เปิดใจ แบงค์ วงแคลช กับหนังแอคชั่นสุดเดือด ท้า/ชน

หลังจากที่เคยลองชิมลางงานแสดงไปแล้วใน พันธุ์ X เด็กสุดขั้ว เมื่อ 4 ปีก่อน มาในวันนี้นักร้องคนดังอย่าง แบงค์ วงแคลช หรือ ปรีติ บารมีอนันต์ ก็มีโอกาสกลับมาระห่ำบนจอเงินอีกครั้งในผลงานที่มีชื่อว่า ท้า/ชน (Fireball) หนังแอ็กชั่นที่ว่าด้วยเรื่องราวการแข่งขันบาสฯ เถื่อน ที่การชูตลูกลงห่วงเป็นเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งของผลการแข่งขัน เพราะความยากกว่าคือการมีชีวิตรอดจากสนามสุดโหดที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ทุกรูปแบบนี้ให้ได้






ดังนั้น จึงไม่ธรรมดาเมื่อศิลปินอย่างแบงค์ต้องมาวางหมัดมวยผสมผสานกับการแข่งบาสเกตบอลบนจอภาพยนตร์ แต่กว่าจะออกมาเป็นเรื่องเป็นราวอย่างที่เห็นจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปฟังจากปากของเจ้าตัวเลยดีกว่า



ที่มาของการตัดสินใจรับแสดงภาพยนตร์เรื่อง ท้า/ชน




ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า แคแรกเตอร์ของ ไท ที่ผมรับเล่นนั้นคล้ายๆ ตัวผม คือว่า หนึ่งเขามีน้อง และเป็นฝาแฝดกัน และอีกอย่างหนึ่งชีวิตเขาค่อนข้างจะตะเกียกตะกายตลอด โดยไทคือคนที่ไม่ค่อยพูดมาก รักน้อง พร้อมที่จะเสียสละให้ทุกคน ส่วนแทนก็จะเป็นเด็กคือ ฝาแฝดจริงๆ ก็รุ่นเดียวกันอยู่แล้ว แต่ว่าแทนจะเหมือนเด็กกว่า แล้วก็จะเอาแต่ใจ ไม่ฟังเหตุผล เอาอารมณ์เข้าว่า



วิธีการรับมือกับการที่เราต้องแสดงเป็นสองแคแรกเตอร์?




กับการแสดงบทบาทสองแคแรกเตอร์นี่ จริงๆ เรื่องราวของบทหนังจะเล่าไปที่ตัวไทมากกว่า ตัวของแทนมันเป็นเรื่องในอดีต ซึ่งมีประมาณ 20% ส่วนผมเล่นเป็นตัวไท 80% ดังนั้นเราจึงไม่ต้องปรับอะไรมาก เพราะอย่างที่บอกคือบทของไทค่อนข้างใกล้ตัวผมอยู่แล้ว



การเตรียมตัวในการมาเล่น ท้า/ชน?




ก็ที่ยากๆ ก็คือ แอ็กชั่นครับ ผมไม่ได้เล่นหนังแอ็กชั่นมามาก 100% แบบนี้ แล้วเป็นหนังแอ็กชั่นที่ไม่ค่อยบล็อกกิ้งมาก คือเราก็บล็อกกิ้ง แต่เราทำเหมือนไม่บล็อกแต่ให้เป็นธรรมชาติ เราก็เอาความดิบ ความสด แล้วก็แก่นแท้ของลูกผู้ชายที่มันสื่อสารกันเวลาชกต่อยกันเอามาใช้



การร่วมงานกับผู้กำกับฯ อั๋น ธนกร พงษ์สุวรรณ (Fake, โอปปาติก)?




จริงๆ ผมก็เจอผู้กำกับฯ มาเยอะนะทั้ง เอ็มวี, หนัง ผมว่าพี่อั๋นเขาเป็นผู้กำกับฯ ที่ผมชอบวิธีการทำงานของเค้ากับนักแสดง อย่างที่ว่า เค้ามอบความไว้วางใจนักแสดง ไม่ว่าจะหน้าใหม่ หน้าเก่า คือเค้าจะถามว่า ตัวละครตัวนี้ที่เล่นอยู่เราเชื่อมั้ย ถ้ามันพูดแบบนี้ในซีนนี้ ซึ่งผู้กำกับฯ บางคนต้องการบทพูดที่ถูกต้องตามบทหนัง แต่การทำงานกับนักแสดงแบบนี้ผมชอบมากกว่า เพราะมันดิ้นได้ และเป็นฟีลลิ่งของความสดจากนักแสดง



ได้ข่าวว่าแบงค์ก็มีส่วนช่วยในการออกแบบแคแรกเตอร์ของตัวละคร?




ผมไม่เคยทำงานกับผู้กำกับฯ แบบนี้ (หัวเราะ) โดยส่วนใหญ่ที่ผมทำงานด้วย เขาจะแบบว่า ตามพี่สั่ง พี่เอาแบบนี้ บทเป็นแบบนี้ แต่พี่อั๋นเขาจะแบบว่า...เราจะปรับบทมาด้วยกัน ผมก็จะช่วยคิดไดอะล็อกบ้าง 'ถ้าแบงค์เป็นไท แบงค์จะพูดว่าไง' แล้วผมก็จะเข้าใจตัวละครนี้มาก เพราะว่าอินไปแล้ว



คิดอย่างไรกับเรื่องการแสดง?




ผมน่ะชอบหนัง ชอบแสดง อยู่ในหนังพอผมเปลี่ยนบทบาทไปเป็นนักแสดงในหนัง ทำอะไรก็ได้ อุบาทว์ไปเลยก็ได้ ให้ทำฟันเหยินอะไรอย่างนี้ได้หมด เตรียมตัวกับการถ่ายทำซีนแอ็กชั่นในหนังอย่างไร ในหนังมันจะมีแอ็กชั่นเยอะครับ เหนื่อยมาก ก็มีการซ้อมคิวเดือน-สองเดือนก่อนถ่าย ไม่ถึงขนาดทุกวันครับ แต่สักอาทิตย์ละ 2-3 วัน พอว่างจากงานเพลงก็จะเข้าไปฝึกวันละ 3-4 ชั่วโมง แล้วผมเป็นคนที่ออกกำลังกายตลอดอยู่แล้ว เล่นเวต เลยเหมือนว่าผมเตรียมร่างกายให้พร้อมทำงานได้เลยครับ



สำหรับบทแอ็กชั่นในหนังเรื่องนี้?




จริงๆ เป็นเรื่องของการซ้อม อย่าง แซม (เกษม เจะสนิ) เค้าเป็นนักมวยจะช่วยผมเรื่องของการออกแบบท่ามวยที่ถูกต้อง แต่จริงๆ แล้วตัวไทในเรื่องก็ไม่ได้เป็นคนที่มีทักษะมวยมาก่อน ไทเรียนรู้การต่อสู้จากในคุกเพื่อเอาตัวรอด



ทักษะคิวบู๊ของแบงค์ในหนัง?




คือ 5 คน แคแรกเตอร์จะไม่เหมือนกัน อย่าง แซม-เกษม ที่รับบทสิงห์ หัวหน้าทีมไฟร์บอล เค้าเป็นนักมวย เคยต่อยมวยคาดเชือก คือเค้าเป็นนักมวยจริงๆ มวยไทยเลย ได้ทุกท่าของแม่ไม้มวยไทย ส่วนพี่จอห์นนี่ ที่รับบทหมึกนี่แบบต้องบู๊ ล้างบาง เอิร์ท ที่รับบทเค ก็จะเล่นบาสเกตบอลเก่ง ส่วนบาส ที่รับบทอิกคิว เป็นเด็กที่ชูตลูกลงห่วงแม่นมาก เป็นนักบาสเกตบอลทีมชาติ ไอ้ผมก็ประเภทมวยวัด ใช้ไหวพริบในการเอาตัวรอด



นอกจากเรื่องของแอ็กชั่นแล้ว ยังมีสัดส่วนของดรามาผสมอยู่ด้วย?




จริงๆ แล้วดรามากับผมมันไม่ยากมาก คือผมว่าผมจะเป็นคนที่ตีความได้ง่าย เพราะว่าข้อแรกเลยผมเป็นคนเขียนเพลงเอง และข้อ 2 ผมเป็นคนชอบจับผิดคน ผมชอบอ่านคน และชอบศึกษาอารมณ์คน มันก็ไม่ได้ยากมากถึงขนาดลำบากแต่ก็เอาตัวรอดได้



แล้วคิดว่ามีซีนไหนที่ยากที่สุดในการแสดงหนังเรื่อง ท้า/ชน?




ซีนสลิงทุกฉาก บางทีแอ็กติ้งได้ สลิงไม่ได้ หรือสลิงได้ แอ็กติ้งไม่ได้ บางครั้งผมก็บาดเจ็บ มีแผลถลอก ฟกช้ำที่หลังเพราะถูกเหวี่ยงเข้ากำแพงเป็นเรื่องปกติ แต่ของแซมไหล่หลุดประจำแต่ก็ไม่ได้พัก ถ่ายต่อกันจนเสร็จครับ



ถ้าหากจะให้เปรียบเทียบกับหนังเรื่องแรก พันธุ์ X เด็กสุดขั้ว?




เรื่องที่แล้วเป็นเพลงป็อป ส่วนเรื่องนี้คือเพลงร็อกของจริงครับ




พูดถึงนางเอกคนล่าสุดของแบงค์ น้องเอม คณุตรา ชูช่วยสุวรรณ?




คือน้องเค้าเด็ก ตอนแรกเห็นจากรูปถ่าย น้องไม่ได้แต่งหน้า หน้าตาสวยใสวัยหวาน พอมาเจอที่กองถ่ายนึกว่าเป็นน้องฝึกงาน ในความคิดผมนึกว่านางเอกต้องแต่งตัวเยอะ สวยเดินมาเลย แต่นี่น้องเค้าสวยแบบธรรมชาติสมวัยของเขาดีครับ



ระหว่างงานเพลงกับหนัง มีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนในความรู้สึกของเรา?




ต่างกันพอสมควร หนังเรื่องนี้ยากตรงแอ็กชั่นมากกว่า ในเรื่องจะมีฉากแอ็กชั่นเยอะมาก ต้องฟิตซ้อมร่างกายให้ดีครับ



เรื่องนี้ก็มีบทให้เล่นหลากหลายมาก ทั้งดรามาและแอ็กชั่น?




ผมน่ะเป็นคนชอบดูหนังดรามา ชอบดูหนังเศร้า ไม่ชอบหนังรัก อย่างหนังดรามาที่ชอบ ถ้าเป็นหนังฝรั่งก็เรื่อง Radio ที่คิวบา กู้ดดิ้ง จูเนียร์ แสดงน่ะ ต้องทำฟันเหยิน ผมชอบหนังแบบที่มันมีส่วนที่เราขาดหายไป หนังพวกนี้มันจะเติมเต็มกลับมาให้เรา พวกหนังเตือนคนน่ะ ผมชอบ



อุปสรรคในการทำงานกว่า 8 เดือนที่ผ่านมาในหนังเรื่องนี้?




ดีลแรกเนี่ย นับตามตารางการทำงานในมือเนี่ย ทำได้ แต่พอเริ่มทำงานออกกองถ่ายจริงเนี่ย ด้วยหนังมันมีองค์ประกอบเยอะ อย่างบางครั้งคิวผมว่างเนี่ย แต่นักแสดงคนอื่นเขาไม่ว่าง โลเคชั่น โปรดักชั่นไม่พร้อมก็ไม่ได้ถ่าย บางทีผมไม่ว่างแต่เขาว่างพร้อมกัน แต่สุดท้ายแล้วเราก็แก้ปัญหากันไปได้ แอ็กชั่นน่ะผมไม่กลัว ดรามาไม่กลัว แต่ผมกลัวฉากเลิฟซีน ผมไม่อาย ไม่เขินนะ เล่นไม่เป็นด้วย แต่...ผมกลัวฝ่ายตรงข้าม ผมกลัวคนดูออกมาแล้วไม่เชื่อ เพราะผมเป็นคนไม่ชอบฉากจูบหนังเอเชียเลย มันดูไม่จริงหมดเลยนะ ฮ่องกงก็ยังจูบกันไม่เก่งเลย ปากบี้เละกันไป ยังไงก็ดูไม่จริงน่ะ ผมรู้สึกว่าไม่เคยเจอหนังไทยเรื่องไหนที่ฉากจูบดูดีนะ อ่ะ อย่าง 'เฟค' น่ะได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วมันดูไม่ดีนะ ไม่รู้เพราะอะไร เลยทำให้ผมกลัวตลอดเลย พอเวลาเล่นปั๊บ แล้วเวลาผมส่งไปแล้วน้องเขาไม่รับ มันก็ไม่จริงน่ะ แล้วคนที่เสียหายคือน้อง ไม่ใช่ผม ซ้อมอยู่นั่นแหละ ปากเปียกปากแฉะ แล้วเวลาซ้อมเนี่ย หน้าพี่อั๋นเขาจะอยู่ตรงนี้ (แสดงท่าทางให้ดูว่าหน้าผกก.อยู่ใกล้กับหน้านักแสดงมาก) แล้วก็บอกว่า เออ เออ แบบนั้นแหละ (หัวเราะ) ผมว่าฉากแบบนี้มันซ้อมไม่ได้น่ะ มันอยู่ที่ความเชื่อ แล้วน้องเขาเด็กด้วย ผมว่า



ทราบมาว่าการทำงานครั้งนี้มีพลาดคิวเจ็บเนื้อเจ็บตัวกันพอสมควร?




ก็มีบ้าง มันต้องมีเตะจริง ต่อยจริง แล้วทุกอย่างเหมือนจริงหมด เพราะว่าพยายาม บางทีเราเอาความดิบเหมือนจริงแบบลูกผู้ชายเข้าว่า มันก็ต้องต่อยจริง เจ็บจริง มันก็แปลก อย่างผมไม่ค่อยพลาดหนักๆแต่มีเจ็บบ้าง นิดๆ หน่อยๆ อย่างแซมที่เล่นเป็นนักมวย ซึ่งนั่นก็เป็นนักมวยจริงๆ เป็นแชมป์จากญี่ปุ่นมา เดี๋ยวไหล่หลุดบ้าง เจ็บบ้าง นักแสดงประกอบ ตัวใหญ่ๆ กระดูกคอเคล็ด



แต่ถึงยังไงก็ยังมีความสนุก ความมันส์ ในการทำงาน?




สนุกครับ...แต่ประสานงานความเหนื่อยยาก ลำบาก เพราะเวลามันน้อยด้วยและเวลาเตรียมหนังมันก็น้อยด้วย ทีมงานต้องเต็มที่กับเวลาที่จำกัด ก็ค่อนข้างจะกดดันกันเอง ผู้กำกับฯ ก็เครียด นักแสดงก็เหนื่อย เครียด ทุกคนครับเครียด แต่มันก็ออกมาดีสมกับความตั้งใจ



แบงค์คิดว่าอะไรคือจุดเด่นของหนังเรื่องนี้?




หนังเรื่องนี้ ผมนั่งคุยกับพี่อั๋น ผู้กำกับฯ ตั้งแต่ต้นเลยว่า อยากทำหนังดีๆ สักเรื่อง ขายความสมจริง มูฟเมนต์ของกล้อง ตัดกระชับ ฉับไว ดูเป็นเรียลลิตี้ หลังจากเดินออกจากโรงภาพยนตร์มา คนดูจะได้แง่คิดว่า วันนี้คุณจะแพ้วันสุดท้าย พรุ่งนี้ต้องลุกขึ้นสู้ต่อ



ถ้าให้คำจำกัดความกับหนังเรื่อง ท้าชน?




หนังเรื่องนี้เป็นหนังผู้ชาย ผมว่าเป็นหนังที่แมนที่สุดในรอบสิบปี ด้วยเนื้อแท้ของมัน ไม่ใช่แมนด้วยวิธีการเซตอัพนะครับ



ความคาดหวังที่มีต่อหนังเรื่องล่าสุดของตัวเอง?




อยากให้ทุกคนชอบ ได้รับสารที่หนังต้องการให้แก่คนดู ใจจริงผมอยากให้ทุกคนมีความสุขกับหนังเรื่องนี้ เพราะเป็นหนังแอ็กชั่นร่วมสมัยที่มีมูฟเมนต์ไม่เหมือนหนังเรื่องอื่น เป็นหนังแอ็กชั่นแนวใหม่ที่ดูสนุก เป็นเรียลลิตี้ครับ



คือผมดูตอนที่ตัดเล่นๆ ยังไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ แต่ที่รู้อย่างหนึ่งคือ หนังลุกส์ดี หนังสวย ผมไม่ค่อยได้เห็นหนังแอ็กชั่นที่ออกมาในมุมมองทางภาพแบบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็น 1234... ถ้าคนดูไม่คิดมากอาจจะคิดว่าเราต่อยมั่วก็ได้ แต่เราไม่ได้ต่อยมั่ว ตรงนี้ข้อดีของความดิบ ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้จะให้อะไรกับคนที่ท้อแท้อยู่ เพราะสังคมไทยมันมีเยอะ ที่แบบว่าเราไม่มีทางเลือก แต่เราก็เลือกเดินในทางที่เราไม่ได้เขียนเอง เราก็จำเป็นต้องทำ




ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก