บอย พีชเมกเกอร์ โต้ เลิกเจี๊ยบ ตกกระป๋องลูกรัก เจ๊ฉอด
หายหน้าไปนานไม่วายถูกเม้าท์กระหน่ำ สำหรับนักร้องหนุ่ม บอย พีชเมกเกอร์ ไม่ว่าจะเป็นข่าวตกกระป๋องลูกรัก เจ๊ฉอด บิ๊กบอสเอ-ไทม์ หลังคบ เจี๊ยบ พิจิตตรา ซึ่งก็ไม่วายมีข่าวลือว่าห่างเหินกัน หรือถึงขั้นเลิก ล่าสุดหนุ่ม บอย ก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนกับแฟนสาว เจี๊ยบ ก็แฮปปี้กันดี หลังคบเข้าปีที่ 5 ส่วนจะมีข่าวดีหรือไม่นั้น รอจังหวะเวลามากกว่า
หายหน้าไปนาน คนมองเป็นลูกรักตกกระป๋องหรือเปล่า? ......มันแล้วแต่คนจะคิดนะครับ แต่ว่าตัวผมเองไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นเพราะว่าระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านไปเนี่ยเราก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์แล้วก็ได้มีคอนเสิร์ตให้เล่น อยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว ไม่ได้คิดว่าเฮ้ยไม่ใช่หายไป 5 ปีแล้วไม่มีงานเลย ก็ยังมีงานอยู่เรื่อยๆ แล้วก็ยังทางเอ-ไทม์ ก็ยังเรียกใช้บริการอยู่เรื่อยๆ
กับข่าวลือที่บอกว่าไม่ได้เป็นลูกรักพี่ฉอดแล้ว คือยังไง? ....คือผมว่าการทำงานของคนเรามันต้องมีการเลี่ยน การเอียนบ้างถ้ามีเราเป็นเราตลอดผมว่าคนที่มาดูเนี่ยมันก็รู้สึกเอียนบ้าง วันนึงก็คงไม่มาดูแล้ว แต่ก็มีเว้นวรรคให้รู้สึกบ้างว่าเฮ้ยเริ่มอยากดูแล้วหรืออะไรอย่างนี้ ตัวผมเองถ้าให้มีคอนเสิร์ตเดี่ยวๆ แบบบ่อยๆ ตัวคนเล่นเองผมเชื่อว่าก็จะรู้สึกไม่อินมากกับคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองสัก เท่าไหร่ ก็จะมีช่วงเว้นบ้าง"
เม้าท์กันว่ามีปัญหากับพี่ฉอด? .....ไม่จริงเลยครับ เพราะว่าเราก็ยังเจอกับพี่ฉอดอยู่ตลอด ไปที่เอ-ไทม์ก็ยังแวะเข้าไปสวัสดีแกตลอด ถ้าเกิดว่ามีปัญหาปีที่แล้วก็คงไม่ไปขึ้นเวทีคอนเสิร์ตของพี่นิ่ม ศรีฟ้า (ไม่เกี่ยวกับข่าวของเจี๊ยบ?)ไม่เกี่ยวเลยครับ เรื่องงานอย่างเดียวเลยครับ
รู้สึกยังไงที่คนมองว่าพอเราคบเจี๊ยบ แล้วพี่ฉอดเลยไม่เอ็นดู? ....โห ถ้าเกิดคิดแบบนี้เนี่ยมันเสียถึงพี่ฉอดเลย มันไม่ดีมากๆ เพราะว่าพี่ฉอดเป็นผู้ใหญ่พอและผมเชื่อว่าพี่ฉอดก็มีคนที่ต้องทำงานด้วยเยอะ มากถ้ามาคิดแบบนี้ผมคิดว่าไม่ยุติธรรมสำหรับตัวพี่ฉอดนะครับ ตัวเราเองมีหน้าที่ทำงานตรงนี้ให้ดีที่สุด ส่วนทางพี่ฉอด หรือจะเป็นเอ-ไทม์ อะไรอย่างเนี้ยะเรียกใช้งานผมว่าอยู่ที่ผลงานมากกว่า ถ้าช่วงที่เราได้รับมอบหมายหน้าที่มาเราก็ทำงานตรงนั้นให้เต็มที่มันก็ตอบ แทนเค้า ถ้าเค้าเห็นผลงานดีเค้าก็เรียกไปใช้อีก
จะกลับมาทวงตำแหน่งลูกรักคืนไหม? .....อย่าเรียกว่าเป็นตำแหน่งลูกรักเลย เรียกว่าเป็นให้โอกาสในการมีคอนเสิร์ตส่วนตัวคนเดียวของตัวเอง เรียกว่าตอบแทนพี่ๆ แล้วก็ทีมงานทกๆ คนให้ดีที่สุดดีกว่า กับเจี๊ยบตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? .....ก็ดีครับเรื่อยๆ (หลายคนลุ้นให้แต่งกัน?)ก็จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของเวลามากกว่าว่าถ้าเรารีบเร่งมีงานแต่งงานขึ้นไป มีเร็วไปก็ไม่ได้เจอกันอยู่ดีเพราะว่าต่างคนก็ยังทำงานกันอยู่ใช่ไหมครับ ผมก็ทำงานทางสายดนตรี เค้าก็เรื่องของการแสดงเวลาที่ได้เอกันมันก็ค่อนข้างจะน้อย
.....ก็มีคุยกันบ้างครับ แต่ว่าสุดท้ายแล้วมันคือเรื่องของเวลาถึงเราแต่งไปแล้วไม่ได้อยู่ด้วยกันมัน ก็ไม่มีประโยชน์ (คบกี่ปีแล้ว?)เพิ่งเข้าปีที่ 5 ครับ (กลัวเลขคี่ไหม?)หลายคนกลัวใช่ไหมครับ ผมไม่รู้สึกเลยเพราะว่าทุกวันเราก็จะถามไถ่กันเสมอไม่ได้รู้สึกว่า คือเวลาที่ไม่ได้เจอกันก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันห่างกัน เราก็ยังมีการสื่อสารกันตลอดเวลา
หลายคนมองว่าห่างกันหรือเปล่า? .....ไม่หรอกคือผมว่าไม่ค่อยแบบออกสื่อด้วยกันมากกว่า คือไม่ค่อยได้มีภาพแบบมางานด้วยกันอะไรอย่างงี้มากกว่าก็เลยมีคนเข้าใจว่า เราเลิกกันหรือเปล่า (แล้วมีคุยเรื่องแต่งบ้างไหม?)ก็เรื่องแพลนว่าเดือนไหนวันไหนนี่ยังไม่ได้แพ ลน คือเรายังไม่ได้อยากผูกมัดด้วยคำพูดแบบนี้ผมเชื่อว่าในใจถ้าพร้อมทั้งคู่ตรง นั้นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้ว เรื่องแพลนเรื่องอะไร แต่ว่าก็มีการคุยกันว่าเออถ้าพร้อมตรงนี้นะ เค้าดูแลที่บ้านเค้าตรงนี้เรียบร้อยทุกอย่างพร้อมแล้วๆ ก็บริหารเวลาของทั้งคู่ได้ก็ตรงนี้ก็ไม่มีปัญหา
เห็นบอกว่าซื้อเรือนหอแล้ว? .....อย่าไปเรียกว่าเป็นเรือนหอเลยครับ คือเค้าเองกำลังจะหาซื้อบ้านให้คุณแม่ ตัวผมเองก็อยากจะสร้างบ้านขึ้นมาครับ ยังครับ (ติดกันเลยไหม?)ก็พยายามดูให้มันอยู่โลเกชั่นใกล้ๆ กัน เวลาไปมาหาสู่กันมันจะได้ไม่ลำบาก
หายหน้าไปนาน คนมองเป็นลูกรักตกกระป๋องหรือเปล่า? ......มันแล้วแต่คนจะคิดนะครับ แต่ว่าตัวผมเองไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นเพราะว่าระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านไปเนี่ยเราก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์แล้วก็ได้มีคอนเสิร์ตให้เล่น อยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว ไม่ได้คิดว่าเฮ้ยไม่ใช่หายไป 5 ปีแล้วไม่มีงานเลย ก็ยังมีงานอยู่เรื่อยๆ แล้วก็ยังทางเอ-ไทม์ ก็ยังเรียกใช้บริการอยู่เรื่อยๆ
กับข่าวลือที่บอกว่าไม่ได้เป็นลูกรักพี่ฉอดแล้ว คือยังไง? ....คือผมว่าการทำงานของคนเรามันต้องมีการเลี่ยน การเอียนบ้างถ้ามีเราเป็นเราตลอดผมว่าคนที่มาดูเนี่ยมันก็รู้สึกเอียนบ้าง วันนึงก็คงไม่มาดูแล้ว แต่ก็มีเว้นวรรคให้รู้สึกบ้างว่าเฮ้ยเริ่มอยากดูแล้วหรืออะไรอย่างนี้ ตัวผมเองถ้าให้มีคอนเสิร์ตเดี่ยวๆ แบบบ่อยๆ ตัวคนเล่นเองผมเชื่อว่าก็จะรู้สึกไม่อินมากกับคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองสัก เท่าไหร่ ก็จะมีช่วงเว้นบ้าง"
เม้าท์กันว่ามีปัญหากับพี่ฉอด? .....ไม่จริงเลยครับ เพราะว่าเราก็ยังเจอกับพี่ฉอดอยู่ตลอด ไปที่เอ-ไทม์ก็ยังแวะเข้าไปสวัสดีแกตลอด ถ้าเกิดว่ามีปัญหาปีที่แล้วก็คงไม่ไปขึ้นเวทีคอนเสิร์ตของพี่นิ่ม ศรีฟ้า (ไม่เกี่ยวกับข่าวของเจี๊ยบ?)ไม่เกี่ยวเลยครับ เรื่องงานอย่างเดียวเลยครับ
รู้สึกยังไงที่คนมองว่าพอเราคบเจี๊ยบ แล้วพี่ฉอดเลยไม่เอ็นดู? ....โห ถ้าเกิดคิดแบบนี้เนี่ยมันเสียถึงพี่ฉอดเลย มันไม่ดีมากๆ เพราะว่าพี่ฉอดเป็นผู้ใหญ่พอและผมเชื่อว่าพี่ฉอดก็มีคนที่ต้องทำงานด้วยเยอะ มากถ้ามาคิดแบบนี้ผมคิดว่าไม่ยุติธรรมสำหรับตัวพี่ฉอดนะครับ ตัวเราเองมีหน้าที่ทำงานตรงนี้ให้ดีที่สุด ส่วนทางพี่ฉอด หรือจะเป็นเอ-ไทม์ อะไรอย่างเนี้ยะเรียกใช้งานผมว่าอยู่ที่ผลงานมากกว่า ถ้าช่วงที่เราได้รับมอบหมายหน้าที่มาเราก็ทำงานตรงนั้นให้เต็มที่มันก็ตอบ แทนเค้า ถ้าเค้าเห็นผลงานดีเค้าก็เรียกไปใช้อีก
จะกลับมาทวงตำแหน่งลูกรักคืนไหม? .....อย่าเรียกว่าเป็นตำแหน่งลูกรักเลย เรียกว่าเป็นให้โอกาสในการมีคอนเสิร์ตส่วนตัวคนเดียวของตัวเอง เรียกว่าตอบแทนพี่ๆ แล้วก็ทีมงานทกๆ คนให้ดีที่สุดดีกว่า กับเจี๊ยบตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? .....ก็ดีครับเรื่อยๆ (หลายคนลุ้นให้แต่งกัน?)ก็จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของเวลามากกว่าว่าถ้าเรารีบเร่งมีงานแต่งงานขึ้นไป มีเร็วไปก็ไม่ได้เจอกันอยู่ดีเพราะว่าต่างคนก็ยังทำงานกันอยู่ใช่ไหมครับ ผมก็ทำงานทางสายดนตรี เค้าก็เรื่องของการแสดงเวลาที่ได้เอกันมันก็ค่อนข้างจะน้อย
.....ก็มีคุยกันบ้างครับ แต่ว่าสุดท้ายแล้วมันคือเรื่องของเวลาถึงเราแต่งไปแล้วไม่ได้อยู่ด้วยกันมัน ก็ไม่มีประโยชน์ (คบกี่ปีแล้ว?)เพิ่งเข้าปีที่ 5 ครับ (กลัวเลขคี่ไหม?)หลายคนกลัวใช่ไหมครับ ผมไม่รู้สึกเลยเพราะว่าทุกวันเราก็จะถามไถ่กันเสมอไม่ได้รู้สึกว่า คือเวลาที่ไม่ได้เจอกันก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันห่างกัน เราก็ยังมีการสื่อสารกันตลอดเวลา
หลายคนมองว่าห่างกันหรือเปล่า? .....ไม่หรอกคือผมว่าไม่ค่อยแบบออกสื่อด้วยกันมากกว่า คือไม่ค่อยได้มีภาพแบบมางานด้วยกันอะไรอย่างงี้มากกว่าก็เลยมีคนเข้าใจว่า เราเลิกกันหรือเปล่า (แล้วมีคุยเรื่องแต่งบ้างไหม?)ก็เรื่องแพลนว่าเดือนไหนวันไหนนี่ยังไม่ได้แพ ลน คือเรายังไม่ได้อยากผูกมัดด้วยคำพูดแบบนี้ผมเชื่อว่าในใจถ้าพร้อมทั้งคู่ตรง นั้นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้ว เรื่องแพลนเรื่องอะไร แต่ว่าก็มีการคุยกันว่าเออถ้าพร้อมตรงนี้นะ เค้าดูแลที่บ้านเค้าตรงนี้เรียบร้อยทุกอย่างพร้อมแล้วๆ ก็บริหารเวลาของทั้งคู่ได้ก็ตรงนี้ก็ไม่มีปัญหา
เห็นบอกว่าซื้อเรือนหอแล้ว? .....อย่าไปเรียกว่าเป็นเรือนหอเลยครับ คือเค้าเองกำลังจะหาซื้อบ้านให้คุณแม่ ตัวผมเองก็อยากจะสร้างบ้านขึ้นมาครับ ยังครับ (ติดกันเลยไหม?)ก็พยายามดูให้มันอยู่โลเกชั่นใกล้ๆ กัน เวลาไปมาหาสู่กันมันจะได้ไม่ลำบาก