PANCAKE วงดนตรีรุ่นใหญ่ที่กล้าฉีกกรอบ

กลายเป็นรุ่นพี่ศิลปินในวงการไปแล้ว สำหรับ 5 หนุ่มสุดอร่อย PANCAKE นิ้งหน่อง ทินกร พึ่งดาราวี (ร้องนำ), โจ เหมือนเพชร อำมะระ (กีตาร์), พีท กฤษฏิ หาญเจริญวนะภูษิต (กีตาร์), ยอด อาทิตย์ รัตนพันธ์ (กลอง) และ เบนนี่ อธิสสร ชวาลา (เบส) กับความโชคดีมีผลงานมาถึงอัลบั้มชุดที่ 4 ขอจงสุขสวัสดิ์

ซึ่งความโชคดีที่มีมากกว่านั้น พวกเขาไม่อายที่จะบอกกล่าว ก็คือการยอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง พร้อมรับความคิดเห็นของเอ็กเซ็กคูทีฟคนเก่ง ตี่ กริช ทอมมัส ที่มีประสบการณ์การทำเพลงมาตลอดชีวิต มาช่วยพวกเขาดูแลในอัลบั้มชุดนี้จนประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี ถูกใจแฟนเพลงจนเพลงฮิตติดชาร์ตไปแล้วหลายๆ สถานี การันตี PANCAKE รสชาติใหม่ ว่า...น่าติดตามฟังอยู่ไม่น้อย



หายไปทำงานเบื้องหลังกันมา ?
โจ : ใช่ครับ จริงๆ ก่อนหน้าที่เราทำอัลบั้มตั้งแต่แรก ผมกับหน่องเราทำงานเบื้องหลังกันอยู่แล้วครับ ทำอยู่หลายๆ ค่าย ทั้งอินดี้ ค่ายหลัก ทำมาปีนี้ก็เป็นปีที่ 10 แล้ว ก็พอมีประสบการณ์ในเรื่องการทำเพลงมาพอสมควร เพราะเคยทำงานให้กับทางพี่โจอี้ บอย, บุดดาเบส, ก้านคอคลับ, ท๊อฟฟี่, ปาล์มมี่, ตีน่า ฯลฯ ในเรื่องของการแต่งเพลง

นิ้งหน่อง : ซึ่งถ้าบอกว่าหายไปจริงๆ กว่า 2 ปี คงจะเป็นเพราะเราไปตั้งใจทำอัลบั้มชุดล่าสุดชุดที่ 4 นี้ด้วยครับ

ท่าทางชุดนี้จะต้องทำงานกันยากขึ้นเพราะเป็นชุดที่ 4 แล้ว ?
หน่อง : ยากขึ้นครับ เพราะต้องเล่าไปถึงอัลบั้ม 1-2 ก่อน พวกเราทำงานกันแบบไม่ซีเรียสกับงานเลย และมันค่อนข้างจะประสบความสำเร็จ และพอเราเริ่มซีเรียสขึ้นมาในอัลบั้มชุดที่ 3 เริ่มจริงจังขึ้น ปรากฏว่ามันไม่ประสบความสำเร็จเหมือนที่ผ่านๆ มา จากนั้นเราหยุดเลย หยุดตรงที่อัลบั้ม 3 และมาคุยว่ามันเกิดอะไรขึ้น มาเปรียบเทียบกัน 1-2-3 มันเป็นอย่างไร เราเลยต้องทดลอง อย่างในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พวกเรามีซิงเกิลมาคั่นประมาณ 4 เพลง ซึ่งมันเป็นงานทดลองทั้งสิ้น

ยอด : และก็โชคดีมากที่มันประสบความสำเร็จทั้งหมด เราจึงเริ่มๆ มาตีกรอบวางแผน บวกรวมกับประสบการณ์ที่เราไปเล่นคอนเสิร์ตตลอด 4 ปีที่เป็นวงแพนเค้กมา ว่า...เราควรจะทำอะไร ควรจะใส่อะไรลงในเพลง ค่อนข้างพิถีพิถัน และใช้เวลานานกว่า ทุกๆ อัลบั้ม



ย้อนถามถึงอัลบั้มชุดที่ 3 ที่มันไม่ประสบความสำเร็จ มันผิดพลาดจากเรื่องอะไร ?
เบนนี่ : คงเป็นเรื่องของเวลาที่มันบีบให้เราทำ ตั้งแต่อัลบั้มชุดที่ 1-2 แล้ว เราทัวร์กันเยอะครับ และก็เร่งให้เสร็จกันแทบทุกวัน ทั้งที่จริงๆ เราไม่มีเวลาไปคิดงานเลยครับ พอรู้ตัวเราต้องออกอัลบั้มที่ 3 แล้วนะ ทำงานเครียดกันทุกเพลง บางเพลงพูดตามตรงมันก็ไม่รู้สึกแบบนั้นเลย เขียนแบบต้องเขียนให้มันเสร็จ บังคับตัวเองออกมา บอกตามตรง ตอนนั้นเราคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว ถ้าย้อนเอางานกลับมาฟังมันกลับไม่รู้สึกอ่ะ และแฟนเพลงจะรู้สึกดีกับเพลงนั้นได้อย่างไร

พีท : อย่างเพลง จริงใจไม่จริงจัง ที่ประสบความสำเร็จ พวกเราก็พยายามยึดติดกับความสำเร็จเก่าๆ เอาเพลงนั้นแหละ เหมือนกับเอามารียูสใหม่ ถ้าเอามาเทียบกัน ร้องเนื้อร้องอีกเพลงหนึ่งเข้าไปได้ด้วยซ้ำ มันเหมือนเรากั๊ก เรากลัว ถ้าเราทำแบบอื่นๆ มันจะดีหรือเปล่า ??? กลัวมันไม่ซัคเซส มันเหมือนตีกรอบเกินไปอ่ะ คนฟังก็คงรู้สึกได้

แก้ไขการทำงานอย่างไร เมื่อทำงานชุดปัจจุบัน ?
นิ้งหน่อง : ปล่อยวางทุกอย่างเหมือนกับทำอัลบั้มชุดแรกเลยครับ ถ้าคิดไม่ออก ก็ไม่หยุด เพราะฉะนั้นมันถึงยาวนานมาก แชร์ไอเดียกันตลอดเลยครับทั้ง 5 คน คุยกันตลอด ก็คุยกัน ชอบ-ไม่ชอบ เลือกเพลงแนวสนุกเหมือนเดิม มีเพลงเต้นรำ สนุกสนาน พูดเรื่องบวกๆ หรือแม้กระทั่งความรัก อกหักเราก็ยังพูดถึงเรื่องบวก ไม่จำกัดตัวเองอย่างที่ผ่านๆ มา

ได้พี่ ตี่ กริช ทอมมัส เข้ามาช่วย ?
พีท : พี่ตี่มาดูแลพวกเรา เป็นเอ็กเซ็กคูทีฟโปรดิวเซอร์ให้ จำได้เลย เพลงแรกที่พวกเราส่งให้พี่ตี่ช่วยฟัง ยังไม่ทันฟังจนจบ พี่ตี่ก็สั่งให้ปิดแล้ว บอกว่าไม่เอา ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่เฟลมากๆ เพราะพวกเราตั้งใจทำเพลงมาให้ฟังเป็นเดือนๆ ตอนนั้นรู้สึกแย่ ไปต่อไม่เป็นแล้ว แต่เมื่อได้คลุกคลีอยู่กับพี่ตี่เป็นปี ซึมซับการทำงานกับพี่เขาบ่อยๆ เราก็นับหนึ่งใหม่ด้วยความมั่นใจมากขึ้น

โจ : พี่ตี่จะให้พวกเราทำการบ้าน ฟังเพลงเยอะมากๆ บางเพลงเป็นเพลงที่มีตั้งแต่สมัยที่พวกเรายังไม่เกิดเลย ยุค’ 60-’70-’80 เป็นเพลงที่มาเปิดถึงทุกวันนี้มันก็ยังไม่เชย ยังคงคลาสสิก แม้กระทั่งซาวนด์ วิธีเล่น ซึ่งสมัยนี้ดนตรียังสู้สมัยนั้นไม่ได้เลย มันทำให้เกิดวุฒิปัญญาในการทำเพลงที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้แพนเค้กได้ทำเพลงในสไตล์ที่แตกต่างกันแทบทุกเพลง เพราะมีเพลงในแนว อาร์แอนด์บี, โซลผสมร็อก หรือ ร็อกแอนด์โรล หรือเพลงสวิง มีหมดเลย หรือเพลงแรก วงแหวนดาวเสาร์ ที่หลายๆ คนได้ฟังกันแล้ว ก็เป็นร็อกแอนด์โรล และสกา ที่มีจังหวะให้ได้เต้นกันด้วย ทุกคนก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์

รู้สึกอย่างไร เพราะ แพนเค้ก ทำงานด้วยตัวเองมาถึงชุดที่ 4 แล้ว แต่ก็ต้องมานับหนึ่งใหม่ และต้องเปลี่ยนแปลง ?
นิ้งหน่อง : ตอนแรกก็รู้สึกเฟลเหมือนกันครับ อย่างที่ได้บอกไป เราโดนปฏิเสธตั้งแต่เพลงแรก ไม่รู้จะไปทางไหน ก็ดื้อบอกตัวเองเราก็คงทำได้แค่นี้ ไม่มีทางอื่นๆ จะทำหรอก แต่โชคดีที่พี่ตี่ไม่ได้พูดปฏิเสธแล้วไม่ให้คำตอบ คือ เขาปฏิเสธเรา แต่เขาก็มีโจทย์มาให้เรา ผมว่าพี่ตี่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี ในวงการนี้ พวกผมก็คงไม่ใช่วงแรกที่ถูกปฏิเสธหรอก แต่เขาก็มีวิธีการให้พวกเราดึงตัวเองกลับมาด้วยวิธีที่แยบยล ชวนพวกเรามาฟังเพลง และแนะนำเรฟเฟอเรนซ์ที่มันตรงกับวงเราที่สุด

อย่างชื่ออัลบั้ม ขอจงสุขสวัสดิ์ ก็ยังแนวเหมือนเดิม อยากจะบอกอะไรแฟนเพลงหรือเปล่า ??? โจ : เราคิดชื่ออัลบั้มจนหัวแทบจะแตกเลยครับ แต่พอไปปรึกษาพี่ตี่ที่ห้อง ห้องพี่ตี่จะมีประกาศนียบัตรเยอะมากๆ เขาก็แนะนำว่า ชื่อนี้ดีนะ ขอจงสุขสวัสดิ์ เป็นคำลงท้ายประกาศนียบัตร คือ มันเป็นพรที่ประเสริฐมากๆ มอบให้กับคนทำความดี เหมือนกับเราเองก็โชคดีที่ได้ทำงานกับพี่ตี่และได้รับความรู้ รับพรจากผู้ใหญ่มา เราเองก็อยากจะมอบสิ่งดีๆ เหล่านี้ ส่งต่อให้คนฟังของเราต่อไป

นิ้งหน่อง : อยากให้ฟังเพลงในอัลบั้มนี้ครับ แล้วทุกคนจะมีความสุข เสมือนกับอัลบั้มเพลงชุดนี้ มันกลายเป็นการ์ดส่งความสุขก็ได้ เพราะเพลงดีๆ ที่ตั้งใจทำ ให้กำลังใจคนในแง่บวก คนที่กำลังรู้สึกแย่มากๆ กับเรื่องอะไร ฟังเพลงในอัลบั้มนี้ รับรองเลยว่าจะหายดีมีความสุขแน่ๆ