มันส์แบบรวบรัด! กับ Maroon 5 Live In Bangkok
ตั้งตารอคอยกันข้ามปี เมื่อบีอีซี เทโร เอนเตอร์เทนเมนท์ ส่งข่าวดีเอาใจคอเพลงสากลชาวไทยด้วยการนำ มารูน ไฟว์ (maroon 5) วงร็อคแถวหน้าของโลกมาระเบิดความมันส์ให้แฟนเพลงชาวไทยได้กรี๊ดกันถึงที่
ครั้นพอถึงวันแสดงจริงเมื่อวันทื่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ทางบีอีซี เทโรฯ ก็ได้เนรมิต อิมแพ็ค อารีน่า เป็นมหกรรมคอนเสิร์ตระดับอินเตอร์อีกครั้ง ไม่ต้องห่วงว่าแฟนคลับ-แฟนเพลง ของมารูนไฟว์ จะคับคั่งขนาดไหน แถมสีสันของเซเลบริตี้เมืองไทยที่ไปเดินเฉิดฉายในงานก็สร้างความคึกคักได้เช่นเดียวกับทุกๆ คอนเสิร์ตต่างประเทศที่ผ่านมา
ว่ากันว่าโปรแกรมการทัวร์คอนสิร์ตรอบโลก It Won't Be Soon Before Long Tour ครั้งนี้เป็นการประเดิมเอเชี่ยน ทัวร์ ประเทศแรกในแถบเอเชียก่อนจะตะลุยทัวร์ต่อที่ประเทศญี่ปุ่นอีก 4 รอบ ตามกำหนดการเดิม (ก่อนที่จะเพิ่มรอบการทัวร์ที่สิงคโปร์ในเวลาต่อมา) แฟนเพลงชาวไทยก็เลยแอบยืดได้เล็กๆ ที่พวกเขาเลือกแดนสยามเมืองยิ้มของเราเป็นจุดหมายแรกในเอเชีย (แม้จะแอบคิดเล่นๆ ว่า ทัวร์แรกในเอเชียของพวกเขากับอากาศร้อนในบ้านเราบวกกับแฟนเพลงที่ไม่ค่อยคึกคักเหมือนเมืองใหญ่ๆ ที่ไปมา อาจทำให้พวกเขาประทับใจน้อยกว่าที่อื่นๆ หรือเปล่า) แต่ความมันส์ที่ มารูน ไฟว์ มอบให้ชาวไทยในวันนั้น ก็ถือว่าสนุกสะใจตามมาตรฐานของพวกเขาในระดับหนึ่ง
และถือเป็นมาตรฐานที่สูงซะด้วย !!! โดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาเวลาการแสดง!
แค่เปิดเวที มารูน ไฟว์ ก็ทำให้พี่ไทยที่ชอบโอ้เอ้เป็นนิสัยหลายคนต้องพลาดเพลงฮิตๆ ช่วงมันส์ไปเป็นแถวๆ เพราะพวกเขาขึ้นเวทีตรงต่อเวลาตามกำหนด 20.30 น. พอดีเป๊ะ พอเพลงเปิดเวที If I Never See Your Face Again จบปุ๊บ ก็รีบต่อด้วย Makes Me Wonder แบบไม่ยอมให้เสียเวลา ซึ่งเชื่อว่าหลายคนที่ไปสายหรือรอคิวยาวเหยียดอยู่ข้างหน้าคงตีอกชกตัวทึ้งหัวกระจุยกระจาย เพรา set list ของพวกเขา ไม่ได้เก็บเพลงฮิตที่เพิ่งได้รางวัล แกรมมี่ อวอร์ดส์ เพลงนี้เอาไว้เป็นของดีปิดท้าย หรือเล่นซ้ำรอบสองอย่างที่หลายคนคิดกันไปก่อนหน้า
คุณภาพเสียงยังคงเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่สร้างความปวดหัวกับทีมงานและความไม่สำราญของผู้ชม แต่อย่างน้อยการจัดคอนเสิร์ตช่วงหลังๆ ของเวทีนี้ก็มีทิศทางที่พัฒนาขึ้นพอสมควร แต่ก็มีความรู้สึกว่าคอนเสิร์ตในครั้งนี้คุ้มค่าที่ได้ตีตี๋วเข้าไปชม ซึ่งไม่ได้อยู่ที่โปรดักชั่นอลังการเหมือนครั้งที่ ลินคิน พาร์ค ทุ่มทุนสร้างไปหลายสตางค์เมื่อปลายปีก่อน เพราะเปรียบเทียบกันแล้ววิช่วลเทคนิคต่างๆ บนเวทีนั้นจัดว่าธรรมดามาก แต่พวกเขาก็แลกด้วยโชว์ที่ทำให้คนไทยหลายคนมันส์ได้ภายใต้โปรดักชั่นน้อยนิด...ถ้าไม่ใช่เพราะฝีมือ เล่นจริง ร้องจริง ล้วนๆ ก็คงพูดได้คำเดียวว่างานกร่อยทันที
มารูน ไฟว์ ขนเพลงฮิตจากอัลบั้ม It Won't Be Soon Before Long มาเล่นแทบจะหมดทั้งชุด และ อดัม เลวิน ก็ปลุกระดมแฟนๆ ได้ดีในระดับหนึ่ง และไม่ลืมที่จะทักทายด้วยภาษาไทยง่ายๆ ตามธรรมเนียมเหมือนศิลปินต่างประเทศอีกหลายคนที่มาเปิดการแสดงบนเวทีนี้ (แต่คนข้างๆ ที่ไปด้วยก็ยังแอบกระซิบแบบทึ่งๆ ว่า อดัมพูดภาษาไทยชัดเหมือนกันแฮะ!) และความเครื่องร้อนช้าของพี่ไทย กว่าคอนเสิร์ตเริ่มจะคึกคักบ้างก็ต้องรอจนถึงเพลง Wake Up Call และไปพีคเอาในช่วงที่อินกันสุดๆ ในเพลง Won't Go Home Without You ที่น่าจะเป็นไฮไลท์เด็ดของโชว์ในคืนนั้น ตามมาด้วยช่วงส่งท้ายที่คัดเอาเพลงฮิตติดหูคนไทยจากอัลบั้ม Songs About Jane ทั้ง This Love,She Will Beloved, Sunday Morning มาเล่นแบบไม่ให้เสียน้ำใจแฟนเพลงที่ติดตามกันมาแต่ต้น
หลังสิ้นเสียงเพลง She Will Beloved พวกเขาก็เดินย่อยๆ กันออกมาโค้งคำนับคุณผู้ชมอย่างสวยงาม (ท่ามกลางความงงและอารมณ์ที่บิ๊วไว้ก็ค้างเติ่ง! ว่าอยากสนุกทั้งทีทำไมเวลาช่างสั้นนัก) เหลือบไปดูนาฬิกาก็เป็นเวลา 4 ทุ่มเป๊ะ จนอดนึกเล่นๆ ไม่ได้ว่า ถ้าจะขอ อองกอร์ อีกรอบ พวกเขาจะยอมออกมามันส์ต่อกับแฟนๆ อีกไหมนี่!
แต่อย่างไรเสียก็ถือเป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตเปิดศักราชที่ไม่ได้ทำให้แฟนๆ ของ มารูน ไฟว์ ผิดหวังกับค่าบัตรและรับได้กับเวลาแสดงอันจำกัดครั้งนี้.....ว่าแต่ใครต่อใครก็บอกว่าคอนเสิร์ตเขามันส์..อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไหงมีเราเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ลุกขึ้นเต้นตามในคืนวันนั้นล่ะหนอ...
คลิ้กชมภาพมันส์ๆ จากคอนเสิร์ตสุดมันส์ครั้งแรกในเมืองไทยของ Maroon 5
ครั้นพอถึงวันแสดงจริงเมื่อวันทื่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ทางบีอีซี เทโรฯ ก็ได้เนรมิต อิมแพ็ค อารีน่า เป็นมหกรรมคอนเสิร์ตระดับอินเตอร์อีกครั้ง ไม่ต้องห่วงว่าแฟนคลับ-แฟนเพลง ของมารูนไฟว์ จะคับคั่งขนาดไหน แถมสีสันของเซเลบริตี้เมืองไทยที่ไปเดินเฉิดฉายในงานก็สร้างความคึกคักได้เช่นเดียวกับทุกๆ คอนเสิร์ตต่างประเทศที่ผ่านมา
ว่ากันว่าโปรแกรมการทัวร์คอนสิร์ตรอบโลก It Won't Be Soon Before Long Tour ครั้งนี้เป็นการประเดิมเอเชี่ยน ทัวร์ ประเทศแรกในแถบเอเชียก่อนจะตะลุยทัวร์ต่อที่ประเทศญี่ปุ่นอีก 4 รอบ ตามกำหนดการเดิม (ก่อนที่จะเพิ่มรอบการทัวร์ที่สิงคโปร์ในเวลาต่อมา) แฟนเพลงชาวไทยก็เลยแอบยืดได้เล็กๆ ที่พวกเขาเลือกแดนสยามเมืองยิ้มของเราเป็นจุดหมายแรกในเอเชีย (แม้จะแอบคิดเล่นๆ ว่า ทัวร์แรกในเอเชียของพวกเขากับอากาศร้อนในบ้านเราบวกกับแฟนเพลงที่ไม่ค่อยคึกคักเหมือนเมืองใหญ่ๆ ที่ไปมา อาจทำให้พวกเขาประทับใจน้อยกว่าที่อื่นๆ หรือเปล่า) แต่ความมันส์ที่ มารูน ไฟว์ มอบให้ชาวไทยในวันนั้น ก็ถือว่าสนุกสะใจตามมาตรฐานของพวกเขาในระดับหนึ่ง
และถือเป็นมาตรฐานที่สูงซะด้วย !!! โดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาเวลาการแสดง!
แค่เปิดเวที มารูน ไฟว์ ก็ทำให้พี่ไทยที่ชอบโอ้เอ้เป็นนิสัยหลายคนต้องพลาดเพลงฮิตๆ ช่วงมันส์ไปเป็นแถวๆ เพราะพวกเขาขึ้นเวทีตรงต่อเวลาตามกำหนด 20.30 น. พอดีเป๊ะ พอเพลงเปิดเวที If I Never See Your Face Again จบปุ๊บ ก็รีบต่อด้วย Makes Me Wonder แบบไม่ยอมให้เสียเวลา ซึ่งเชื่อว่าหลายคนที่ไปสายหรือรอคิวยาวเหยียดอยู่ข้างหน้าคงตีอกชกตัวทึ้งหัวกระจุยกระจาย เพรา set list ของพวกเขา ไม่ได้เก็บเพลงฮิตที่เพิ่งได้รางวัล แกรมมี่ อวอร์ดส์ เพลงนี้เอาไว้เป็นของดีปิดท้าย หรือเล่นซ้ำรอบสองอย่างที่หลายคนคิดกันไปก่อนหน้า
คุณภาพเสียงยังคงเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่สร้างความปวดหัวกับทีมงานและความไม่สำราญของผู้ชม แต่อย่างน้อยการจัดคอนเสิร์ตช่วงหลังๆ ของเวทีนี้ก็มีทิศทางที่พัฒนาขึ้นพอสมควร แต่ก็มีความรู้สึกว่าคอนเสิร์ตในครั้งนี้คุ้มค่าที่ได้ตีตี๋วเข้าไปชม ซึ่งไม่ได้อยู่ที่โปรดักชั่นอลังการเหมือนครั้งที่ ลินคิน พาร์ค ทุ่มทุนสร้างไปหลายสตางค์เมื่อปลายปีก่อน เพราะเปรียบเทียบกันแล้ววิช่วลเทคนิคต่างๆ บนเวทีนั้นจัดว่าธรรมดามาก แต่พวกเขาก็แลกด้วยโชว์ที่ทำให้คนไทยหลายคนมันส์ได้ภายใต้โปรดักชั่นน้อยนิด...ถ้าไม่ใช่เพราะฝีมือ เล่นจริง ร้องจริง ล้วนๆ ก็คงพูดได้คำเดียวว่างานกร่อยทันที
มารูน ไฟว์ ขนเพลงฮิตจากอัลบั้ม It Won't Be Soon Before Long มาเล่นแทบจะหมดทั้งชุด และ อดัม เลวิน ก็ปลุกระดมแฟนๆ ได้ดีในระดับหนึ่ง และไม่ลืมที่จะทักทายด้วยภาษาไทยง่ายๆ ตามธรรมเนียมเหมือนศิลปินต่างประเทศอีกหลายคนที่มาเปิดการแสดงบนเวทีนี้ (แต่คนข้างๆ ที่ไปด้วยก็ยังแอบกระซิบแบบทึ่งๆ ว่า อดัมพูดภาษาไทยชัดเหมือนกันแฮะ!) และความเครื่องร้อนช้าของพี่ไทย กว่าคอนเสิร์ตเริ่มจะคึกคักบ้างก็ต้องรอจนถึงเพลง Wake Up Call และไปพีคเอาในช่วงที่อินกันสุดๆ ในเพลง Won't Go Home Without You ที่น่าจะเป็นไฮไลท์เด็ดของโชว์ในคืนนั้น ตามมาด้วยช่วงส่งท้ายที่คัดเอาเพลงฮิตติดหูคนไทยจากอัลบั้ม Songs About Jane ทั้ง This Love,She Will Beloved, Sunday Morning มาเล่นแบบไม่ให้เสียน้ำใจแฟนเพลงที่ติดตามกันมาแต่ต้น
หลังสิ้นเสียงเพลง She Will Beloved พวกเขาก็เดินย่อยๆ กันออกมาโค้งคำนับคุณผู้ชมอย่างสวยงาม (ท่ามกลางความงงและอารมณ์ที่บิ๊วไว้ก็ค้างเติ่ง! ว่าอยากสนุกทั้งทีทำไมเวลาช่างสั้นนัก) เหลือบไปดูนาฬิกาก็เป็นเวลา 4 ทุ่มเป๊ะ จนอดนึกเล่นๆ ไม่ได้ว่า ถ้าจะขอ อองกอร์ อีกรอบ พวกเขาจะยอมออกมามันส์ต่อกับแฟนๆ อีกไหมนี่!
แต่อย่างไรเสียก็ถือเป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตเปิดศักราชที่ไม่ได้ทำให้แฟนๆ ของ มารูน ไฟว์ ผิดหวังกับค่าบัตรและรับได้กับเวลาแสดงอันจำกัดครั้งนี้.....ว่าแต่ใครต่อใครก็บอกว่าคอนเสิร์ตเขามันส์..อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไหงมีเราเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ลุกขึ้นเต้นตามในคืนวันนั้นล่ะหนอ...