วงร็อกสายพันธุ์ไทย แบรนด์นิว ซันเซท

เรื่องโดย อินทรชัย พาณิชกุล



คอเพลงอันเดอร์กราวด์เมืองไทย คงจะคุ้นเคยชื่อของวงร็อกระดับหัวแถวของวงการเพลงใต้ดิน อย่าง แบรนด์นิว ซันเซท (BrandNew Sunset) เป็นอย่างดี



ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมจาก 2 อัลบั้ม “Pick You Up When You’re Falling Down” (ปี 2003) และ “Realistic” (ปี 2005) ที่ออกมาเขย่าหูแฟนๆ ให้สั่นสะเทือน และสามารถทำยอดขายได้เกือบ 3 หมื่นแผ่นจากทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเสียงชื่นชมอย่างสะใจต่อลีลาการแสดงสดอันเร่าร้อนบนเวที จากการตระเวนทัวร์คอนเสิร์ตมากมายนับครั้งไม่ถ้วน จนทำให้เป็นที่ยอมรับจากทั้งในประเทศและอีกหลายประเทศทั่วเอเชีย



ล่าสุด วงดนตรีร็อกวงนี้ตัดสินใจเซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่โซนี่ บีเอ็มจี พร้อมส่งผลงานชุดที่ 3 ชื่อเดียวกันกับชื่อวง เพื่อหวังจะนำเสนอบทเพลงร็อกในสไตล์ของตัวเองให้แฟนๆ ในวงกว้างได้ฟังกันแบบเต็มๆ



“ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา พวกเราฝึกซ้อมดนตรีกันอย่างมุ่งมั่นและจริงจัง แต่งเพลงเอง โปรดิวซ์เอง ควบคุมการมิกซ์เสียงทั้งหมดเอง และหาช่องทางวางขายกันเอง แถมยังตระเวนเล่นดนตรีไปในทุกๆ ที่ทั้งในประเทศ และยังได้มีโอกาสไปโชว์ในต่างประเทศใกล้เคียง ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ จนทำให้ฝีมือและประสบการณ์เพิ่มพูนขึ้น วันนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะผงาดออกมาจากมุมมืดของใต้ดิน ก้าวออกมาทำความรู้จักกับแฟนๆ บนดินให้ได้ฟังเพลงของเรากันในวงกว้างมากขึ้น”



และนี่คือคำแนะนำตัวเองอย่างรวบรัดของ 5 หนุ่ม แบรนด์นิว ซันเซท



วงร็อกวงนี้เกิดจากการรวมตัวกันของเพื่อนรักทั้ง 5 คน ประกอบไปด้วย ตูน-ศุภลักษณ์ โตวัชระกุล (ร้องนำ) กานต์-กานต์ เสนีย์ตันติกุล (กีตาร์/ร้อง) ชาย-สุชาย ชูเชิด (กีตาร์/ร้อง) ยุทธ-กานต์ณัฐ พหลกุล (เบส) และบลูม-วรินทร ศรีนิล (กลอง)



“แบรนด์นิว ซันเซท แปลว่า พระอาทิตย์ที่เพิ่งทอแสงใหม่ๆ พวกเราทั้ง 5 คน ซึ่งเป็นเพื่อนกันมาก่อน คิดอยากจะมีวงดนตรีของตัวเอง มีเพลงของพวกเราเอง จึงมารวมตัวกันทำดนตรีโดยผสมผสานความชอบของแต่ละคนเข้าไปในเพลง เช่น ร็อก พังก์ เฮฟวี เมทัล อีโม โพสต์-พังก์ ฯลฯ พอหลังจากซ้อมกันอย่างหนักกันได้ประมาณครึ่งปี จึงเดินหน้าเข้าห้องอัดเพื่อบันทึกเสียงในอัลบั้มชุดแรก” ชาย มือกีตาร์รับหน้าที่เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งวง



อัลบั้มนั้นขายหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็วเพียงไม่ถึงเดือน จากนั้นพวกเขาจึงตะลุยทัวร์คอนเสิร์ตร่วมร้อยโชว์ตามมาในที่ต่างๆ ด้วยความฮึกเหิมใจยิ่ง ไม่ว่าจะทั้งผับกลางคืนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มินิคอนเสิร์ตต่างๆ เทศกาลดนตรีอินดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย อย่าง แฟต เฟสติวัล งานพัทยา มิวสิก เฟสติวัล รวมไปถึงการได้มีโอกาสโกอินเตอร์ไประเบิดความมันส์บนเวทีในเทศกาลดนตรีของประเทศเพื่อนบ้านไม่ในสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ฯลฯ



“ด้วยความที่วงเราแต่งและเล่นเพลงภาษาอังกฤษมาโดยตลอด นั่นจึงทำให้เรามีช่องทางที่จะสื่อสารกับหมู่คนฟังในต่างประเทศได้ นอกจากนี้ยังเปิดเว็บไซต์ แบรนด์นิว ซันเซท ดอทคอม พูดคุยแลกเปลี่ยนกับแฟนๆ ชาวไทยและต่างประเทศ ทำให้ได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนนักดนตรีของประเทศใกล้เคียงมากกว่าเดิม โดยเฉพาะ มาเลเซีย สิงคโปร์” บลูม มือกลอง บอกต่อว่านั่นอาจเป็นความแตกต่างของวงแบรนด์นิว ซันเซทกับวงอื่นๆ



ในปี 2548 หลังจากเก็บตัวทำงานชุดต่อไปกันอย่างเงียบๆ แบรนด์นิว ซันเซท กลับมาอีกครั้ง พร้อมอัลบั้ม “Realistic” ผลงานชุดที่ 2 ที่ยังคงแนวทางของวงไว้เช่นเดิม แต่เพิ่มความหนักแน่นขึ้นทั้งด้านดนตรีและเนื้อหาของเพลง จนทำให้อัลบั้มนี้ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างล้นหลาม นอกจากนี้ยังการันตีคุณภาพด้วยการได้รับเลือกเป็นศิลปิน Bird’s Eyes View ของแชนแนล วี ไทยแลนด์



แต่ที่พิเศษไปกว่านั้น ถือเป็นครั้งแรกที่ผลงานของ แบรนด์นิว ซันเซท มีวางจำหน่ายในสิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ พร้อมๆ กับทัวร์คอนเสิร์ตสนับสนุนอัลบั้มในประเทศดังกล่าวอีกด้วย ทำให้วงแบรนด์นิว ซันเซท เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น



“โอ้โห เสียงตอบรับจากแฟนๆ ในต่างประเทศดีมากๆ ครับ” ยุทธ มือเบสของวงบอก น้ำเสียงเขาดูตื่นเต้น “ตอนนั้นผมยังถือว่าวงเราไม่ได้ถึงกับมีชื่อเสียงโด่งดังนะ ถ้าเทียบกับวงของที่นั่น เราก็เป็นเพียงวงธรรมดา ผมคิดว่าเราเป็นเพียงวงร็อกจากประเทศไทยวงหนึ่ง ที่โชคดีได้มีโอกาสไปเล่นให้คนฟังในวงกว้างมากขึ้นเท่านั้นเอง” มือเบสหนุ่ม กล่าวทิ้งท้ายอย่างถ่อมตัว



จนในปี 2551 นี้เอง ก้าวกระโดดครั้งสำคัญที่สุดในเส้นทางดนตรีของวงแบรนด์นิว ซันเซท เมื่อทางวงตัดสินใจเซ็นสัญญาเพื่อออกผลงานชุดที่ 3 ภายใต้สังกัดโซนี่ บีเอ็มจี



“ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะนำเสนองานของเราให้เข้าไปสู่แฟนเพลงในวงกว้างมากขึ้น โดยยังคงความเป็นแบรนด์นิว ซันเซท อยู่” กานต์ มือกีตาร์อีกคนว่า



กานต์ สารภาพถึงการนำชื่อวงมาเป็นชื่ออัลบั้ม BrandNew Sunset ก็เพื่อที่จะให้เป็นที่รู้จักจดจำของผู้คน โดยยังคงแนวทางร็อกในแบบฉบับของพวกเขา



“ผลงานชุดนี้เป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์ดนตรีร็อกสวยๆ ของอัลบั้มชุดแรก เข้ากับความหนักแน่นดุดันของชุดที่ 2 ไว้ด้วยกัน และยังเป็นครั้งแรกที่แบรนด์นิว ซันเซท แต่งและร้องเพลงเป็นภาษาไทยอีกด้วย มันเป็นความตั้งใจของเรา ที่จะให้แฟนเพลงที่ติดตามผลงานของพวกเรามาตลอด สามารถร้องตามได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นการสื่อสารบทเพลงของพวกเราออกไปยังกลุ่มคนฟังที่กว้างขึ้นด้วย” ชาย กล่าวเสริมถึงคอนเซปต์ของอัลบั้มนี้



ทางวงใช้เวลาเกือบ 3 เดือน ในการบันทึกเสียงอัลบั้มชุดนี้ ถือว่าเป็นการทำงานในสตูดิโอที่พิถีพิถันและยาวนานกว่าทุกครั้ง ส่งผลให้ซาวด์ดนตรีในอัลบั้มนี้มีรายละเอียดที่ซับซ้อนและน่าสนใจขึ้นด้วย และในอัลบั้มนี้ทางวงยังได้ร่วมงานกับ สก็อต มอฟแฟต โปรดิวเซอร์คุณภาพที่ฝากฝีมือไว้กับผลงานของ สลอต แมชีน ที่มารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ในอัลบั้มนี้ แต่ใน 2 อัลบั้มที่ผ่านมาทางวงรับหน้าที่โปรดิวซ์กันเองทั้งหมด



อัลบั้มนี้ประกอบด้วยเพลงภาษาอังกฤษ 5 เพลง และภาษาไทยอีก 5 เพลง “Falling Down” คือซิงเกิลแรกประเดิมอัลบั้มชุดนี้ ที่มาพร้อมกับซาวด์ร็อกมันๆ ที่มีท่วงทำนองติดหู ซึ่งทางวงบอกว่าไม่หนักหรือเบาจนเกินไป สื่อสารด้วยเนื้อเพลงตรงไปตรงมา เข้าใจง่ายและสามารถที่จะทำให้ทุกคนสนุกไปกับเพลงนี้ได้



นอกจากนี้ในอัลบั้มยังมีเพลงเด่นๆ อย่าง “Chasing Me”, “My Own Disaster”, “Revolution” และ “Break Ya Leg” เพลงร็อกหนักหน่วงสะใจ โชว์ทักษะการเล่นที่ครบเครื่อง และทีมเวิร์กอันยอดเยี่ยมของ แบรนด์นิว ซันเซท ที่จะไม่ทำให้แฟนเก่าผิดหวังอย่างแน่นอน ร่วมด้วย “สุดท้าย” เพลงร็อกสบายหูที่มีทำนองป๊อปสวยๆ ในสไตล์อัลบั้มแรก และ “วันที่โหดร้าย” บทเพลงบัลลาดร็อกสวยๆ ที่มีเนื้อหาให้กำลังใจในแบบของแบรนด์นิว ซันเซท



“เราไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่าการสร้างผลงานให้มีคุณภาพที่สุด ที่เหลือก็คงเป็นส่วนของแฟนเพลงที่เราอยากให้ลองเปิดใจฟัง และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เราก็จะยังคงตั้งใจทำงานของพวกเราต่อไปให้ดีที่สุด” เป็นคำยืนยันจากตูน นักร้องของวง



นักร้องหนุ่มมาดกวนคนนี้ ยังเปิดเผยความในใจอีกว่า พวกเขาทั้ง 5 ยังยึดมั่นในอุดมการณ์เดิมของวงที่ไม่ได้เน้นการมีชื่อเสียงโด่งดัง ยอดขายทะลุหลักล้าน แต่ต้องการเพียงแค่ทำผลงานออกมาให้มีคุณภาพดีที่สุดเพื่อคนฟัง ที่สำคัญได้เล่นดนตรีร่วมกับเพื่อนๆ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยอารมณ์มีความสุขสุดขีดของแฟนเพลง



“คำนิยามสำหรับวงแบรนด์นิว ซันเซท นั้น ผมอยากให้แฟนเพลงจดจำในฐานะวงร็อกพันธุ์ไทยที่มีคุณภาพ มีฝีมือไม่แพ้ชาวต่างชาติใดๆ ในโลกนี้” เขาบอก



และนี่คือเรื่องราวของความตั้งใจอันเต็มเปี่ยมของ 5 หนุ่ม แบรนด์นิว ซันเซท วงร็อกฝีมือดีวงนี้ ที่พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่าความสำเร็จที่ผ่านมาไม่ได้เป็นเพราะโชคช่วยหรือโอกาสที่ดีกว่าคนอื่น แต่ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นมาจากฝีมือและความมุ่งมั่นของพวกเขาทั้ง 5 คน นั่นเอง