ความสำเร็จในวันนี้ของ "เรทโทรสเปค"

ถ้าพูดถึงวงร็อกสายพันธุ์ใหม่ที่มีแนวดนตรีหนักหน่วงที่มาสร้างกระแสการแต่งกายสไตล์เรทโทรเรียน (กางเกงขาเดปฟิตๆ สีดำ เสื้อสีดำ) ให้เหล่าบรรดาวัยฮิพฮิตกันทั่วเมืองในช่วงปีที่ผ่านมา ต้องยกให้สี่หนุ่มวง "เรทโทรสเปค" ที่มีสมาชิกได้แก่ "แน็ป" ชนัทธา สายศิลา (ร้องนำ) "น็อต" ธนพล ศรีกาญจณา (กีตาร์) "บอม" ณพวัชร คชาชีวะ (เบส) และ "เบิร์ธ" ศุทธิพันธ์ สังข์ยุทธ (กลอง)

นอกจากการสร้างกระแสการแต่งกายและแนวดนตรีที่หนักหน่วงแล้ว ในปีที่ผ่านมา แม้ว่า เรทโทรสเปค จะไม่ได้ออกสื่อโปรโมทมากมายนัก แต่พวกเขากลับสร้างรายได้ให้แก่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในฐานะศิลปินหน้าใหม่ได้อย่างคาดไม่ถึง เรียกว่า ติดอันดับแถวบนของบริษัทเลยก็ว่าได้ แต่กว่าจะมีวันนี้พวกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ยังเป็นเรื่องที่น่าติดตาม

โดยบอม เป็นตัวแทนเพื่อนๆ ในวง เล่าถึงความสำเร็จของพวกเขาว่ากว่าจะมาเป็นเรทโทรสเปคในวันนี้ได้นั้น ต้องใช้เวลาบ่มเพาะความสำเร็จถึง 7 ปีเต็ม ซึ่งในช่วง 4-5 ปีแรกนั้น พวกเขามีโอกาสแจ้งเกิดจากการเป็นนักร้องใต้ดินที่สร้างผลงานเพลงขึ้นมาในลักษณะทำเอง ขายเอง ภายใต้แนวดนตรีดิบ เถื่อน จนกระทั่งมาถึงวันนี้ด้วยกาลเวลาทำให้มุมมองและความคิดกว้างขึ้น เฉกเช่นดนตรีที่ผ่านการขัดเกลาและทำให้พัฒนาขึ้นมา

"เมื่อต้นปี2004 วงเราได้เซ็นสัญญากับ จีนี่ เรคคอร์ด (เครือแกรมมี่) และมีผลงานออกมา ตอนแรกก็เจออุปสรรคนิดหน่อย เพราะงานเพลงของเราถูกขโมยไปปล่อยในอินเทอร์เน็ตถึง 7 เพลง สรุปแล้วเกือบทั้งอัลบั้ม เราเลยต้องทำงานกันใหม่ทั้งหมด

ตอนนั้นรู้สึกท้อแท้ใจมากเสียกำลังใจไปเลย แต่สุดท้ายจะทำยังไงได้ นอกจากล้มแล้วต้องรีบลุกขึ้นสู้ เพราะถ้าไม่มีเหตุการณ์ที่ถูกขโมยงานในวันนั้น วันนี้ก็คงไม่มีอัลบั้ม อันลีชด์ (Unleashed) เพราะมันทำให้เรามีเวลาหาข้อผิดพลาดของงานเพลงครั้งนั้น ปรับปรุงแก้ไขเป็นงานที่ดีในวันนี้"



พองานเพลงชิ้นล่าสุดนี้เสร็จสมบูรณ์ใช่ว่าเส้นทางของสี่หนุ่มวงร็อกสายเลือดใหม่ จะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเดิมทีวงเรทโทรสเปคไม่ได้มีสื่อโปรโมทสักเท่าไร แต่ด้วยความที่งานเพลงของพวกเขามีความแปลกและโดดเด่น ภายใต้การทำงานที่มีคอนเซ็ปต์แบบดนตรีที่หนักหน่วงบวกกับเมโลดี้ที่อ่อนหวาน ทำให้ไม่นานก็ได้กระแสตอบรับจากคนฟังอย่างมาก

"การที่มีค่ายมาดูแลผมว่าถือเป็นสิ่งที่ดีนะ จะได้มีคนมาแนะนำ เพราะไม่มีใครในโลกจะประสบความสำเร็จด้วยตัวคนเดียวหรอก และผมก็ไม่เคยน้อยใจทางค่าย ที่ไม่ค่อยโปรโมทพวกเราสักเท่าไรเลย แค่มีการพูดตลกแซวๆ กันในกลุ่มเพื่อนว่า ถึงแม้เอ็มวีจะมีการลงทุนน้อย แต่ผลตอบรับที่ได้ก็ชัดเจน หัวเราะทีหลังดังกว่า เพราะสุดท้ายงานเราก็ได้พิสูจน์ตัวมันเอง ถือว่าเป็นความโชคดีของพวกเรา

ต้องยกความดีทั้งหมดให้แฟนเพลงถ้าไม่มีพวกเขาก็ไม่มีพวกเราในวันนี้ ดังนั้นวงเรทโทรสเปคจะทำเหมือนแฟนเพลงทุกคนเป็นเพื่อนของเรา โดยพวกเราจะไม่ให้มีช่องว่างระหว่างแฟนเพลงกับศิลปินเลย เราจะอยู่กันแบบเพื่อน ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้พวกเราประสบความสำเร็จมาจนถึทุกวันนี้ ก็อยากจะบอกว่า เราเต็มที่กับสิ่งที่ตัวเองทำทุกอย่าง

คอนเสิร์ตแต่ละครั้งไม่ว่าจะเมื่อก่อนที่มีคนมาดูแค่7 คน หรือเป็นแสนคน เราก็เล่นสดและใส่ฝีมือเต็มที่เท่ากัน ไม่มีแบ่งแยกว่าคนมาดูมากดูน้อย แล้วจะต้องเล่นเท่ากับจำนวนคนที่มาดู ดังนั้นการที่ได้มายืนตรงจุดนี้ จึงรู้สึกดีใจมาก แต่สิ่งที่เหล่านี้จะเกิดขึ้นมาไม่ได้เลย ถ้าไม่มีแฟนเพลงสนับสนุน"

จากนั้นบอม เล่าถึงผลงานชุดต่อไปของวงว่า คาดว่าจะออกมาไม่เกินปลายปีนี้ ซึ่งเขายอมรับว่า การทำงานครั้งนี้กดดันมาก เพราะชุดแรกประสบความสำเร็จมาก แต่อย่างไรก็ตาม จะทำงานเพลงให้ออกมาเป็นตัวของตัวเอง และมีความสุขกับเพลงเหมือนเดิม

"เรื่องความเปลี่ยนแปลงในอัลบั้มชุด2 นั้น ผมว่าดนตรีก็เหมือนกับเสื้อผ้านั่นแหละ ที่ยังไงรูปทรงของมันไม่ว่าจะเป็นซิปหรือกระเป๋าจะมีการเปลี่ยนแปลง แตกต่างกันออกไปบ้าง แต่เสื้อผ้ามันก็คือเสื้อผ้าอยู่วันยังค่ำก็เหมือนกับงานเราที่ยังไงก็คงความเป็นวงเรทโทรสเปคอยู่" บอม กล่าวทิ้งท้าย

สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย