมนั้น ก็มีสิ่งที่เรามองว่าอาจต้องปรับปรุงสำหรับรอบต่อไป คือการวางเวลา เพราะหลายกิจกรรมในงานนั้น กินเวลาข้ามไปคอนเสิร์ต หรือกิจกรรมอื่นเหมือนกัน แม้ว่าคนที่เป็นพิธีกรหรือดำเนินรายการจะพยายามขมวดทุกอย่างแล้ว แต่เราก็เข้าใจได้ว่า ด้วยความที่เป็นกิจกรรมใหม่ การจัดเวลาก็จะยาก เมื่อเทียบกับพาร์ทโชว์ที่ศิลปินควบคุมเวลาได้ด้วยลิสต์เพลง
- บรรยากาศและความใกล้ชิด แบบหาที่ไหนไม่ได้
และอีกสิ่งที่เป็นเสน่ห์ของงาน Gene Lab Con คือ ไม่ว่าปีไหน เราก็จะได้เจอคนที่ชอบเพลงเหมือนกัน เจอเพื่อนที่ไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน และที่สำคัญคือเวลาเราอยู่ในบริเวณงาน เราก็ยังจะได้เจอศิลปินเดินไปเดินมา เหมือนเป็นผู้ชมอีกคน
พอพูดถึงเรื่องบรรยากาศ เราเองก็ยังอดดีใจไม่หาย ที่ Gene Lab Con ยังคงยืนพื้นอยู่ที่ Union Hall 1 ในฮอลล์ที่การเดินทางง่าย และซาวด์โอเค ซึ่งรูปฮอลล์ที่มีการจัดโซนดี ก็เอื้อต่อการจัดกิจกรรมครั้งนี้ที่ไม่ได้มีแค่คอนเสิร์ตด้วย ถือได้ว่าทุกอย่างในงานทั้งตารางเวลา, ศิลปิน สถานที่ รวมกันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวเลย
อัลบั้มภาพ 52 ภาพ