T-Pop ร่วมปลุกกระแส Thai Music Wave ดัน Soft Power ดนตรีไทยสู่ตลาดโลก

ปี 2567 ถือเป็นปีที่วงการดนตรีไทยสร้างกระแสบนเวทีระดับโลกได้อย่างน่าประทับใจ ศิลปินไทยหลายคนได้ขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรีชั้นนำระดับนานาชาติ เช่น SXSW Sydney 2024 ในออสเตรเลีย Baybeats Music Festival 2024 ที่สิงคโปร์ AXEAN Festival 2024 ในอินโดนีเซีย และ ONE MUSIC CAMP 2024 ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมดนตรีแข็งแกร่งระดับโลก

ความสำเร็จนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพของศิลปินไทย แต่ยังแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมดนตรีไทยกำลังก้าวสู่ตลาดสากลอย่างมั่นคง เปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้ศิลปินไทยในรุ่นต่อไปได้กล้าฝันและพัฒนาไปสู่ระดับโลก

T-Pop ร่วมปลุกกระแส Thai Music Wave ดัน Soft Power ดนตรีไทยสู่ตลาดโลก

เสน่ห์เฉพาะตัวของศิลปินไทยกับความหลากหลายในแนวดนตรี

ศิลปินไทยโดดเด่นจากการผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมไทยเข้ากับดนตรีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแนว ป๊อป, ฮิปฮอป, ร็อค, ลูกทุ่ง, หมอลำ หรือ ดนตรีพื้นบ้าน ซึ่งทำให้ผลงานของพวกเขามีเอกลักษณ์และเข้าถึงอารมณ์ผู้ฟังหลากหลายกลุ่ม

ตัวอย่างเช่น เจฟ ซาเตอร์ ศิลปินที่ผสานซาวด์ดนตรีหลากหลายแนวเข้ากับการถ่ายทอดอารมณ์ลึกซึ้ง หรือ มิลลิ ศิลปินฮิปฮอปสาวที่สื่อสารตัวตนผ่านเนื้อเพลงได้อย่างมีพลัง นอกจากนี้ยังมี บิวกิ้น-พีพี กับเพลงป๊อปที่ติดหู และวงเกิร์ลกรุ๊ป 4EVE ที่โดดเด่นทั้งการร้องและการเต้นจนได้รับความนิยมในต่างประเทศ

น้องใหม่อย่างวง BUS กับเพลงป๊อปสไตล์ชิค ๆ หรือ ลำไย ไหทองคำ นักร้องลูกทุ่งที่มีทั้งพลังเสียงและลีลาการแสดง ก็ล้วนเป็นตัวแทนของความหลากหลายทางดนตรีที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเพลงไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลก

T-Pop ร่วมปลุกกระแส Thai Music Wave ดัน Soft Power ดนตรีไทยสู่ตลาดโลก

โอกาสครั้งสำคัญของวงการเพลงไทยในตลาดโลก

กระแสความนิยมของศิลปินไทยยังทำให้ต่างประเทศเริ่มจับตามองและเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ เช่น Pyra ศิลปินไทยคนแรกที่ได้แสดงในเทศกาล Burning Man ที่สหรัฐอเมริกา และคว้ารางวัล Best Solo Act From Asia จาก BandLab NME Awards 2022 ที่อังกฤษ หรือ Pixxie เกิร์ลกรุ๊ปรุ่นใหม่ที่ได้รับความสนใจจากผู้จัดเทศกาลดนตรีในจีนอย่าง คุณเหมาเยว่เฟิง จากบริษัท Modern Sky

T-Pop ร่วมปลุกกระแส Thai Music Wave ดัน Soft Power ดนตรีไทยสู่ตลาดโลก

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าศิลปินไทยไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่มีโอกาสที่จะเติบโตและยืนหยัดในตลาดดนตรีนานาชาติได้อย่างมั่นคง

T-Pop ร่วมปลุกกระแส Thai Music Wave ดัน Soft Power ดนตรีไทยสู่ตลาดโลก

โครงการ Music Exchange กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จระดับโลก

เพื่อผลักดันวงการดนตรีไทยสู่ตลาดสากล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ได้ร่วมมือกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดนตรี จัดทำโครงการ Music Exchange ภายใต้กลยุทธ์ Push & Pull โดยเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยได้แสดงบนเวทีระดับนานาชาติ พร้อมเชิญผู้จัดงานและผู้คัดเลือกศิลปินจากทั่วโลกมาเยี่ยมชมเทศกาลดนตรีในไทย

นายณฐพล ศรีจอมขวัญ รองประธานคณะอนุกรรมการฯ และ CEO บริษัท สไปร์ซซี่ดิสก์ จำกัด กล่าวว่า โครงการนี้ช่วยลดข้อจำกัดที่ศิลปินไทยเคยเผชิญ เช่น การพึ่งพาคอนเน็กชันในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศ หากดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง 3-5 ปี จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น

T-Pop ร่วมปลุกกระแส Thai Music Wave ดัน Soft Power ดนตรีไทยสู่ตลาดโลก

เสริมความแข็งแกร่งให้วงการดนตรีไทย

ในปี 2568 คณะอนุกรรมการฯ จะมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมดนตรี เช่น การปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์เพลง การส่งเสริมความรู้ให้แก่ผู้ฟัง และพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมดนตรี เพื่อสร้างตลาดเพลงไทยให้แข็งแกร่ง พร้อมขยายกระแส Thai Music Wave ไปสู่ตลาดโลกอย่างมั่นคง

ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดโครงการ Music Exchange ได้ที่เว็บไซต์ www.cea.or.th หรือ Facebook Creative Economy Agency