เอิร์น เดอะสตาร์ คนพูดน้อยไม่ได้หยิ่ง
อีกหนึ่งนักร้องคุณภาพของวงการที่มีรางวัลการันตีความสามารถมากมาย สำหรับ เอิร์น เดอะสตาร์ หรือ สุรัตน์ติกานต์ พรรคเจริญ ซึ่งเส้นทางการเป็นนักร้องของเธอนั้นต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์มาพอสมควร ผ่านเวทีประกวดมามากมาย กว่าจะมาถึงวันนี้ วันที่เธอได้ออกอัลบั้มของตัวเองมาจนถึงชุดที่ 2 อย่ามองข้ามความห่วงใย โดยมี ครอบครัว เป็นกำลังใจสำคัญ วันนี้เอิร์นเปิดใจกับ ดาวต่างมุม ให้แฟน ๆ ได้รับรู้ถึงมุมมองในการดำรงชีวิตของเธอ
ตั้งแต่ประกวดเดอะสตาร์มาใช้เวลานานเหมือนกันนะกว่าจะได้มีอัลบั้มของตัวเอง?
-ก็เกือบ 4 ปี แต่ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่า เพราะตลอดเวลา 3 ปี เราก็ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์เยอะเหมือนกัน ทางทีมงานแกรมมี่โกลด์ ก็ให้เอิร์นได้ไปขึ้นคอนเสิร์ตกับพี่ไมค์ ภิรมย์พร พี่ต่าย อรทัย และก็ได้ไปขึ้นเวทีใหญ่ ๆ กับ พี่ก๊อท-จักรพันธ์ ด้วย เลยได้ประสบการณ์จากตรงนั้น ก็เลยนำเอาประสบการณ์ที่ผ่านมาตรงนั้นมาทำอัลบั้มชุดแรก
มีน้อยใจไหม ที่เพื่อน ๆ เดอะสตาร์รุ่นเดียวกัน เขาได้ล้ำหน้าไปก่อน?
-จริง ๆ แล้ว ช่วงปีแรก ๆ ที่จบจากการประกวดเดอะสตาร์ ก็มี เพื่อน ๆ ออกอัลบั้มกันไปหลายคนแล้ว ก็มีแฟนเพลงถามกันว่า แล้วเมื่อไหร่จะ ถึงคิวของเอิร์น บางทีก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า เมื่อไหร่จะถึงคิวของเราซะที แต่จริง ๆ แล้ว พอได้มาทำอัลบั้มแรก เอิร์นก็ได้รู้ว่าช่วงระยะเวลา 3 ปี ผู้ใหญ่ ทีมงาน อาจารย์ พยายามมองแนวทางมองรูปลักษณ์ของเอิร์นว่า อัลบั้มของเอิร์น อยากจะให้ออกมาเป็นตัวเอิร์นมากที่สุด เลยเขียนเพลงให้เหมาะกับตัวเอิร์น 3 ปีตรงนั้นเอิร์นรู้สึกว่าคุ้มกับการรอคอย ไม่ได้รู้สึกน้อยใจเสียใจอะไร
เส้นทางการเป็นนักร้องของเอิร์นมันต้องลำบากและฝ่าฟันขนาดไหน?
-ก็ค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่ประกวดร้องเพลงเลย ด้วยความที่อยากจะเป็นนักร้องก็เลยเดินสายประกวด ประกวดมาหลายเวทีเหมือนกัน เอิร์นประกวดตั้งแต่ 7 ขวบ เรียกได้ว่าเป็น 10 ปี ทั้งต่างจังหวัด และในกรุงเทพฯ ได้ประกวดเวทีใหญ่ ๆ หลายเวทีจนถึงเวทีเดอะสตาร์ ทุก ๆ เวทีก็มีแพ้บ้าง ชนะบ้าง ตกรอบบ้าง ก็เป็นธรรมดา แต่ว่าจะเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมแพ้อะไร ง่าย ๆ ด้วยความที่คุณแม่คอยให้กำลังใจด้วย ทุกครั้งที่ไปประกวดร้องเพลงแม่ก็จะไป ไปกันทั้งบ้านเลย เลยทำให้เรารู้สึกว่าเรายอมแพ้ไม่ได้ เรามีฝันแล้ว เราต้องทำให้เต็มที่ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่เราตั้งใจเอาไว้ อย่างน้อยเราก็ดีใจแล้วที่เราได้ลงมือทำ แล้วก็คนรอบข้างให้กำลังใจเรา
ฝันอยากจะเป็นนักร้องตั้งแต่เด็กเลยหรือเปล่า?
-ตั้งแต่ได้ประกวดร้องเพลงครั้งแรก จริง ๆ เด็ก ๆ ฝันอยากจะเป็นหมอ เป็นพยาบาล เพราะว่าคุณย่า คุณปู่ ทำงานอยู่ทางสายนี้ พอปิดเทอมก็จะถูกส่งไปอยู่กับคุณปู่คุณย่า และท่านก็ทำงานที่สาธารณสุข จะไปวนเวียนอยู่กับคนไข้ ตอนนั้นก็เลยอยากเป็นหมอ แต่ตอนที่มาประกวดร้องเพลงครั้งแรกก็อยากจะเป็นนักร้อง คือคุณแม่เป็นอาจารย์สอนภาษาไทย แล้วส่งลูกศิษย์ไปประกวดร้องเพลง แต่ว่าลูกศิษย์ไปไม่ได้ คุณแม่ต้องหาคนไปประกวดแทน ตอนนั้นไม่มีใครเลยส่งชื่อลูกไป ครั้งนั้นเป็นการประกวดร้องเพลงครั้งแรกของ เอิร์น และก็เป็นครั้งแรกที่คุณแม่ได้ยินเอิร์นร้องเพลง แล้วก็ได้รางวัลมาด้วย เป็นรางวัลระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ก่อนหน้านี้รู้ตัวมาก่อนไหมว่าฉันร้องเพลงได้?
-คือร้องตามมีตามเกิดค่ะ ด้วยความที่บุคลิกเอิร์นเป็นคนที่ค่อนข้างจะพูดน้อย อาจจะเป็นคนชอบฟังมากกว่า เวลาที่คุณแม่สอนร้องเพลง เอิร์นก็จะนั่งฟังทั้งวัน แต่ครั้งนั้นที่ประกวดเราก็ร้องไปแบบที่เรารู้สึก แบบที่เราได้ฟังมา
ตอนนี้ฝันได้เป็นจริงแล้ว?
-ดีใจ แล้วก็ภูมิใจมาก จนไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยาย แล้วก็ทำให้คุณแม่กับคุณพ่อภูมิใจที่เราได้ทำความฝันของเราสำเร็จ เขาก็ให้กำลังใจ เพราะเขาก็เหนื่อยกับเรามานาน เวลาไปประกวดที่ไหน จะไกลแค่ไหน คุณพ่อคุณแม่ก็ขับรถพากันไป ดีใจที่ทำให้เขาภูมิใจในตัวเรา ตอนนี้ถ้าไม่ได้เป็นนักร้อง เอิร์นก็คงทำงานในอาชีพสายบันเทิงนี่แหละ ด้วยใจที่รักทางด้านนี้ แล้วก็เรียนมาทางด้านนี้ด้วย อาจจะเป็นเบื้องหลัง เอิร์นเรียนนิเทศศาสตร์ เอกวิทยุโทรทัศน์ค่ะ
ในวัยเด็กเอิร์นโตมาในครอบครัวแบบไหน?
-เป็นครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง คุณแม่เป็นครู คุณพ่อทำงานธนาคาร ธ.ก.ส. ส่วน มากจะเลี้ยงลูกแบบติดดิน เพราะด้วยความที่คุณพ่อทำงานกับชาวบ้าน ต้องไปดูแลหลาย ๆ พื้นที่ที่เขาทำไร่ ทำนา เพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ส่วนคุณแม่ก็เป็นครูภาษาไทย และรักเสียงดนตรี มีอะไรก็จะถ่ายทอดให้ลูก ทั้งการอ่านทำนองเสนาะ การใช้เสียง การร้องเพลง ที่บ้านเราก็จะอยู่กันแบบสบาย ๆ คุณพ่อคุณแม่จะไม่ค่อยบังคับลูกและตั้งกรอบอะไรให้มากมาย ก็คือลูกชอบอะไร ก็พยายามทำความเข้าใจและหาเหตุผล ลูกรักอะไรก็รักด้วย
คุณแม่เป็นครู เข้มงวดไหม?
-ถ้ากับเรื่องการเรียนและเรื่องการปฏิบัติตัวบางอย่างเข้มงวดค่ะ แต่ว่าอะไรที่ลูกชอบลูกรัก ก็สนับสนุนเต็มที่ คุณแม่เป็นครูและก็สอนเอิร์นด้วย ซึ่งตอนอยู่ในหน้าที่ของครูก็ดุมาก ไม่เว้นแม้ว่าเราเป็นลูก เคยโดนตี ตอนนั้นที่แม่สอนเอิร์นอยู่ชั้น ม.1 ที่โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ ที่ จ.นครราชสีมา ตอนนี้คุณแม่ก็ยังเป็นครูอยู่ แต่ว่าย้ายไปอีกโรงเรียนหนึ่ง
พอเราเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงแม่มีห่วงอะไรเราเป็นพิเศษไหม?
-คุณแม่จะพูดเสมอว่า มาทำงานตรงนี้แล้วให้ดูแลตัวเองดี ๆ เป็นห่วงในเรื่องของสุขภาพ เพราะเราเป็นนักร้องต้องใช้เสียง ใช้ร่างกายอยู่ตลอดเวลา เขาก็อยากให้เรามีเวลาออกกำลังกายบ้าง ไม่อยากให้ละเลยเรื่องนี้ไป คุณแม่บอกว่าถ้ามีปัญหาอะไรที่เราไม่เข้าใจ ให้พยายามคุยกับผู้ใหญ่เยอะ ๆ แล้วก็ให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน และตรงเวลา
แล้วพออยู่ตรงนี้มีปัญหาอะไรหนักอกบ้างหรือเปล่า?
-ก็มีแน่นอนค่ะ บางทีก็เจอปัญหาที่เอ๊ะ เป็นยังไงมายังไง คือบางทีปัญหานั้นเอิร์นไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย แต่เขาก็พยายามจะลากเราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ก็พยายามคุยกับผู้ใหญ่ตามคำแนะนำของคุณแม่ ก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ ปัญหาที่ผ่านมาอาจจะมีเรื่องข่าวคราวด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างหลาย ๆ บุคคลด้วย ผู้ใหญ่ก็แนะนำให้ระวังเรื่องคำพูด หรือการปฏิบัติตัวในการอยู่ตรงนี้ บางทีมีข่าวก็งง ๆ เหมือนกัน บางทีไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ก็พยายามแก้ปัญหาให้ดีที่สุด และปรึกษาผู้ใหญ่ ตอนนี้ก็ยังไม่เคยมีข่าวไหนที่รู้สึกว่าหนักมาก จริง ๆ แล้ว ถ้าเป็นเอิร์นทำผิดไป พูดผิดไป ก็คงจะต้องขอโทษ แต่ว่าถ้าเป็นข่าวที่เป็นข่าวลือก็คงไม่ทำอะไร ก็คงเฉย ๆ ไป บางทีคนเราอาจจะต่างความคิดมากกว่า ด้วยเขาอาจจะมองหลาย ๆ มุมมองต่างกันไป
อย่างเช่นมีข่าวหาว่าเราหยิ่ง?
-มันอาจจะคิดได้หลายมุมค่ะ ที่เขาคิดอย่างนั้น อาจจะเป็นเพราะว่า เอิร์นยิ้มน้อยไปหรือเปล่า หรือว่าเจอกันไม่ได้ทักทายกันบ้างหรือเปล่า เอิร์น พยายามจะดูจากตัวเองก่อนว่า ถ้าเอิร์นเป็นอย่างนั้น เอิร์นก็พยายามจะปรับมากขึ้น ด้วยเอิร์นเป็นคนที่ค่อนข้างจะเรียบร้อยและพูดน้อย ประกอบกับตาโตและหน้าค่อนข้างดุ ถ้าเอิร์นเฉย ๆ อาจจะมองว่าเอิร์นหยิ่ง มีโลกส่วนตัว ตอนนี้ก็พยายามปรับตัวเองให้ยิ้มมากขึ้น สนทนาพูดคุยกับคนรอบข้างเยอะขึ้น เคยได้ยินคนว่า แล้วก็มีคนเดินเข้ามาบอกเลย ซึ่งก็ดีนะ เพราะว่าเราจะได้รู้ตัวเราด้วยว่า เราควรจะทำตัวอย่างไร
อยากจะบอกแฟนเพลงว่าไม่ได้หยิ่ง?
-จริง ๆ แล้ว เคยมีคนที่จู่ ๆ ก็ไม่ชอบเอิร์นเลย เพราะมองจากภายนอก เจอกันครั้งสองครั้งแล้วไม่คุยเลย เขาคิดว่าต้องเป็นคนที่ถือตัวและหยิ่ง มาก ๆ แต่พอได้มาพูดคุยแล้ว เขาถึงได้รู้ว่า เอิร์นเป็นคนที่พูดไม่ค่อยเก่ง
พูดไม่ค่อยเก่งแบบนี้จะเอนเตอร์เทนคนบนเวทียังไง?
-ช่วงแรก ๆ มีอุปสรรคมาก พอมาหลัง ๆ เอิร์น พยายามจะปรับเปลี่ยน พยายามคิดว่าขึ้นไปแล้วเหมือนเพื่อน เหมือนคนในครอบครัวเดียวกันมาให้กำลังใจ จะได้รู้สึกไม่ตื่นเต้นด้วย เขาจะได้รู้สึกเป็นกันเองกับเราด้วย
วงการบันเทิงให้อะไรกับเอิร์นบ้าง?
-เอิร์นอยู่ในวงการนี้มา 4 ปีแล้ว วงการนี้ให้อะไรกับเอิร์นมากเลย อย่างแรกคือให้ประสบการณ์ที่ดีในหลาย ๆ แง่มุมเลย แล้วก็ให้เพื่อนในหลาย ๆ รูปแบบ ให้เรียนรู้ด้านการทำงานและการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากคนธรรมดา วงการบันเทิงก็มีทั้งด้านขาวและด้านดำ อยู่ที่ว่าเราจะทำยังไงกับมันมากกว่า เวลาที่เราเจอทั้งด้านขาวและด้านดำ
ตอนนี้มีหนุ่ม ๆ มาจีบบ้างไหม?
-มีบ้างค่ะ บางทีไปงานก็มีพยายามมาคุย เอิร์นคิดว่าตอนนี้ชีวิตเอิร์นเพิ่งเริ่มต้นการทำงาน ก็เลยสนุกกับการทำงานมาก ๆ เลย และตอนนี้ก็เป็นอัลบั้ม 2 ที่ค่อนข้างจะมุ่งหวังเรื่องการทำงานมาก เรื่องของความรักเลยยังไม่ค่อยได้มอง เอิร์นว่าด้วยเวลาด้วยมั้งคะ เพราะว่าตอนที่เรายังไม่ได้มาทำงานตรงนี้ เราอาจจะมีเวลาค่อนข้างเยอะกว่าคนอื่น แต่พอเรามาทำงานตรงนี้แล้ว เวลาตรงนั้นแทบจะไม่มีเลย เพราะว่าในเรื่องของงานก็ค่อนข้างเยอะแล้ว ไหนเราจะต้องแบ่งเวลาไปใช้ส่วนตัว ไปดูแลตัวเอง มันก็คงจะไม่มีเวลาไปถึงเรื่องความรักแล้ว ต้องรออีกสักพักหนึ่ง
มีสเปกหนุ่มในฝันไหม?
-เมื่อก่อนเคยชอบผู้ชาย ขาว สูง ตี๋ เล่นดนตรีใส่แว่น แต่ตอนนี้สเปกไม่ได้เปลี่ยนไปมาก แต่เราอยากหาใครสักคนที่เขามีความเข้าใจในตัวเรามากกว่า ตอนนี้ก็รอกันต่อไป คิดว่าเดี๋ยวก็คงเข้ามาเอง
มีตั้งกฎเกณฑ์อะไรกับความรักของตัวเองหรือเปล่า?
-ตั้งเหมือนกันค่ะ บอกกับตัวเองเลยค่ะ ว่าตอนนี้เราทำหน้าที่อะไรอยู่ ก็ทำอย่างเดียวให้ดีที่สุดไปก่อน ถึงเวลาเมื่อไหร่ เชื่อว่าถ้าเป็นเรื่องความรักและเขาเป็นคู่ของเรา เดี๋ยวก็คงเข้ามาเอง เราก็คงเจอกันเอง ถ้าถามว่าเหงาไหม ความจริงทำงานก็เจอคนค่อนข้างเยอะ บางทีก็ไปกับครอบครัว เจอแฟนเพลงก็ไม่รู้สึกเหงาแล้ว และก็ยังสนุกกับการได้ทำงาน ได้ร้องเพลงอยู่
อยากฝากอะไรถึงแฟน ๆ ไหม?
-ก่อนอื่นเลยเอิร์นต้องขอขอบคุณทุก ๆ ท่านเลย ที่เคยสนับสนุนเอิร์น ตั้งแต่ตอนประกวดเดอะสตาร์ เพราะกำลังใจตรงนั้นทำให้เอิร์นมาเป็นนักร้องในทุกวันนี้ จนมีอัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้มที่สอง ขอบคุณไปถึงแฟนคลับของเอิร์น ที่อยู่ด้วยกันมาตั้ง 4-5 ปี ทำเว็บไซต์ขึ้นมา และก็ยังรักกันเหนียวแน่นอยู่ ขอบคุณทุก ๆ ท่านเลยที่ให้การตอบรับที่ดีในอัลบั้มของเอิร์น ทำให้หลาย ๆ เพลงของเอิร์นเป็นที่ชื่นชอบของแฟนเพลง
หัวใจทั้ง 4 ห้องตอนนี้เอิร์นคงฟันธงแล้วว่า ยังไงซะ ก็จะมอบให้กับการร้องเพลงอย่างเดียว หนุ่ม ๆ ที่ขายขนมจีบอยู่คงต้องรอไปก่อนนะจ๊ะ.
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
ตั้งแต่ประกวดเดอะสตาร์มาใช้เวลานานเหมือนกันนะกว่าจะได้มีอัลบั้มของตัวเอง?
-ก็เกือบ 4 ปี แต่ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่า เพราะตลอดเวลา 3 ปี เราก็ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์เยอะเหมือนกัน ทางทีมงานแกรมมี่โกลด์ ก็ให้เอิร์นได้ไปขึ้นคอนเสิร์ตกับพี่ไมค์ ภิรมย์พร พี่ต่าย อรทัย และก็ได้ไปขึ้นเวทีใหญ่ ๆ กับ พี่ก๊อท-จักรพันธ์ ด้วย เลยได้ประสบการณ์จากตรงนั้น ก็เลยนำเอาประสบการณ์ที่ผ่านมาตรงนั้นมาทำอัลบั้มชุดแรก
มีน้อยใจไหม ที่เพื่อน ๆ เดอะสตาร์รุ่นเดียวกัน เขาได้ล้ำหน้าไปก่อน?
-จริง ๆ แล้ว ช่วงปีแรก ๆ ที่จบจากการประกวดเดอะสตาร์ ก็มี เพื่อน ๆ ออกอัลบั้มกันไปหลายคนแล้ว ก็มีแฟนเพลงถามกันว่า แล้วเมื่อไหร่จะ ถึงคิวของเอิร์น บางทีก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า เมื่อไหร่จะถึงคิวของเราซะที แต่จริง ๆ แล้ว พอได้มาทำอัลบั้มแรก เอิร์นก็ได้รู้ว่าช่วงระยะเวลา 3 ปี ผู้ใหญ่ ทีมงาน อาจารย์ พยายามมองแนวทางมองรูปลักษณ์ของเอิร์นว่า อัลบั้มของเอิร์น อยากจะให้ออกมาเป็นตัวเอิร์นมากที่สุด เลยเขียนเพลงให้เหมาะกับตัวเอิร์น 3 ปีตรงนั้นเอิร์นรู้สึกว่าคุ้มกับการรอคอย ไม่ได้รู้สึกน้อยใจเสียใจอะไร
เส้นทางการเป็นนักร้องของเอิร์นมันต้องลำบากและฝ่าฟันขนาดไหน?
-ก็ค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่ประกวดร้องเพลงเลย ด้วยความที่อยากจะเป็นนักร้องก็เลยเดินสายประกวด ประกวดมาหลายเวทีเหมือนกัน เอิร์นประกวดตั้งแต่ 7 ขวบ เรียกได้ว่าเป็น 10 ปี ทั้งต่างจังหวัด และในกรุงเทพฯ ได้ประกวดเวทีใหญ่ ๆ หลายเวทีจนถึงเวทีเดอะสตาร์ ทุก ๆ เวทีก็มีแพ้บ้าง ชนะบ้าง ตกรอบบ้าง ก็เป็นธรรมดา แต่ว่าจะเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมแพ้อะไร ง่าย ๆ ด้วยความที่คุณแม่คอยให้กำลังใจด้วย ทุกครั้งที่ไปประกวดร้องเพลงแม่ก็จะไป ไปกันทั้งบ้านเลย เลยทำให้เรารู้สึกว่าเรายอมแพ้ไม่ได้ เรามีฝันแล้ว เราต้องทำให้เต็มที่ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่เราตั้งใจเอาไว้ อย่างน้อยเราก็ดีใจแล้วที่เราได้ลงมือทำ แล้วก็คนรอบข้างให้กำลังใจเรา
ฝันอยากจะเป็นนักร้องตั้งแต่เด็กเลยหรือเปล่า?
-ตั้งแต่ได้ประกวดร้องเพลงครั้งแรก จริง ๆ เด็ก ๆ ฝันอยากจะเป็นหมอ เป็นพยาบาล เพราะว่าคุณย่า คุณปู่ ทำงานอยู่ทางสายนี้ พอปิดเทอมก็จะถูกส่งไปอยู่กับคุณปู่คุณย่า และท่านก็ทำงานที่สาธารณสุข จะไปวนเวียนอยู่กับคนไข้ ตอนนั้นก็เลยอยากเป็นหมอ แต่ตอนที่มาประกวดร้องเพลงครั้งแรกก็อยากจะเป็นนักร้อง คือคุณแม่เป็นอาจารย์สอนภาษาไทย แล้วส่งลูกศิษย์ไปประกวดร้องเพลง แต่ว่าลูกศิษย์ไปไม่ได้ คุณแม่ต้องหาคนไปประกวดแทน ตอนนั้นไม่มีใครเลยส่งชื่อลูกไป ครั้งนั้นเป็นการประกวดร้องเพลงครั้งแรกของ เอิร์น และก็เป็นครั้งแรกที่คุณแม่ได้ยินเอิร์นร้องเพลง แล้วก็ได้รางวัลมาด้วย เป็นรางวัลระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ก่อนหน้านี้รู้ตัวมาก่อนไหมว่าฉันร้องเพลงได้?
-คือร้องตามมีตามเกิดค่ะ ด้วยความที่บุคลิกเอิร์นเป็นคนที่ค่อนข้างจะพูดน้อย อาจจะเป็นคนชอบฟังมากกว่า เวลาที่คุณแม่สอนร้องเพลง เอิร์นก็จะนั่งฟังทั้งวัน แต่ครั้งนั้นที่ประกวดเราก็ร้องไปแบบที่เรารู้สึก แบบที่เราได้ฟังมา
ตอนนี้ฝันได้เป็นจริงแล้ว?
-ดีใจ แล้วก็ภูมิใจมาก จนไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยาย แล้วก็ทำให้คุณแม่กับคุณพ่อภูมิใจที่เราได้ทำความฝันของเราสำเร็จ เขาก็ให้กำลังใจ เพราะเขาก็เหนื่อยกับเรามานาน เวลาไปประกวดที่ไหน จะไกลแค่ไหน คุณพ่อคุณแม่ก็ขับรถพากันไป ดีใจที่ทำให้เขาภูมิใจในตัวเรา ตอนนี้ถ้าไม่ได้เป็นนักร้อง เอิร์นก็คงทำงานในอาชีพสายบันเทิงนี่แหละ ด้วยใจที่รักทางด้านนี้ แล้วก็เรียนมาทางด้านนี้ด้วย อาจจะเป็นเบื้องหลัง เอิร์นเรียนนิเทศศาสตร์ เอกวิทยุโทรทัศน์ค่ะ
ในวัยเด็กเอิร์นโตมาในครอบครัวแบบไหน?
-เป็นครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง คุณแม่เป็นครู คุณพ่อทำงานธนาคาร ธ.ก.ส. ส่วน มากจะเลี้ยงลูกแบบติดดิน เพราะด้วยความที่คุณพ่อทำงานกับชาวบ้าน ต้องไปดูแลหลาย ๆ พื้นที่ที่เขาทำไร่ ทำนา เพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ส่วนคุณแม่ก็เป็นครูภาษาไทย และรักเสียงดนตรี มีอะไรก็จะถ่ายทอดให้ลูก ทั้งการอ่านทำนองเสนาะ การใช้เสียง การร้องเพลง ที่บ้านเราก็จะอยู่กันแบบสบาย ๆ คุณพ่อคุณแม่จะไม่ค่อยบังคับลูกและตั้งกรอบอะไรให้มากมาย ก็คือลูกชอบอะไร ก็พยายามทำความเข้าใจและหาเหตุผล ลูกรักอะไรก็รักด้วย
คุณแม่เป็นครู เข้มงวดไหม?
-ถ้ากับเรื่องการเรียนและเรื่องการปฏิบัติตัวบางอย่างเข้มงวดค่ะ แต่ว่าอะไรที่ลูกชอบลูกรัก ก็สนับสนุนเต็มที่ คุณแม่เป็นครูและก็สอนเอิร์นด้วย ซึ่งตอนอยู่ในหน้าที่ของครูก็ดุมาก ไม่เว้นแม้ว่าเราเป็นลูก เคยโดนตี ตอนนั้นที่แม่สอนเอิร์นอยู่ชั้น ม.1 ที่โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ ที่ จ.นครราชสีมา ตอนนี้คุณแม่ก็ยังเป็นครูอยู่ แต่ว่าย้ายไปอีกโรงเรียนหนึ่ง
พอเราเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงแม่มีห่วงอะไรเราเป็นพิเศษไหม?
-คุณแม่จะพูดเสมอว่า มาทำงานตรงนี้แล้วให้ดูแลตัวเองดี ๆ เป็นห่วงในเรื่องของสุขภาพ เพราะเราเป็นนักร้องต้องใช้เสียง ใช้ร่างกายอยู่ตลอดเวลา เขาก็อยากให้เรามีเวลาออกกำลังกายบ้าง ไม่อยากให้ละเลยเรื่องนี้ไป คุณแม่บอกว่าถ้ามีปัญหาอะไรที่เราไม่เข้าใจ ให้พยายามคุยกับผู้ใหญ่เยอะ ๆ แล้วก็ให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน และตรงเวลา
แล้วพออยู่ตรงนี้มีปัญหาอะไรหนักอกบ้างหรือเปล่า?
-ก็มีแน่นอนค่ะ บางทีก็เจอปัญหาที่เอ๊ะ เป็นยังไงมายังไง คือบางทีปัญหานั้นเอิร์นไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย แต่เขาก็พยายามจะลากเราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ก็พยายามคุยกับผู้ใหญ่ตามคำแนะนำของคุณแม่ ก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ ปัญหาที่ผ่านมาอาจจะมีเรื่องข่าวคราวด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างหลาย ๆ บุคคลด้วย ผู้ใหญ่ก็แนะนำให้ระวังเรื่องคำพูด หรือการปฏิบัติตัวในการอยู่ตรงนี้ บางทีมีข่าวก็งง ๆ เหมือนกัน บางทีไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ก็พยายามแก้ปัญหาให้ดีที่สุด และปรึกษาผู้ใหญ่ ตอนนี้ก็ยังไม่เคยมีข่าวไหนที่รู้สึกว่าหนักมาก จริง ๆ แล้ว ถ้าเป็นเอิร์นทำผิดไป พูดผิดไป ก็คงจะต้องขอโทษ แต่ว่าถ้าเป็นข่าวที่เป็นข่าวลือก็คงไม่ทำอะไร ก็คงเฉย ๆ ไป บางทีคนเราอาจจะต่างความคิดมากกว่า ด้วยเขาอาจจะมองหลาย ๆ มุมมองต่างกันไป
อย่างเช่นมีข่าวหาว่าเราหยิ่ง?
-มันอาจจะคิดได้หลายมุมค่ะ ที่เขาคิดอย่างนั้น อาจจะเป็นเพราะว่า เอิร์นยิ้มน้อยไปหรือเปล่า หรือว่าเจอกันไม่ได้ทักทายกันบ้างหรือเปล่า เอิร์น พยายามจะดูจากตัวเองก่อนว่า ถ้าเอิร์นเป็นอย่างนั้น เอิร์นก็พยายามจะปรับมากขึ้น ด้วยเอิร์นเป็นคนที่ค่อนข้างจะเรียบร้อยและพูดน้อย ประกอบกับตาโตและหน้าค่อนข้างดุ ถ้าเอิร์นเฉย ๆ อาจจะมองว่าเอิร์นหยิ่ง มีโลกส่วนตัว ตอนนี้ก็พยายามปรับตัวเองให้ยิ้มมากขึ้น สนทนาพูดคุยกับคนรอบข้างเยอะขึ้น เคยได้ยินคนว่า แล้วก็มีคนเดินเข้ามาบอกเลย ซึ่งก็ดีนะ เพราะว่าเราจะได้รู้ตัวเราด้วยว่า เราควรจะทำตัวอย่างไร
อยากจะบอกแฟนเพลงว่าไม่ได้หยิ่ง?
-จริง ๆ แล้ว เคยมีคนที่จู่ ๆ ก็ไม่ชอบเอิร์นเลย เพราะมองจากภายนอก เจอกันครั้งสองครั้งแล้วไม่คุยเลย เขาคิดว่าต้องเป็นคนที่ถือตัวและหยิ่ง มาก ๆ แต่พอได้มาพูดคุยแล้ว เขาถึงได้รู้ว่า เอิร์นเป็นคนที่พูดไม่ค่อยเก่ง
พูดไม่ค่อยเก่งแบบนี้จะเอนเตอร์เทนคนบนเวทียังไง?
-ช่วงแรก ๆ มีอุปสรรคมาก พอมาหลัง ๆ เอิร์น พยายามจะปรับเปลี่ยน พยายามคิดว่าขึ้นไปแล้วเหมือนเพื่อน เหมือนคนในครอบครัวเดียวกันมาให้กำลังใจ จะได้รู้สึกไม่ตื่นเต้นด้วย เขาจะได้รู้สึกเป็นกันเองกับเราด้วย
วงการบันเทิงให้อะไรกับเอิร์นบ้าง?
-เอิร์นอยู่ในวงการนี้มา 4 ปีแล้ว วงการนี้ให้อะไรกับเอิร์นมากเลย อย่างแรกคือให้ประสบการณ์ที่ดีในหลาย ๆ แง่มุมเลย แล้วก็ให้เพื่อนในหลาย ๆ รูปแบบ ให้เรียนรู้ด้านการทำงานและการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากคนธรรมดา วงการบันเทิงก็มีทั้งด้านขาวและด้านดำ อยู่ที่ว่าเราจะทำยังไงกับมันมากกว่า เวลาที่เราเจอทั้งด้านขาวและด้านดำ
ตอนนี้มีหนุ่ม ๆ มาจีบบ้างไหม?
-มีบ้างค่ะ บางทีไปงานก็มีพยายามมาคุย เอิร์นคิดว่าตอนนี้ชีวิตเอิร์นเพิ่งเริ่มต้นการทำงาน ก็เลยสนุกกับการทำงานมาก ๆ เลย และตอนนี้ก็เป็นอัลบั้ม 2 ที่ค่อนข้างจะมุ่งหวังเรื่องการทำงานมาก เรื่องของความรักเลยยังไม่ค่อยได้มอง เอิร์นว่าด้วยเวลาด้วยมั้งคะ เพราะว่าตอนที่เรายังไม่ได้มาทำงานตรงนี้ เราอาจจะมีเวลาค่อนข้างเยอะกว่าคนอื่น แต่พอเรามาทำงานตรงนี้แล้ว เวลาตรงนั้นแทบจะไม่มีเลย เพราะว่าในเรื่องของงานก็ค่อนข้างเยอะแล้ว ไหนเราจะต้องแบ่งเวลาไปใช้ส่วนตัว ไปดูแลตัวเอง มันก็คงจะไม่มีเวลาไปถึงเรื่องความรักแล้ว ต้องรออีกสักพักหนึ่ง
มีสเปกหนุ่มในฝันไหม?
-เมื่อก่อนเคยชอบผู้ชาย ขาว สูง ตี๋ เล่นดนตรีใส่แว่น แต่ตอนนี้สเปกไม่ได้เปลี่ยนไปมาก แต่เราอยากหาใครสักคนที่เขามีความเข้าใจในตัวเรามากกว่า ตอนนี้ก็รอกันต่อไป คิดว่าเดี๋ยวก็คงเข้ามาเอง
มีตั้งกฎเกณฑ์อะไรกับความรักของตัวเองหรือเปล่า?
-ตั้งเหมือนกันค่ะ บอกกับตัวเองเลยค่ะ ว่าตอนนี้เราทำหน้าที่อะไรอยู่ ก็ทำอย่างเดียวให้ดีที่สุดไปก่อน ถึงเวลาเมื่อไหร่ เชื่อว่าถ้าเป็นเรื่องความรักและเขาเป็นคู่ของเรา เดี๋ยวก็คงเข้ามาเอง เราก็คงเจอกันเอง ถ้าถามว่าเหงาไหม ความจริงทำงานก็เจอคนค่อนข้างเยอะ บางทีก็ไปกับครอบครัว เจอแฟนเพลงก็ไม่รู้สึกเหงาแล้ว และก็ยังสนุกกับการได้ทำงาน ได้ร้องเพลงอยู่
อยากฝากอะไรถึงแฟน ๆ ไหม?
-ก่อนอื่นเลยเอิร์นต้องขอขอบคุณทุก ๆ ท่านเลย ที่เคยสนับสนุนเอิร์น ตั้งแต่ตอนประกวดเดอะสตาร์ เพราะกำลังใจตรงนั้นทำให้เอิร์นมาเป็นนักร้องในทุกวันนี้ จนมีอัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้มที่สอง ขอบคุณไปถึงแฟนคลับของเอิร์น ที่อยู่ด้วยกันมาตั้ง 4-5 ปี ทำเว็บไซต์ขึ้นมา และก็ยังรักกันเหนียวแน่นอยู่ ขอบคุณทุก ๆ ท่านเลยที่ให้การตอบรับที่ดีในอัลบั้มของเอิร์น ทำให้หลาย ๆ เพลงของเอิร์นเป็นที่ชื่นชอบของแฟนเพลง
หัวใจทั้ง 4 ห้องตอนนี้เอิร์นคงฟันธงแล้วว่า ยังไงซะ ก็จะมอบให้กับการร้องเพลงอย่างเดียว หนุ่ม ๆ ที่ขายขนมจีบอยู่คงต้องรอไปก่อนนะจ๊ะ.
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก