แกรมมี่ผนึกสมาคมเพลงลาว ตั้ง ลาวจีเอ็มเอ็ม รุกดาวน์โหลด
ค่ายเพลงยังคงแสวงหาช่องทางรายได้จากเพลงอย่างต่อเนื่องหลังรายได้จากขายซีดีดิ่งเหวต่อเนื่อง ล่าสุดจีเอ็มเอ็มอินเตอร์เนชั่นแนลบุกตลาดโชว์ผนึกค่ายมือถือต่างชาตดาวน์โหลดเพลง
กริช ทอมมัส กรรการผู้จัดการสายงานเพลงบริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้แกรมมี่เริ่มเดินหน้าขยายรายได้จากการต่อยอดเพลงไปในต่างประเทศ
"เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมกับทีมจีเอ็มเอ็มอินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจีเอ็มเอ็มแกรมมี่เดินทางไปทำข้อตกลงร่วมมือทางการค้า (MOU) กับสมาคมผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าภาพและเสียง ส.ป.ป.ลาว อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งด้านวิชาการและลิขสิทธิ์เพลง ซึ่งเป็นการร่วมมือกันเป็นครั้งแรกของทั้ง 2 ประเทศ ผมคิดว่าการร่วมกันครั้งนี้ จะทำให้วงการเพลงของส.ป.ป.ลาว มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าระดับสากล ที่ผ่านมาคนไทยก็รู้จัก และชอบเพลงลาวหลายเพลง นักร้องไทยก็นำมาร้องกันมาก แกรมมี่เองก็นำมาให้นักร้องในสังกัดร้องเช่นกัน" กริชกล่าว
ความร่วมมือแรกที่ จีเอ็มเอ็มอินเตอร์เนชั่นแนล กับสมาคมผู้ผลิตเพลงลาว จะทำหลังจากนี้นั้น คือการดูแลลิขสิทธิ์เพลงซึ่งกันและกัน โดยการตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นภายใน ส.ป.ป.ลาว
"ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างทางเรากับสมาคมผู้ผลิตเพลงลาวโดยใช้ชื่อบริษัท ลาวจีเอ็มเอ็ม โดยมีคุณ ชีวิน กีฬา คอยดูแลร่วมกับสมาคมเพลงของทางลาว บริษัทนี้จะมีหน้าที่ดูแลเรื่องของลิขสิทธิ์เพลงของ 2 ประเทศ ซึ่งต่อไปนี้เพลงของแกรมมี่ใน ส.ป.ป.ลาวที่พบว่ามีการละเมิดเยอะมาก ก็จะได้รับความคุ้มครอง ขณะเดียวกันเพลงของ ส.ป.ป.ลาว ที่อยู่ในเมือง และทั่วโลก ทางเราก็จะเข้าไปดูแลให้ซึ่งจะเป็นการดีของธุรกิจเพลงทั้ง 2 ประเทศที่จะพัฒนาร่วมกัน" กริชกล่าว
ผลดีจากการร่วมหัวจมทายกันครั้งนี้นั้นจะทำให้เพลงของบริษัท แกรมมี่ ที่มีการละเมิดมากในประเทศลาวจะถูกควบคุมอย่างอัตโนมัติ และผลักดันให้ซีดีของจริงเข้ามาแทนที่ของปลอมราคาจำหน่ายก็จะสูงขึ้นซึ่งจุดนี้ กริชบอกว่าจะส่งผลให้เพลงลาวเติบโตได้
"เมื่อของจริงเข้าไปแทนที่ของปลอมกลไกการขายก็เริ่มขึ้น ราคาซีดีของเรา ก็จะมีราคาสูงขึ้นตาม ตรงนี้จะเกิดผลดีกับซีดีเพลงลาว ตรงที่คนลาวจะหันมาซื้อซีดีเพลงของเขามากขึ้น เพราะมีราคาถูกกว่า เมื่อซีดีเพลงเขาขายได้นักแต่งเพลงก็จะมีกำลังใจเขียนเพลงดีๆ ออกมามากขึ้น ผมว่าเป็นผลดีกับวงการเพลงบ้านเขานอกจากนั้น ยังมีการดูแลเรื่องรายได้จากลิขสิทธิ์เพลงให้ครูเพลงลาวได้รับอย่างครบถ้วนต่อไปใครที่จะนำเพลงลาวไปทำอะไร ครูเพลงลาวก็จะได้ผลตอบแทนซึ่งเราอยากจะช่วยและเน้นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะครูเพลงคือผู้ที่จะสร้างเพลงดีๆ"
ด้านธุรกิจอย่างการโชว์ของนักร้องและการ ดาวน์โหลดเพลง ในต่างประเทศที่ผู้บริหารแกรมมี่มองว่ามีตัวเลขรายได้ที่น่าจับตามองอีกอันหนึ่งซึ่งบริษัทนี้ได้เริ่มทำอย่างจริงจังมากว่าปีแล้ว
"อีกช่องทางหนึ่งที่เรามองเห็นแนวโน้มตัวเลข จะเพิ่มขึ้นคือการนำนักร้องในสังกัดไปเปิดตลาดในประเทศต่างๆ ซึ่ง 1 ปีเต็มๆ ที่เราพานักร้องในบริษัทไปโชว์ในประเทศต่างๆ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ได้รับความสนใจมาก ทั้งจากคนไทยเองและคนต่างชาติ เขาชอบเพลงไทยร้องได้ด้วย
เมื่อกระแสตอบรับในส่วนนี้ดีการดาวน์โหลดเพลงก็ตามมา เราไปร่วมมือกับบริษัทมือถือยักษ์ใหญ่ในแต่ละประเทศในการต่อยอดตรงนี้ได้อีก สำหรับศิลปินที่ทางแกรมมี่พาไปโรดโชว์เพื่อขยายธุรกิจเพลงครั้งนี้อาทิ กอลฟ์-ไมค์ ไปโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน และมาเลเซีย ตั๊กแตน ชลดา ไปอเมริกา และล่าสุด ต่าย อรทัย ไปโชว์ตัวเพื่อเปิดอัลบั้มที่ทำขายเฉพาะในประเทศสิงคโปร์ ส่วนวันที่7 ธันวาคม ก็จะพา มนต์แคน แก่นคูน ไปโชว์ที่สิงค์โปร์" ผู้บริหารแกรมมี่กล่าวสรุป
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก