ศิลปินอังกฤษแตกคอ เถียงกันเรื่องกฎหมายป้องกันการดาวน์โหลดเพลงของรัฐบาล

ศิลปินอังกฤษแตกคอ นักร้องรุ่นใหญ่รวมกลุ่มวิพากษ์รัฐบาลที่จะออกกม.ลงโทษคนดาวน์โหลดเพลงทางอินเตอร์เน็ต ชี้เป็นการตัดช่องทางประชาสัมพันธ์ผลงาน ขณะที่ ลิลี่ อัลเลน ออกโรงหนุนกม.ใหม่ ระบุไม่ควรให้หัวขโมยมีเสรีภาพ


ลิลี่ อัลเลน

ศิลปินชื่อดังของประเทศอังกฤษ เช่น แอนนี่ เล็นน็อกซ์, ร็อบบี้ วิลเลี่ยมส์, ทอม โจนส์ และ วงเรดิโอเฮด ในนามของ กลุ่มพันธมิตรศิลปิน ได้รวมตัวกันแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของรัฐบาลอังกฤษที่จะป้องกันไม่ให้ผู้คนทำการดาวน์โหลดเพลงอย่างผิดกฎหมายทางอินเตอร์เน็ต ด้วยการออกกฎหมายให้บริษัทเอกชนผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตลงโทษลูกค้าผู้ทำผิดกฎหมายของตนเอง ผ่านมาตรการการลดความเร็วอินเตอร์เน็ตหรือการงดให้บริการอินเตอร์เน็ตเป็นการชั่วคราว


ร็อบบี้ วิลเลี่ยมส์

กลุ่มพันธมิตรศิลปินดังกล่าวมีความเห็นว่า กฎหมายที่รัฐบาลกำลังเสนอจะถือเป็นการตัดช่องทางในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลงานผ่านทางอินเตอร์เน็ตของเหล่าศิลปิน โดยเฉพาะศิลปินที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดยักษ์ใหญ่ ซึ่งมักจะทำการประชาสัมพันธ์บทเพลงของตนเองผ่านทางโลกออนไลน์


กลุ่มพันธมิตรศิลปิน

แต่ศิลปินกลุ่มนี้ก็ยังไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมการดาวน์โหลดเพลงอย่างผิดกฎหมายทางอินเตอร์เน็ต โดยพวกเขาเสนอว่า ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมดนตรีต้องพยายามจัดหารายได้ชดเชยมาให้แก่เหล่าศิลปิน ทั้งยังควรให้การศึกษาแก่สาธารณชนว่า ทำไมผู้คนจึงควรจ่ายเงินให้แก่ศิลปินนักร้องผู้สร้างสรรค์ผลงานเพลงที่พวกตนรักและชื่นชม


แอนนี่ เล็นน็อกซ์

อย่างไรก็ตาม ศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง ลิลี่ อัลเลน ที่ได้รับการสนับสนุนจาก เจมส์ บลันท์ กลับออกมาแสดงความเห็นโต้แย้งเหล่าศิลปินรุ่นพี่ว่า ทั้งหมดกำลังแสดงความคิดที่ไม่สมเหตุสมผลออกมา เพราะในขณะที่กลุ่มพันธมิตรศิลปินระบุว่ากฎหมายที่รัฐบาลจะเสนอถือเป็นการทำลายเสรีภาพและอิสรภาพของผู้คน แต่สำหรับเธอ การดาวน์โหลดเพลงทางอินเตอร์เน็ตอย่างผิดกฎหมายถือเป็นพฤติกรรมของหัวขโมยที่ไม่ควรได้รับสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ เมื่อกฎหมายดังกล่าวประกาศใช้ สาธารณชนก็จะได้รับทราบเนื้อหาของกฎหมายก่อน พวกเขาจึงไม่ได้ถูกพรากอิสรภาพของพลเมืองไปแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ศิลปินระดับโลกจำนวนมากได้หันไปเปิดการแสดงสดมากยิ่งขึ้น เพื่อหารายได้มาทดแทนทรัพย์สินที่หดหายไปจากการดาวน์โหลดเพลงอย่างผิดกฎหมายทางอินเตอร์เน็ต แต่ก็มีกลุ่มโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงที่แสดงความคิดเห็นว่า นั่นคือวิธีการเอาตัวรอดของเหล่าศิลปินผู้เป็นนักแสดงเพียงเท่านั้น ขณะที่กลุ่มคนผู้ทำงานอยู่เบื้องหลังศิลปินซึ่งมีรายได้ลดลงจากการดาวน์โหลดเพลง กลับจะไม่ได้รับรายได้ทดแทนจากการแสดงสดของเหล่าศิลปินแต่อย่างใด