LAST CALL FOR GR 007
ไม่ให้เสียยี่ห้อ ก๊อดฟาเธอร์ ออฟ ดิสโก้ เมืองไทย เพราะหลังจากอัลบั้ม The Lift ที่ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งในรอบ 5 ปีของพวกเขาสร้างความเกรียวกราว ปลุกชีวิตชีวาตลาดเพลงเมืองไทยให้มีสีสันขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จเกินคาดของ กรูฟไรเดอร์ส สี่หนุ่มสุดเปรี้ยว บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, ณฐพล ศรีจอมขวัญ, อดิศักดิ์ หัตถกุลโกวิท และ มาตรชัย มะกรูดทอง ก็ขนวงดนตรีฟูลทีม พร้อมคอรัสสาวสวยสุดเซ็กซี่ ระเบิดคอนเสิร์ตใหญ่อย่างเป็นทางการของพวกเขาที่มีชื่อว่า Last Call For GR 007 แถมยังการันตีว่าพวกเขาฮอตจริงในพ.ศ.นี้ ด้วยการเพิ่มรอบคอนเสิร์ตอีก 1 รอบ เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 30- 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์
งานนี้ กรูฟไรเดอร์ส โชว์ลีลาสุดพริ้วขิงดนตรีดิสโก้กันเต็มสตรีม ให้สมกับที่เป็น last call ซึ่งพวกเขาเผยว่าจะขอทำโชว์ให้เต็มที่เหมือนกับว่านี่คือโชว์สุดท้ายของพวกเขา จึงรับประกันเรื่องโปรดักชั่นได้เต็มร้อยว่าอลังการงานสร้างแน่ๆ ซึ่งในส่วนของวิชวลกราฟฟิคต่างๆ บนเวทีที่แจ่มเจ๋วสุดๆ ที่อาจจะมีสะดุด ก็คงเป็นเรื่องของคุณภาพเครื่องเสียงที่ยังต้องปรับปรุงสำหรับครั้งต่อๆ ไป แต่ก็หักล้างด้วยโชว์บนเวทีไปได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับ song list ในคอนเสิร์ตวันนั้นก็ต้องบอกว่าจัดมาเพื่อ แฟนพันธุ์แท้ ของ กรูฟไรเดอร์สโดยเฉพาะ เพราะไล่เรียงรายชื่อเพลงดูแล้วไม่มีเพลงไหนที่แฟนๆ ร้องตามไม่ได้ นับตั้งแต่เปิดเวทีอย่างเป็นทางการด้วยเพลง ฮอร์โมน จากอัลบั้มแรก Discovery ต่อด้วย Lift ไตเติ้ลแทร็คจากอัลบั้มชุดปัจจุบัน และ น้องคะ จนถึง แค่เธอก็พอ ถือเป็นช่วงเรียกน้ำย่อยที่นอกจากแฟนๆ จะร้องตามกระหึ่มฮอลล์แล้ว เสียงกรี๊ดก็เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ดังดีไม่มีตกในคืนวันนั้น
และเพราะ กรูฟไรเดอร์ส ไม่ได้มีแค่ บุรินทร์ เพียงคนเดียวที่เป็นหัวใจหลักของวง สมาชิกที่เหลือต่างก็มีผลงานเดี่ยวและกลุ่มของตัวเองกันอยู่แล้ว คอนเสิร์ตนี้จึงเปิดโอกาสให้สมาชิกที่เหลือได้มีโอกาสโชว์เดี่ยวบนเวทีโดยเท่าเทียมกัน เริ่มจาก กั้ง มือกีตาร์ประจำวง ก็ถือโอกาสโชว์โซโลโปรเจคท์ Kungsanova โปรเจคท์กีตาร์น่าฟัง ก่อนที่จะเปลี่ยนบรรยากาศสลับกับความโรแมนติกในเพลง ที่แห่งนี้ อีกหนึ่งเพลงที่หลายคนรอฟังให้ได้ในคอนเสิร์ต
หลังเซ็ทแรกผ่านพ้น แขกรับเชิญคนแรกก็ขึ้นเวทีมาแจมกับพวกเขา แต่มาเป็นแขกรับเชิญของ กรูฟไรเดอร์ส ทั้งที งานนี้คงจะธรรมดาไม่ได้ งานนี้แฟนๆ อินดี้เมืองไทยเลยพร้อมใจกันกรี๊ดเมื่อ คงเดช จาตุรันต์รัศมี แห่ง สี่เต่าเธอ กระโดดขึ้นโยกย้ายส่ายสะโพกในเมดเลย์เก๋ๆ ตั้งแต่ ดิสโก้พาเพลิน ที่เจ้าตัวเป็นคนแต่งเนื้อร้องให้กับกรูฟไรเดอร์ส จนถึงงานของ สี่เต่าเธอ ที่หลายคนยังติดอกติดใจ ตั้งแต่ สบาย, Stereo, หนุ่มเท้าไฟ, คอสเมติก งานนี้ พี่เดช ของกรูฟไรเดอร์ส ถึงกับสารภาพว่า ไม่เคยขึ้นเวทีคอนเสิร์ตไหนที่มีคนกรี๊ดมากขนาดนี้
ต่อจากนั้น กรูฟไรเดอร์ส ก็ส่ง เมดเลย์รวมเพลงไม่ฮิต มาลดอุณหภูมิความร้อน ตั้งแต่เพลง ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น, ระหว่างสองเรา และ ก่อนที่มันจะสาย แต่ถึงจะบอกว่าไม่ฮิต แฟนๆ กรูฟไรเดอร์สก็ร้องตามกันได้แบบไม่ให้ผิดแม้แต่ท่อนเดียว ก่อนจะปิดฟลอร์ช่วงเพลงไม่อิตจากอัลบั้มแรกด้วยเพลง เมาไม่ขับ และ Nasa ที่จบแบบไฉไลสุดๆ โดยให้พวกเขาแปลงร่างเป็นโรบอท ปล่อยรังสีโดยการยิงเลเซอร์ ออกสเต็ปให้แฟนๆ ได้ชมตามคำเรียกร้อง
หลังพักเบรคกับโชว์โซโลเปียโน พวกเขาก็แต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ คราวนี้แต่ละคนออกมาในมาดเจ้าพ่อ ส่งเพลงซึ้งสุดโรแมนติกมาละลายผู้ชมนับหมื่นในวันนั้นให้เคลิ้มกันไปข้าง ทั้งเพลง สัญญา, รักที่เพิ่งผ่านพ้นไป และเพลง กอด ที่พวกเขาบอกว่าอยากนำมาเล่นในคอนเสิร์ตเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนแรงสถานการณ์บ้านเมือง ก่อนจะยกเวทีให้ ก้อ- ณฐพล โชว์โปรเจคท์เดี่ยวของตัวเอง แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจเท่ากับช็อตสวีทหวานเมื่อหนุ่ม ก้อ รับช่อดอกไม้จากคนพิเศษพร้อมส่งคิสให้สาวๆ วี้ดว้ายด้วยความอิจฉา ก่อนจะขนชาวคณะ พี.โอ.พี กลับมารียูเนี่ยนกันอีกครั้งโดยพร้อมหน้า ทั้ง โต้ง Save Da Last Peace และ ณพ พรชำนิ ที่เสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงสาวๆ ดังก้องไม่น้อยหน้าเจ้าของคอนเสิร์ตเลยทีเดียว
โชว์เด็ดจากบรรดาแขกรับเชิญยังไม่หมดเท่านั้น ตุล และ บอล อพาร์ทเมนท์คุณป้า อีกหนึ่งวงดนตรีพันธมิตรของกรูฟไรเดอร์สก็ออกมาแจมตามสไตล์วงอินดี้ตรงไปตรงมา ในเพลง กลับ และ กำแพง งานนี้ พี่ตุล ของเด็กแนว ทำเปรี้ยวด้วยมาดนักเทนนิสในตำนานอย่าง บียอร์น บอร์ค แถมยังเดาะขนแร็คเก็ตมาหวดให้แฟนๆ เฮฮากันบนเวที โดยที่มีความสนุกสนานมันส์สะใจจากแขกรับเชิญคนสุดท้าย โจอี้ บอย มาส่งท้ายด้วยการแร็พที่หาฟังที่ไหนไม่ได้ในเพลง คนใจร้าย และรวมมิตรเพลงแร็พเจ๋งๆ ที่หลายคนยังคิดถึงอย่าง นั่งอยู่ตรงนี้, อวัยวะ และ กะหล่ำปลี
เป็นธรรมเนียมของคอนเสิร์ตที่เพลงสำคัญๆ ทั้งหลายจะเก็บเอาไว้เป็นไฮไลท์เด็ดช่วงสุดท้าย พาเหรดเพลงฮิตจากอัลบั้ม The Lift จึงถูกปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้ลุกขึ้นมาขยับแข้งขยับขา ทั้ง รักไม่ได้, ถ้าปล่อยให้เธอเดินผ่าน พร้อมสามสาวคอรัสสุดเซ็กซี่ นุ้ย, โอ๋ โมโนโทน และ กิฟ โมโนโทน ที่ขยับออกมาโชว์พลังเสียงกันหน้าเวที เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย ก่อนที่ 3 ซิงเกิ้ลเด็ดจะถูกปล่อยออกมาปิดท้าย ทั้ง She's Hot, Superstar และขาดไม่ได้กับเพลงประจำวงอย่าง หยุด ที่ปิดงานด้วยเพลงนี้เมื่อไหร่ เป็นได้แฮปปี้กันเมื่อนั้น
งานนี้ กรูฟไรเดอร์ส โชว์ลีลาสุดพริ้วขิงดนตรีดิสโก้กันเต็มสตรีม ให้สมกับที่เป็น last call ซึ่งพวกเขาเผยว่าจะขอทำโชว์ให้เต็มที่เหมือนกับว่านี่คือโชว์สุดท้ายของพวกเขา จึงรับประกันเรื่องโปรดักชั่นได้เต็มร้อยว่าอลังการงานสร้างแน่ๆ ซึ่งในส่วนของวิชวลกราฟฟิคต่างๆ บนเวทีที่แจ่มเจ๋วสุดๆ ที่อาจจะมีสะดุด ก็คงเป็นเรื่องของคุณภาพเครื่องเสียงที่ยังต้องปรับปรุงสำหรับครั้งต่อๆ ไป แต่ก็หักล้างด้วยโชว์บนเวทีไปได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับ song list ในคอนเสิร์ตวันนั้นก็ต้องบอกว่าจัดมาเพื่อ แฟนพันธุ์แท้ ของ กรูฟไรเดอร์สโดยเฉพาะ เพราะไล่เรียงรายชื่อเพลงดูแล้วไม่มีเพลงไหนที่แฟนๆ ร้องตามไม่ได้ นับตั้งแต่เปิดเวทีอย่างเป็นทางการด้วยเพลง ฮอร์โมน จากอัลบั้มแรก Discovery ต่อด้วย Lift ไตเติ้ลแทร็คจากอัลบั้มชุดปัจจุบัน และ น้องคะ จนถึง แค่เธอก็พอ ถือเป็นช่วงเรียกน้ำย่อยที่นอกจากแฟนๆ จะร้องตามกระหึ่มฮอลล์แล้ว เสียงกรี๊ดก็เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ดังดีไม่มีตกในคืนวันนั้น
และเพราะ กรูฟไรเดอร์ส ไม่ได้มีแค่ บุรินทร์ เพียงคนเดียวที่เป็นหัวใจหลักของวง สมาชิกที่เหลือต่างก็มีผลงานเดี่ยวและกลุ่มของตัวเองกันอยู่แล้ว คอนเสิร์ตนี้จึงเปิดโอกาสให้สมาชิกที่เหลือได้มีโอกาสโชว์เดี่ยวบนเวทีโดยเท่าเทียมกัน เริ่มจาก กั้ง มือกีตาร์ประจำวง ก็ถือโอกาสโชว์โซโลโปรเจคท์ Kungsanova โปรเจคท์กีตาร์น่าฟัง ก่อนที่จะเปลี่ยนบรรยากาศสลับกับความโรแมนติกในเพลง ที่แห่งนี้ อีกหนึ่งเพลงที่หลายคนรอฟังให้ได้ในคอนเสิร์ต
หลังเซ็ทแรกผ่านพ้น แขกรับเชิญคนแรกก็ขึ้นเวทีมาแจมกับพวกเขา แต่มาเป็นแขกรับเชิญของ กรูฟไรเดอร์ส ทั้งที งานนี้คงจะธรรมดาไม่ได้ งานนี้แฟนๆ อินดี้เมืองไทยเลยพร้อมใจกันกรี๊ดเมื่อ คงเดช จาตุรันต์รัศมี แห่ง สี่เต่าเธอ กระโดดขึ้นโยกย้ายส่ายสะโพกในเมดเลย์เก๋ๆ ตั้งแต่ ดิสโก้พาเพลิน ที่เจ้าตัวเป็นคนแต่งเนื้อร้องให้กับกรูฟไรเดอร์ส จนถึงงานของ สี่เต่าเธอ ที่หลายคนยังติดอกติดใจ ตั้งแต่ สบาย, Stereo, หนุ่มเท้าไฟ, คอสเมติก งานนี้ พี่เดช ของกรูฟไรเดอร์ส ถึงกับสารภาพว่า ไม่เคยขึ้นเวทีคอนเสิร์ตไหนที่มีคนกรี๊ดมากขนาดนี้
ต่อจากนั้น กรูฟไรเดอร์ส ก็ส่ง เมดเลย์รวมเพลงไม่ฮิต มาลดอุณหภูมิความร้อน ตั้งแต่เพลง ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น, ระหว่างสองเรา และ ก่อนที่มันจะสาย แต่ถึงจะบอกว่าไม่ฮิต แฟนๆ กรูฟไรเดอร์สก็ร้องตามกันได้แบบไม่ให้ผิดแม้แต่ท่อนเดียว ก่อนจะปิดฟลอร์ช่วงเพลงไม่อิตจากอัลบั้มแรกด้วยเพลง เมาไม่ขับ และ Nasa ที่จบแบบไฉไลสุดๆ โดยให้พวกเขาแปลงร่างเป็นโรบอท ปล่อยรังสีโดยการยิงเลเซอร์ ออกสเต็ปให้แฟนๆ ได้ชมตามคำเรียกร้อง
หลังพักเบรคกับโชว์โซโลเปียโน พวกเขาก็แต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ คราวนี้แต่ละคนออกมาในมาดเจ้าพ่อ ส่งเพลงซึ้งสุดโรแมนติกมาละลายผู้ชมนับหมื่นในวันนั้นให้เคลิ้มกันไปข้าง ทั้งเพลง สัญญา, รักที่เพิ่งผ่านพ้นไป และเพลง กอด ที่พวกเขาบอกว่าอยากนำมาเล่นในคอนเสิร์ตเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนแรงสถานการณ์บ้านเมือง ก่อนจะยกเวทีให้ ก้อ- ณฐพล โชว์โปรเจคท์เดี่ยวของตัวเอง แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจเท่ากับช็อตสวีทหวานเมื่อหนุ่ม ก้อ รับช่อดอกไม้จากคนพิเศษพร้อมส่งคิสให้สาวๆ วี้ดว้ายด้วยความอิจฉา ก่อนจะขนชาวคณะ พี.โอ.พี กลับมารียูเนี่ยนกันอีกครั้งโดยพร้อมหน้า ทั้ง โต้ง Save Da Last Peace และ ณพ พรชำนิ ที่เสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงสาวๆ ดังก้องไม่น้อยหน้าเจ้าของคอนเสิร์ตเลยทีเดียว
โชว์เด็ดจากบรรดาแขกรับเชิญยังไม่หมดเท่านั้น ตุล และ บอล อพาร์ทเมนท์คุณป้า อีกหนึ่งวงดนตรีพันธมิตรของกรูฟไรเดอร์สก็ออกมาแจมตามสไตล์วงอินดี้ตรงไปตรงมา ในเพลง กลับ และ กำแพง งานนี้ พี่ตุล ของเด็กแนว ทำเปรี้ยวด้วยมาดนักเทนนิสในตำนานอย่าง บียอร์น บอร์ค แถมยังเดาะขนแร็คเก็ตมาหวดให้แฟนๆ เฮฮากันบนเวที โดยที่มีความสนุกสนานมันส์สะใจจากแขกรับเชิญคนสุดท้าย โจอี้ บอย มาส่งท้ายด้วยการแร็พที่หาฟังที่ไหนไม่ได้ในเพลง คนใจร้าย และรวมมิตรเพลงแร็พเจ๋งๆ ที่หลายคนยังคิดถึงอย่าง นั่งอยู่ตรงนี้, อวัยวะ และ กะหล่ำปลี
เป็นธรรมเนียมของคอนเสิร์ตที่เพลงสำคัญๆ ทั้งหลายจะเก็บเอาไว้เป็นไฮไลท์เด็ดช่วงสุดท้าย พาเหรดเพลงฮิตจากอัลบั้ม The Lift จึงถูกปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้ลุกขึ้นมาขยับแข้งขยับขา ทั้ง รักไม่ได้, ถ้าปล่อยให้เธอเดินผ่าน พร้อมสามสาวคอรัสสุดเซ็กซี่ นุ้ย, โอ๋ โมโนโทน และ กิฟ โมโนโทน ที่ขยับออกมาโชว์พลังเสียงกันหน้าเวที เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย ก่อนที่ 3 ซิงเกิ้ลเด็ดจะถูกปล่อยออกมาปิดท้าย ทั้ง She's Hot, Superstar และขาดไม่ได้กับเพลงประจำวงอย่าง หยุด ที่ปิดงานด้วยเพลงนี้เมื่อไหร่ เป็นได้แฮปปี้กันเมื่อนั้น