เปลือยหัวใจ ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) ความสำเร็จบนคราบน้ำตา | Sanook Music

เปลือยหัวใจ ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) ความสำเร็จบนคราบน้ำตา

เปลือยหัวใจ ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) ความสำเร็จบนคราบน้ำตา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2553 ที่ผ่านมา ณ อับกุจอง เขตคังนัม กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ กลุ่มศิลปินสุดฮอต ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) ซึ่งสมาชิกประกอบด้วย อีทึก ( Leeteuk ) , ฮีชอล ( Heechul ) , เยซอง ( Yesung ) , ชินดง ( Shindong ) , ซองมิน ( Sungmin ) , อึนฮยอก ( Eunhyuk ) , ทงเฮ ( Donghae ) , ชีวอน ( Siwon ) , รยออุค ( Ryeowook ) และ คยูฮยอน ( Kyuhyun ) ได้พบปะกับบรรดาสื่อมวลชนเกาหลีพร้อมกับให้สัมภาษณ์ทุกเรื่องราวในชีวิต ทุกข่าวลือ ทุกความสงสัย รวมถึงอัลบั้มชุดที่ 4 BONAMANA ทั้ง 10 หนุ่มก็เปลือยหัวใจให้แฟนคลับได้ทราบกันอย่างไม่มีปิดบังในเรื่องราวที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน



สวัสดีค่ะ ?
ซูเปอร์จูเนียร์ : สวัสดีครับ พวกเรา ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) ครับ

มาเริ่มต้นกันด้วยการคัมแบ็คอัลบั้มชุดที่ 4 กันก่อนเลยล่ะกันค่ะ พวกคุณทราบหรือไม่ที่เพลงใหม่อย่าง Beauty มีความคล้ายคลึงกับเพลง Sorry Sorry อยู่ค่อนข้างมาก ?
อีทึก : ทราบครับ แต่ว่าผมคิดว่านั่นคือสไตล์ของพวกเรา ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) ครับ ถึงแม้ว่าเพลงใหม่นี้จะเหมือนภาคต่อของเพลง Sorry Sorry แต่ผมคิดว่ามันเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดครับ

และที่โดดเด่นมากที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องท่าเต้นที่อัลบั้มนี้ดูซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ?
อึนฮยอก : จริงๆ แล้วท่าเต้นตอนแรกยากกว่านี้อีกนะครับ พอเราซ้อมเต้นเสร็จกันแต่ละครั้งพวกเราจะเหนื่อยมากๆ เลยครับ แต่มันก็เป็นอะไรที่เราเต็มใจทำครับ
อีทึก : Nick Bass คนที่คิดท่าเต้นให้กับพวกเราบอกว่าในอัลบั้มนี้อยากเน้นขุมพลังของ ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) เขาเป็นคนเดียวกับที่ออกแบบท่าเต้นให้กับเพลง Sorry Sorry ครับ จริงๆ แล้วตอนแรกเขาไม่ได้มาร่วมงานนี้กับเรา เพราะว่าต้องไปร่วมงานคอนเสิร์ตของ ไมเคิล แจ็คสัน ครับ แต่พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นเขาก็ได้กลับมาออกแบบท่าเต้นให้กับพวกเราอีกครั้ง พวกเรารู้สึกขอบคุณจริงๆ ครับ

อัลบั้มนี้แบ่งเพลงออกเป็นแนวแดนซ์และบัลลาดอย่างละครึ่ง ?
คยูฮยอน : ถึงแม้ว่าเพลงไตเติ้ลของพวกเราจะเป็นเพลงแดนซ์ ซึ่งทำให้มันค่อนข้างยากในการร้อง แต่เนื่องจากผมมีหน้าที่เป็นนักร้องหลักทำให้ผมต้องหมั่นฝึกฝนตัวเองเช่นกันครับ อัลบั้มนี้มีเพลงบัลลาดเยอะ ผมคิดว่าน่าจะสามารถทำให้แฟนๆ ได้สัมผัสอะไรที่แตกต่างออกไปจากเดิมบ้างครับ

อัลบั้มชุดที่ 4 นี้มีสมาชิกเพียง 10 คนเท่านั้น เราอยากให้พวกคุณพูดถึง ฮันคยอง ที่ไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมในอัลบั้มนี้ เนื่องจากกำลังมีคดีความเกี่ยวกับการยกเลิกสัญญากับทางต้นสังกัด หน่อยค่ะ ?
อีทึก : ผมรู้สึกขอโทษต่อเขามากๆ ครับ พวกเราอยู่กับ ฮันคยอง มาเป็นเวลานานจนทำให้เราแทบจะลืมว่าเขาเป็นคนจีนไปแล้วครับ พวกเราอยู่เหมือนกับครอบครัวเดียวกัน แต่การที่พวกเราไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกของเขามันทำให้ผมรู้สึกเสียใจมากครับ มันทำให้ผมมานั่งคิดว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาต้องลำบากขนาดไหนจนถึงขั้นเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น ผมยังหวังว่าถ้าหลังจากนี้เขาเปลี่ยนใจก็อยากให้เขากลับมาหาพวกเราอีกครั้งครับ
ฮีชอล : ตอนที่เพื่อนสนิทของเรา ฮันคยอง เดินทางกลับไปยังประเทศจีน ผมก็พยายามที่จะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นนะครับ แต่ว่าผมก็อดเศร้าใจไม่ได้ ผมอดคิดเรื่องที่พวกเราเคยใช้ชีวิตด้วยกันและทำกิจกรรมกันมาอย่างยาวนานไม่ได้ครับ สำหรับตัวผมเองเวลาอยู่ที่หอพักผมจะอยู่กับ ฮันคยอง ครับ พวกเราดื่มกันบ่อยและสนิทสนมกันมากๆ ผมรู้สึกเสียใจที่ผมไม่สามารถดูแลเขาได้อีกต่อไปครับ นับตั้งแต่ที่ ฮันคยอง เดินทางกลับไปที่จีน ในงานประกาศผลรางวัลเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกสับสนมากๆ เลยครับในตอนนั้น การที่ผมต้องเสียเพื่อนไป เมื่อผมมาคิดกับตัวเองว่าเราต้องมายิ้มหัวเราะเวลาอยู่ในรายการเพลงอะไรแบบนั้น ผมทำไม่ได้ครับ เมื่อปลายปีที่ผ่านมาในงานมหกรรมเพลงผมไม่ขึ้นโชว์เลยครับ เพราะว่าผมคิดมากมันทำให้ตอนนั้นผมเกือบแย่เลยนะครับ

อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณกลับมายืนอยู่บนเวทีร่วมกับเพื่อนๆ ได้อีกครั้งค่ะ ?
ฮีชอล : การที่ผมคิดมากทำให้ผมพูดออกไปว่า "ไม่มีพี่ ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) ก็อยู่ได้ใช่มั้ย ?" ทำให้ น้องอึนฮยอก พูดกับผมว่า "ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่นะครับ" พอผมได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกขอบคุณเขามากๆ เลยครับ เมื่อปลายปีที่ผ่านมาผมแทบจะอยู่บ้านตลอดเวลาเลย น้องชินดง กับ น้องทงเฮ ถึงขั้นต้องหาข้าวมาให้ผมกินเลยทีเดียวครับ การที่ผมได้ยินคำพูดต่างๆ จากรุ่นน้องทำให้ผมกลับมามีพลังอีกครั้งเพื่อ ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) ครับ มันทำให้ผมสามารถทำกิจกรรมได้ดีมากกว่าเดิมในผลงานอัลบั้มนี้ด้วยครับ ผมอยากขอบคุณเพื่อนๆ สมาชิกทุกคนในวงที่เข้าใจผมนะครับ ผมอยากฝากข้อความถึง ฮันคยอง ถ้าในวันข้างหน้าผมต้องแต่งงาน อย่าลืมมาหาผมสักครั้งนะครับ

แล้วสมาชิกอีก 2 คน คังอิน และ คิบอม พวกคุณได้ติดต่อกับพวกเขาบ่อยมากแค่ไหนค่ะ ?
อีทึก : ทุกครั้งที่พวกเราเสร็จจากโชว์ก็จะมีข้อความจากพวกเขาทั้ง 2 คนส่งเข้ามาครับ ตอนที่พวกเราคัมแบ็คอัลบั้มใหม่ คิบอม ก็ส่งข้อความมาว่า "ท่าเต้นแบบกลุ่มเท่มาก" ส่วน คังอิน เขาก็บอกเราว่า "พวกนายทุกคนเท่ๆ มากเลย" ด้วยล่ะครับ

และที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในอัลบั้มชุดที่ 4 นี้ก็คงจะเกี่ยวกับ อีทึก ที่คุณโชว์ซิกแพ็คให้แฟนๆ ได้ตื่นตาตื่นใจกัน ?
อีทึก : ผมออกกำลังกายตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วครับ การที่ผมต้องบันทึกเทปรายการวาไรตี้ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน มันทำให้ร่างกายของผมแย่ครับ เพื่อให้ร่างกายผมดีขึ้นมันทำให้ผมต้องเริ่มออกกำลังกายครับ ก่อนหน้านี้ภาพลักษณ์ของผมจะเป็นแบบผู้ชายตลกอารมณ์ดี เพื่อไม่ให้ทุกคนติดตากับภาพลักษณ์แบบตลกๆ ของผม มันทำให้ผมคิดหนักเลยครับว่าจะทำยังไงดี จะเปลี่ยนแปลงอะไรดี สุดท้ายอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ก็ถอดมันเลยดีกว่าครับ ( หัวเราะ )

แล้วสมาชิกคนอื่นๆ ในวงรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างค่ะ ?
ฮีชอล : จริงๆ แล้วพวกเราเครียดนะครับ ขนาดเวลาอยู่ในห้องพักรายการเพลง อีทึก ยังไม่ใส่เสื้อผ้าเลย พวกเราไม่ไหวกับเขาแล้วครับ ( หัวเราะ )
คยูฮยอน : เวลาที่ พี่อีทึก อยู่ในห้องพักเขาถอดเสื้อบ่อยมากครับ ถอดบนเวทีอย่างเดียวไม่พอยังมาถอดในห้องพักอีกนะครับ ( หัวเราะ )
อึนฮยอก : ตอนที่พวกเราออกรายการ Music Bank พี่เขาบอกว่าเราต้องทำตัวดีๆ ให้สมกับเป็นนักร้องรุ่นพี่ แต่พอโชว์จบเขาก็ถอดเสื้อลงจากเวทีแล้วเดินผ่านทางเดินมาเลยครับ ผมอึ้งมาก ( หัวเราะ )
อีทึก : จริงๆ แล้วผมไม่ใช่ผู้ชายมาดดิบนะครับ ผมแค่อยากอวดกล้ามท้องของวัยรุ่นชายเท่านั้นเลยครับ ( หัวเราะ ) ผมอยากให้แฟนๆ เรียกผมว่า "แชกึลดอล ( ไอดอลเซ็กซี่ + เก๋ )" ครับ ถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่ดิบพอ แต่ผมก็อยากจะเซ็กซี่นะครับ



นอกจากนี้แฟนๆ ยังให้ความสนใจเกี่ยวกับที่ ชินดง ขอแต่งงานแฟนสาวอย่างเปิดเผยผ่านทาง Thank to ในอัลบั้มชุดที่ 4 BONAMANA ?
ฮีชอล : ก่อนหน้านี้ผมคุยกับ อีทึก ว่าถ้าแฟนๆ ที่ซื้ออัลบั้มของพวกเราไปแล้วเห็นข้อความของ ชินดง เกี่ยวกับการขอแต่งงานแล้วล่ะก็ ... โชคดีนะครับที่ไม่ถูกฉีกทิ้ง ( หัวเราะ ) จริงๆ แล้วหลังจากพวกเราขึ้นโชว์คัมแบ็ค Beauty ครั้งแรก ชินดง มาขอโทษพวกเราตลอดเลยครับ
อีทึก : บางทีผมคิดว่าการตอบรับอาจจะออกมารุนแรงก็เป็นได้ครับ แต่ต้องขอบคุณจริงๆ ที่มีแต่ข่าวดีๆ ออกมาครับ
ชินดง : ตอนนี้ผมเป็น "โรแมนติกกาย" ไปแล้วครับ ขอบคุณมากครับ ( ยิ้มหวาน )

เพื่อนๆ สมาชิกในวงรู้เรื่องการขอแต่งงานนี้มาก่อนหรือไม่ค่ะ ?
อีทึก : ฮีชอล รู้เรื่องหมดครับ ( หัวเราะ )
ฮีชอล : ตอนที่ผมได้ยินเรื่องนี้จาก ชินดง ผมเห็นด้วยนะครับ ผมว่าเท่ดีออก การที่เราเป็นผู้ชายเมื่อถึงเวลาจะสารภาพรักมันคงเป็นอะไรที่ต้องทำครับ แต่ว่าเรื่องถอดรหัสนี่มัน ... ก็โอนะครับ ( หัวเราะ ) ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นถึงขั้นนี้
อีทึก : ชินดง เขียนรหัสพวกนี้ตอนถ่ายอัลบั้มภาพครับ เขาหมกตัวอยู่หน้าคอมตลอดเวลาเลยครับ
ชินดง : ผมอยากขอบคุณผู้ที่อวยพรให้กับผมจริงๆ ครับ แต่ในขณะเดียวกันผมก็รู้สึกขอโทษต่อแฟนๆ ที่ซื้ออัลบั้มของ ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) แต่ต้องมาเจอโค้ดลับอะไรแบบนี้ของผมด้วยครับ

แล้วคุณจะแต่งงานเมื่อไหร่ค่ะ ?
ชินดง : เร็วที่สุดเลยครับ ตอนนี้พวกเราแนะนำตัวต่อครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้วครับ และถ้าอัลบั้มขายได้เกิน 1 ล้านชุดผมจะแต่งงานในปีนี้เลยครับ ( หัวเราะ )
อีทึก : ถ้าเป็น ชินดง ทำได้อยู่แล้วครับ ผมคิดว่าเป็นเพราะ ชินดง ทำให้พวกเรา ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากทุกคนครับ

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือเรื่องความไม่ลงรอยกันระหว่าง อีทึก กับ ฮีชอล เท็จจริงเป็นยังไงค่ะ ?
อีทึก : ตอนที่ผมเดินสายคอนเสิร์ตเอเชียทัวร์ผมได้คุยเรื่องราวต่างๆ กับเขาเยอะมากครับ ก่อนหน้านี้ผมต้องทำกิจกรรมเดี่ยวทำให้ไม่ค่อยมีเวลามาคุยกัน แต่หลังจากเลิกคอนเสิร์ตพวกเราก็จะมาคุยกันในโรงแรมครับ การที่เราสองรู้สึกอึดอัดกันทำให้เราคุยกันแต่ในฐานะเพื่อน แต่เราจะไม่พูดคุยเรื่องส่วนตัวกันเลย ตอนคอนเสิร์ตเอเชียทัวร์มันเป็นโอกาสให้เราสองคนสนิทกันมากขึ้นครับ
ฮีชอล : ความจริงแล้วผมกับ อีทึก แตกต่างกันมากเลยครับ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในห้องพักเดียวกันแต่ก็ไม่ค่อยได้พูดอะไรกันเท่าไหร่ครับ ก่อนที่เราจะวางจำหน่ายอัลบั้มใหม่นี้พวกเราเจอเหตุการณ์อะไรต่างๆ มากมายจริงๆ ครับ การที่ผมได้กลับไปพูดคุยเรื่องราวต่างๆ กับ อีทึก เหมือนช่วงตอนเดบิวต์ใหม่ๆ อีกครั้ง มันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจมากครับ

ตอนนี้ที่ ฮีชอล สามารถพูดเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับสมาชิกในวงได้อย่างเปิดเผย นั่นเป็นเพราะพวกคุณได้เข้าใจกันดีแล้วใช่มั้ยค่ะ ?
ฮีชอล : ใช่ครับ จริงๆ แล้วถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะเลี่ยงไม่ออกรายการบันเทิงร่วมกับเพื่อนๆ ในวงครับ ผมรู้สึกไม่สบายใจความแตกต่างระหว่างเรามันทำให้ผมกดดันครับ คือถ้าเราไปออกรายการบันเทิงด้วยกัน ผมจะต้องถูกให้เล่าเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนๆ ในวงครับ แล้วผมซึ่งมักจะทำงานเดี่ยวทำให้ผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ แม้ว่าพวกเราจะเล่นสนุกกันในฐานะของเพื่อนพี่น้อง แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของผมผมจะไม่ค่อยสะดวกใจเท่าไหร่ครับ ผมเป็นคนที่ไม่พูดโกหก ถ้าถูกถามว่า "คุณสนิทกับเพื่อนๆ หรือเปล่า ?" ผมคงไม่รอดแน่ครับ ถึงแม้ว่าการพูดว่าผมจะลาออกจากวงผ่านการออกอากาศมันอาจจะเป็นอะไรที่รุนแรงมาก แต่นั่นก็เป็นเพราะผมจัดการความเข้าใจผิดกับเพื่อนๆ ได้เรียบร้อยแล้วไงครับ

อัลบั้มชุดที่ 3 Sorry Sorry พวกคุณประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งยอดขายและได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย ?
อีทึก : ถึงแม้ว่าผลงานเพลงและโชว์ Sorry Sorry ของพวกเราจะออกมาดี แต่พวกเราก็ถูกเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นปกคลุมด้วยเช่นกัน ในอัลบั้มชุดที่ 4 พวกเราอยากจะพยายามทำงานให้ชัดเจนและไร้ซึ่งความเศร้าใจ เพราะเราอยากได้ยินคนพูดว่า "ผลงานเพลงชุดนี้ดีจริงๆ" ครับ กับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับ ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) ที่ผ่านมานั้น ถึงแม้ว่าผมจะคิดกับตัวเองว่า "เราจะกลับมาได้หรือเปล่านะ" แต่สิ่งเหล่านั้นมันกลับทำให้พวกเรา ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) แข็งแกร่งมากขึ้นครับ ผมคิดว่าเพราะพวกเราผ่านอะไรมามากน่ะครับ ถ้าเราไม่สามารถผ่านมันได้อัลบั้มชุดที่ 4 ก็คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเราต้องสู้ต่อไปครับ

อัลบั้มชุดที่ 4 นี้พวกคุณกลับมาพร้อมกับความเข้มแข็งที่มีมากขึ้น ทั้งร่างกายและจิตใจ ?
อึนฮยอก : พวกเรากลับมาพร้อมกับหัวใจดวงใหม่ครับ ผมรู้สึกดีมากที่สมาชิกทุกคนกลับมาพร้อมกับหัวใจที่เต็มเปี่ยมเหมือนกับเราย้อนกลับไปตอนเดบิวต์เลยครับ ผมกับ ทงเฮ ทำหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับการเต้น และผมคิดว่าเราต้องเผยให้ทุกคนเห็นภาพลักษณ์ที่เกิดจากความตั้งใจของเราให้ทุกคนได้สัมผัสครับ ด้วยเหตุนี้ทำให้ตอนที่เราเตรียมงานอัลบั้มใหม่เลยแทบจะไม่ได้นอนเลยครับ
ทงเฮ : ผมเครียดและกดดันมากถึงกับเก็บเอาไปฝันร้ายเลยครับ ในฝันของผมมันเกิดตอนซ้อมอัลบั้ม 4 มีคนหัวเราะเยาะเย้ยพวกเรา ผมตกใจมากเลยครับ

ตอนนี้ทั้ง อีทึก , อึนฮยอก , ชินดง และ ฮีชอล ได้ทำกิจกรรมในรายการบันเทิงวาไรตี้หลายรายการ อาทิ Strong Heart , Family Outing 2 ?
ฮีชอล : สไตล์การทำงานของผมไม่เหมือนกับ อีทึก ที่แบบสามารถควบคุมอะไรต่างๆ ได้ดีครับ ผมเป็นคนที่ขึ้นๆ ลงๆ ดังนั้นหลังจากนี้ผมอยากจะพยายามเตรียมตัวให้มากขึ้นเพื่อให้เหมาะกับการเป็น MC ครับ ผมอยากเป็นพิธีกรประจำในรายการสไตล์เดียวกับ SMAP X SMAP ของญี่ปุ่น ผมอยากทำรายการของ ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) ในชื่อว่า "Super Show" ครับ ทุกครั้งที่ผมมีปาร์ตี้หลังถ่ายรายการบันเทิงผมมักจะพูดกับทีมงานว่า ผมอยากจะนำทีมรายการบันเทิงร่วมกับ อีทึก , อึนฮยอก และ ชินดง เอาจริงๆ นะครับ ผมเครียดมากเลยว่าอยากทำอะไรสักอย่างก่อนจะไปเป็นทหารครับ ถึงแม้ว่าผมอยากจะทำงานแสดงหรืองานภาพยนตร์เหมือนกัน แต่ว่าสิ่งที่ผมอยากทำที่สุดคือรายการบันเทิงร่วมกับเพื่อนๆ ครับ

ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) คำว่า "จูเนียร์" ดูเหมือนจะแตกต่างไปจากความจริง ในเมื่อ อีทึก และ ฮีชอล เป็นสองหนุ่มที่กำลังจะย่างเข้าช่วงวัย 28 ปี ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ ก็อยู่ในวัย 20 กลางๆ ด้วยเช่นกัน ?
อีทึก : นับตั้งแต่พวกเราเดบิวต์เข้าสู่วงการทุกคนได้ก้าวไปพร้อมๆ กับพวกเราซึ่งมีอายุเพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้มันทำให้ผมรู้สึกดีจริงๆ ครับ แค่ผมคิดว่าพวกเราอยู่กันมานานถึงขนาดนี้แล้ว มันก็ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กันครับ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกเราต้องผ่านความยากลำบากมามากมาย ผมว่าเรื่องเล็กแค่นี้ไม่ทำให้พวกเราสั่นไหวแน่นอนครับ ผมคิดว่าถ้าพวกเรา ซูเปอร์จูเนียร์ ( Super Junior ) ยังเป็นแบบนี้ก็น่าจะอยู่ได้ถึง 20-30 ปีเลยนะครับ ผมคิดว่าตอนนี้มันน่าจะได้เวลาที่ต้องไปรับใช้ชาติแล้ว ผมคิดว่ามันเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบครับ ผมคิดว่าอาจจะไปเป็นทหารปีหน้า อาจจะเป็นช่วงปลายปี 2554 หรือต้นปี 2555 ครับ ตอนนี้ผมอยากทำกิจกรรมให้เต็มที่ก่อน เมื่อเวลาที่ต้องไปทำหน้าที่ผมจะได้ไม่ต้องเสียใจอีกครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook