เจาะชีวิต รุจ เดอะสตาร์ ตัวตน และ คนที่รัก | Sanook Music

เจาะชีวิต รุจ เดอะสตาร์ ตัวตน และ คนที่รัก

เจาะชีวิต รุจ เดอะสตาร์ ตัวตน และ คนที่รัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook



ถูกจับตามองตั้งแต่เข้ารอบ8 คนสุดท้าย ของการประกวด เดอะสตาร์4 กระทั่งก้าวผ่านมาคว้าอันดับ 2 ไปครองอย่างไรก็ตามที เชื่อเหลือเกิน ว่านาทีนี้ความแรงความฮอตของหนุ่มหล่อที่ชื่อ รุจ- ศุภรุจ นั้น ได้การต้อนรับแบบท่วมท้นเลยทีเดียว



ร้อนแรงขนาดนี้ คม ชัด ลึก ไม่พลาดล้วงลึกนั่งคุยกับ รุจ ทันทีที่เจอหน้าเจ้าตัวก็ฉีกยิ้มที่เป็นเสน่ห์ประจำตัวให้ ก่อนจะพูดคุยแบบเป็นกันเอง



รุจ กับชีวิตหลัง เวทีเดอะสตาร์



ตั้งรับกับชื่อเสียงที่ได้รับในตอนนี้อย่างไรบ้าง



- เราก็ค่อนข้างจะต้องปรับตัวเยอะจริงๆ ผมมีชีวิตแบบสบายๆ อย่างเดินห้าง จากที่ไม่เคยมีคนรู้จัก ตอนนี้ไปไหนก็มีคนจำได้ รู้จักเยอะขึ้น พอมาอยู่จุดนี้ จะทำอะไรก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น จะคิด จะพูดอะไรก็ต้องคิดให้ดี หลายๆ เรื่องมันต้องปรับตัวเยอะขึ้น



ปรับในที่นี้หมายถึงต้องเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวเองด้วยหรือเปล่า



- เป็นลักษณะของการเปิดตัวเองมากขึ้นเราก็จะเปิดเท่าที่เราเปิดได้ จริงๆ เป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไร ยกเว้นเพื่อนในกลุ่ม แต่พอมาอยู่ตรงนี้ ก็ต้องเปิดตัวเองมากขึ้น เพราะด้วยสิ่งที่ยืนอยู่ เราต้องทำความรู้จักกับคนหลายกลุ่ม



แสดงว่าสิ่งที่เป็นอยู่ณ ปัจจุบัน ขัดกับบุคลิกของรุจอยู่พอสมควร



- จริงๆ มันก็ขัด มันจะเป็นลักษณะของกลุ่มที่เราอยู่ด้วยมากกว่า อย่างเช่นถ้าผมอยู่กับเพื่อนที่สนุก ผมก็จะสนุกสนานเฮฮา ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร แต่พอมาเจอคนกลุ่มใหม่ ที่เราไม่คุ้นเคยก็ต้องปรับตัว แต่ก่อนจะเป็นคนปรับตัวช้ามาก จะพูดคุยกับใครทีก็จะคิด เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่พูดคุยกับเรา เข้ามาหาเรา เขาคิดกับเรายังไง เขามีวัตถุประสงค์อะไร ก็ต้องดูเยอะ



นอกจากชื่อเสียงที่ได้มาแล้วข่าวต่างๆ ก็ถาโถมตามมาด้วย โดยเฉพาะกระแสที่มองว่ารุจหยิ่ง



- จริงๆ เรื่องหยิ่ง ผมมีมาตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว เพราะผมไม่ค่อยคุยกับใคร ก็จะโดนเรื่องนี้เยอะ มันเป็นเรื่องห้ามไม่ได้ที่เขาจะมองหรือพูดยังไง บางคนเขาอาจจะไม่รู้จักเรา เราเดินผ่าน แล้วเราอารมณ์ไม่ดี เขาก็อาจจะคิดหรือพูดได้ว่าผมหยิ่ง แต่จริงๆ ผมเป็นคนนิ่งๆ กับคนที่ไม่รู้จักกัน เพราะฉะนั้นโอกาสจะโดนว่าหยิ่งก็คงไม่แปลก



ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยเปิดตัวเองทำให้คนรู้จักตัวตนของรุจน้อย งั้นลองบอกตัวตน หรือไลฟ์สไตล์ของรุจให้ฟังหน่อยสิ



- พูดยากนิดหนึ่ง (ยิ้ม) จริงๆ แล้วเป็นคนร่าเริง สนุกสนาน เฮฮา ติงต๊อง ทุกอย่าง ปากก็ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก (หัวเราะ) เป็นเหมือนคนทั่วๆ ไป ที่เวลาอยู่กับเพื่อนสนิทก็จะสนุก แต่ด้วยความที่ถูกสอนมา ว่าเวลาเราเข้าหาผู้ใหญ่ ติดต่อประสานงานก็ต้องเรียบร้อย รวมไปถึงคนที่เราไม่สนิท หรือยังไม่รู้จักกันเท่าไร เราก็จะเงียบ พูดน้อยๆ ส่วนมากผมจะเจอแบบนี้ เพราะกลุ่มผมจริงๆ เป็นเพื่อนกันนั้น เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น คนที่เขามองอยู่ภายนอก จะเป็นกลุ่มใหญ่ เพราะฉะนั้นเขาก็จะมองว่าผมเรียบร้อย เป็นคุณชาย ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ใช่คนแบบนั้น



ส่วนหนึ่งของการที่ผมมาร้องเพลงมันก็เป็นการแสดงตัวตนของผมออกมา ว่าผมก็ไม่ได้เป็นคนที่เรียบร้อยขนาดนั้น สมัยเด็กๆ ผมจะเป็นหนักกว่านี้ พอโตขึ้นก็เริ่มพูดคุยกับคนมากขึ้น เป็นมิตรกับคนมากขึ้น



รู้สึกอย่างไรบ้างถูกมองว่าเป็นคุณชาย



- ผมก็ไม่ชอบนะเพราะผมไม่ใช่แบบนั้น คนที่รู้ตัวเองดีที่สุดก็คือตัวเรา เพราะฉะนั้นเราไม่ใช่ ซึ่งคุณชายจริงๆ จะต้องเป็นคนเรียบร้อย พูดจาครับๆ ตลอดเวลา แต่ช่วงมัธยมของผมอาจจะดูเหมือนอย่างนั้น เพราะมีพ่อมีแม่มาคอยรับตลอดเวลา คือเป็นเด็กติดบ้าน คนเลยมองว่าคุณชาย แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยมาอยู่หอ ผมก็ไม่ได้ขับรถเบนซ์ ขี่มอเตอร์ไซค์ปกติเหมือนคนอื่นๆ ไม่ได้มีส่วนไหนบอกว่าเราเป็นคุณชาย อาจเป็นเพราะผมมีลุคแบบนี้ และมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นน้อย



มีอารมณ์เซี้ยวซน ซ่า ตามประสาเด็กผู้ชายเยอะไหม



- มีบ้างแต่ก็ไม่เยอะ อย่างตอนมัธยมผมจะติดบ้าน เข้าโรงหนังยังไม่ถึง 2 ครั้งเลยคือส่วนหนึ่ง อาจเป็นเพราะที่บ้านตีกรอบให้แบบนี้ และอีกอย่าง คือพี่ชายของผมจะชอบเที่ยวกลางคืน พ่อแม่บอกว่าไม่ควรเอาอย่างนะ จริงๆ เขาก็ไม่ได้บังคับ แต่เรารู้สึกว่าเราติดบ้านมากกว่า กลับบ้านก็นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ เล่นเกม ก็มีความสุขดี พอเพื่อนมาชวนไปดูหนัง ก็ขี้เกียจไป ยิ่งพอเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อนชวนไปเที่ยวเขาใหญ่ ภูกระดึง ผมก็ไม่ไป ส่วนหนึ่งผมก็ไม่เที่ยวกลางคืน เพราะของมึนเมา สูบบุหรี่ผมก็ไม่เอา คือสมมติถ้าผมไปเที่ยวกลางคืน ซึ่งมีของมึนเมา แล้วถ้าเราไม่สูบไม่ดื่ม เราจะนั่งทำอะไร ถ้าแบบนั้นก็เลือกที่จะไม่ไปดีกว่า



แสดงว่าครอบครัวตีกรอบการใช้ชีวิตของรุจพอสมควร



- ส่วนหนึ่งเอาเป็นว่า 70% อีก30% มันเป็นเพราะตัวผมชอบที่จะเป็นแบบนี้ผมมีความสุขแบบนี้มากกว่า กรอบที่ครอบครัวตีไว้ให้ ผมก็ไม่ได้อึดอัด และผมชอบเล่นคอมพ์ ผมคิดว่าอยู่บ้านก็ดี ไม่ต้องไปเที่ยวก็ไม่เป็นไร และแม่จะรู้ว่าผมชอบเล่นเกม อย่างตอนเรียนมัธยมแม่จะบอกว่าถ้าอยากไปเล่นเกมก็บอก จะไปส่ง เพราะเขารู้ว่าเราก็อยู่ในสายตา ดีกว่าเราไปเที่ยวกลางคืน



พอออกจากบ้านเดอะสตาร์ มาก็เจอข่าวเรื่องทำศัลยกรรมเลย ตอนนั้นตกใจไหม เพราะเราไม่ใช่คนทำงานอยู่ในวงการนี้มาก่อน


-
จริงๆ ผมเป็นคนคิดเยอะนะ ผมคิดไว้แล้วแหละ ว่าเข้ามาต้องเจออะไรบ้าง อย่างเรื่องพวกนี้ ก็คิดว่าต้องโดน เพราะผมไม่ได้ปิด คนมาถามว่าทำไหม ก็บอกว่าทำ ยกเว้นเขาไม่ได้สังเกตเราก็ไม่ได้บอก เพราะฉะนั้นคนที่มาถามว่าทำหรือเปล่า ผมก็ตอบไปตรงๆ



แล้วถ้ายังต้องมีข่าวอื่นๆขุดคุ้ยเรื่องต่างๆ ตรงนี้เตรียมใจไว้มากน้อยแค่ไหน



- เมื่อก่อนผมเป็นคนค่อนข้างแคร์คนแคร์คำด่า คำวิจารณ์ สมัยก่อนเวลามีคนมาพูดอะไร ผมต้องรีบแก้ทันที แต่พอถึงตรงนี้เหมือนกับ ว่ามันเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้หมด อย่างอินเทอร์เน็ต จะมีการตั้งกระทู้ พูดโน่น พูดนี่ เราก็พยายามคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติของคนที่จะมายืนตรงจุดนี้ต้องโดนทุกคน เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่สนใจเขามากก็โอเค เอาเฉพาะที่เราสามารถควบคุมได้ดีกว่า อย่างเรื่องทางอินเทอร์เน็ต ผมก็ไม่เข้าไปดูแล้ว ส่วนเรื่องข่าวอื่นๆ ข่าวเสียหายยังไงก็ต้องเข้ามา ต้องผ่านมาทางผู้สื่อข่าวมาถามเรา เราก็ค่อยบอก ค่อยอธิบายก็ได้ เอาง่ายๆ ถ้ามันเป็นแค่ข่าวลือ และเราไม่ได้ทำจริงเราก็ไม่ต้องไปซีเรียสมาก



ส่วนเรื่องการขุดคุ้ยจริงๆผมเห็นมาตั้งแต่เด็ก พ่อผมก็เป็นนักการเมือง มันเป็นเรื่องปกติของคนที่จะมาเป็นคนของประชาชน จริงๆ ผมไม่เคยคิดว่าเราจะโดนแบบนั้น แต่พอมาเจอก็คิดว่าไม่เป็นไร อย่างที่บอกว่าอะไรควบคุมได้ก็ควบคุม ถ้าไม่ได้ก็ปล่อยมันไป



ครอบครัวให้คำแนะนำอะไรบ้างกับการเข้ามาทำงานตรงนี้



- ครอบครัวก็ให้กำลังใจตลอดแม่ก็จะคอยเตือน คอยดูแล ส่วนพ่อจะไม่ค่อยพูดกับผมเท่าไร จะฝากแม่บอกผมมากกว่าเกี่ยวกับอะไรที่สำคัญๆ จริงๆ อย่างเช่นเรื่องของการวางตัว คือเขาก็รู้ว่าเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำอะไรก็คงจะต้องรู้ตัวเอง อีกอย่างตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก จนถึงตอนนี้ผมไม่ได้เกเรอะไรมาก อยู่ในกรอบตลอดเวลาอยู่แล้ว



กดดันไหมที่กระแสออกมาเยอะมากว่าเรามาทางเดียวกับบี้ (สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) คือแม้จะได้ที่2 แต่ความดังร้อนแรงมาก



- จริงๆ ผมว่าไม่เหมาะสมเท่าไร คือบี้เป็นซูเปอร์สตาร์ เข้าวงการก่อนผม มีงานที่ทุกคนยอมรับมากกว่าผม ผมเข้ามาผมเป็นมือใหม่ ต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ เพราะฉะนั้นไม่เหมาะสมที่จะเอาผมไปเปรียบเทียบ



ข่าวออกมาว่าเป็นลูกรักคนใหม่ของคุณบอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) ด้วย



- อันนี้ก็โดนถามประจำ (ยิ้ม) แต่ก็ไม่ได้หนักใจ จริงๆ มันเทียบกันไม่ได้ เพราะผมก็เป็นตัวผม



แว่วว่าซิทคอมเรื่อง นัดกับนัด จะมีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น นัด นัด นัด เพื่อให้รุจได้แสดงด้วย ตรงนี้รุจทราบเรื่องหรือยัง



- ไม่ทราบครับมีคนถามมาว่าได้ยินแบบนี้ๆ แต่ผมยังไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นคงเป็นแค่กระแสข่าวลือมากกว่า ตรงนี้ขึ้นอยู่กับอนาคต



สนใจเรื่องการแสดงมากน้อยแค่ไหน



- ถ้าให้เลือกผมเลือกร้องเพลงดีกว่าลักษณะของการที่ผมเข้ามาประกวดก็เพราะผมต้องการหาประสบการณ์การร้องเพลง อยากมีอัลบั้มของตัวเอง อยากเป็นศิลปิน แต่เรื่องการแสดง มันเป็นเรื่องของอนาคตมากกว่า อาจจะลอง ชอบไม่ชอบก็เป็นเรื่องของอนาคต



คนโดยมากมองรุจว่า หล่อ-รวย-เก่ง ครบสูตร ตัวเราคิดอย่างไร



- เอาทีละอย่างเริ่มจากหล่อ ผมว่ามันเป็นเรื่องของคนที่เขามองผมมากกว่า ว่าเขาจะมองผมแบบไหน ส่วนเรื่องรวยผมว่าไม่ใช่ ถ้าดูจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผมแล้ว ไม่ใช่ ผมค่อนข้างติดดินพอสมควร ถ้าผมรวยจริง ผมคงขับรถเบนซ์ไปแล้ว ผมคงไม่ต้องมานั่งขี่มอเตอร์ไซค์หรอก (หัวเราะ) และจริงๆ ผมค่อนข้างขี้เหนียวเหมือนกันนะ (ยิ้ม) เช่นของที่ผมอยากได้ ผมก็จะเก็บเงินซื้อ อย่างร้านอาหารถ้าเป็นไปได้ผมจะไม่กินของแพง ถามว่าเพราะอะไร เพราะพ่อแม่สอนให้ผมรู้จักใช้เงินให้เป็นประโยชน์ วันนี้เรามีเงินใช้ อนาคตเราอาจจะไม่มีก็ได้ สิ่งที่ดีที่สุดคือเก็บไว้ดีกว่า



ส่วนเรื่องเก่งถ้าจะบอกว่าร้องเพลงเก่ง คงไม่ใช่ ผมยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะ ผมยังไม่ถึงขั้นนั้น เราอาจจะแค่มีแววว่าถ้าเกิดพัฒนาแล้วอาจจะดีขึ้น ต่อให้วันนี้เราร้องดี แต่เราก็ต้องร้องดีกว่านี้อีก ไม่มีสิ้นสุดของคำว่าเก่ง อย่างเรื่องการเรียน ผมค่อนข้างหัวดี หัวไว แต่ขี้เกียจ (ยิ้ม) เพราะฉะนั้นคำว่าเก่งต้องดูหลายๆ อย่างประกอบกัน เก่งไม่เก่งผมว่าดูต่อไปดีกว่า ถ้าเกิดวันหนึ่งเราได้ทำตามฝันของเราจริงๆ อย่างนั้นแหละเรียกว่าเก่ง แต่ตอนนี้ยัง



แง้มหัวใจ รุจ



มีสาวๆ เข้ามาหาเยอะไหม



- จริงๆ แฟนคลับผมจะเป็นรุ่นผู้ใหญ่นิดหนึ่ง เพราะเขาจะค่อนข้างเอ็นดูผม แต่ถ้าเด็กๆ รุ่นๆ น่าจะเป็น ต้น (ชยธร เศรษฐจินดา) มากกว่ามั้งครับ ถามว่ามีคนเข้ามาหาไหม ก็มีบ้าง แต่ไม่เยอะ



อย่างที่บอกว่าเป็นคนค่อนข้างระวังตัวรวมถึงเรื่องการมองสาวๆ ด้วยหรือเปล่า



- ถ้าเรื่องผู้หญิงผมค่อนข้างเลือกมากกว่าปกติด้วยเริ่มจากการที่ผมเป็นคนเก็บตัว โอกาสที่จะเจอใครก็ค่อนข้างน้อยแล้ว และสมมติถ้าผมเป็นคนเที่ยวกลางคืน โอกาสที่จะเจอผู้หญิงก็เยอะ แต่นี่ผมตัดการเที่ยวออกไป อยู่แต่บ้าน และหอพัก โอกาสเจอผู้หญิงก็น้อย และก็อาจจะพลาดที่จะเจอคนดีๆ เยอะ เพราะฉะนั้นเมื่อเราเป็นแบบนี้เราก็รู้ตัวเองมาตลอด ผมเจอและรู้จักผู้หญิงน้อยมาก



สมมติผมจะคบใครสักคนผมจะไม่คิดว่าคบแค่ปีหนึ่ง แล้วก็เลิก เพราะถ้าเป็นแบบนั้นโอกาสที่จะเจอคนดีๆ ก็จะยิ่งมีน้อย เหมือนตัดทอนเวลา เพราะฉะนั้นใช้เวลาตรงนี้เลือกเยอะเหมือนกัน ผมว่าใช้เวลานานๆ และคบนานๆ ดีกว่า



และยิ่งผมมาอยู่ตรงนี้ผมก็ต้องคิดและดูให้ดีๆ เพราะผมไม่อยากให้ภาพปาปาราซซีของเราออกมาเป็นคนคบคนแบบฉาบฉวย เหมือนกับเราเป็นคนไม่มั่นคง ถามว่าอยากมีไหมความรักแบบวัยรุ่นๆ ก็อยากมี แต่ทีนี้ก็ต้องมองตัวเองว่าเราไม่ได้อายุน้อยแล้ว เพราะฉะนั้นทำอะไรต้องระมัดระวัง



พูดแบบนี้หมายถึงหัวใจยังว่างไม่มีแฟน



- ยังไม่มีครับก็ทำงานไปเรื่อยๆ คือไม่ได้บอกว่าจะไม่หา ก็ทำงานไป มองไป อาจจะเจอคนดีๆ ก็ได้ เราไม่ปิดตัวเอง จะเจอวันนี้ หรือพรุ่งนี้ก็ได้ ถามว่ามีคนที่คุยอยู่ด้วยไหม ก็มีบ้าง แต่เรายังไม่ถึงกับบอกว่าคนนี้เป็นแฟนเรา เพราะสิ่งที่เราจะวัดได้ว่าคนนี้ใช่หรือไม่ใช่ มันต้องดูกันยาวๆ



มุมมองความรักของรุจเป็นอย่างไรบ้าง



- ผมว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามมนุษย์ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องมี แม้ปัจจุบันคนอาจจะเป็นโสดกันมากขึ้น แต่ส่วนหนึ่งที่โสดเพราะเขาต้องการจะมีชีวิตแบบอิสระ เพื่อจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ อีก แต่ผมว่าเป็นส่วนน้อยนะ ผมมองว่าความรักเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ก็ต้องไม่ไปทุ่มเทกับมันมากเกินไป เพราะมากเกินไปเดี๋ยวอกหัก ทำอะไรไม่ได้ มีความรักเพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกันดีกว่า



อย่างศุภรุจ เคยอกหักบ้างไหมเนี่ย



- ก็พอมีถามว่าบ่อยไหม ก็บ่อยอยู่นะครับ จะเป็นลักษณะการอกหักแบบที่เราคิดไปเองมากกว่า ด้วยความที่พื้นฐานเป็นคนขี้อาย ก็จะทำให้เขารู้เฉยๆ ว่าเราชอบ แต่เราจะไม่กล้าเข้าไปจีบเขา พอเป็นแบบนี้ ก็เป็นเรื่องปกติที่อกหัก แต่ถ้าถามว่าอกหักจริงๆ ไปจีบจริงๆ จังๆ ก็จะอกหักลักษณะเข้ากันไม่ได้มากกว่า ซึ่งก็มีครั้งเดียวในชีวิต



ผ่านเวที ค้นฟ้าคว้าดาว ให้สาวๆ ได้เห็นความสามารถของ รุจ กันไปแล้ว มาครั้งนี้คงได้เห็นตัวตนของหนุ่มหล่อคนนี้ไปไม่มากก็น้อยเช่นกัน



ประวัติ



วันเกิด : 13 กันยายน2527

การศึกษา : ปัจจุบันเรียนปริญญาโทอยู่ที่วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ ปริญญาตรี คณะวิทยาการจัดการ สาขาเศรษฐศาสตร์ ม.ขอนแก่น

ศิลปินที่ชื่นชอบ : ตูน บอดี้สแลม

งานอดิเรก : เล่นเกมอ่านการ์ตูน ร้องคาราโอเกะ



เรื่อง พร หวัน ภาพ นิตยสารสุดสัปดาห์



ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook