BAD MEETS EVIL งานเพลงฮิพฮอพสุดร้ายตัวพ่อ Eminem
Bad Meets Evil (แบ๊ด มีทส์ อีวิล) เมื่อความชั่วร้ายมาเจอกับปีศาจ อะไรจะเกิดขึ้น อย่าเพิ่งหวาดหวั่นตกใจไป Bad Meets Evil หาใช่ความโหดร้ายบ้าบิ่นไม่ หากนี้เป็นการจับคู่ดูโอแร๊พระหว่าง Eminem (เอมิเนม) และ Royce da 5’9” (ร้อยซ์ ดา ไฟฟ์ นายน์) นั่นเอง
ทั้งคู่ต่างเติบโตขึ้นมาด้วยกันที่ Detroit พวกเขาทั้งคู่ไปรู้จักกันในงานคอนเสิร์ตของ Usher ในปี 1997 ก่อนที่จะค่อยๆสานสัมพันธ์ แต่งเพลงและแร๊พร่วมกันหลายครั้ง จนในที่สุด Eminem ก็ได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินเดี่ยวกับค่ายของ Dr.Dre ซึ่งในอัลบั้มแรกของ Eminem ที่มีชื่อว่า The Slim Shady LP ก็มีแทร็คที่ชื่อว่า Bad Meets Evil ซึ่งมี Royce มาฟีเจอริ่งในเพลงนี้ด้วย
แล้วความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็มาเจอกับความขัดแย้ง หลังจากที่ Royce มีเหตุเข้าใจผิดกับ D12 (วงของ Eminem) ทำให้ทั้งคู่ประกาศตัดความสัมพันธ์ลง แต่ไม่นานทั้งตัว Eminem, Royce และ D12 ก็ปรับความเข้าใจกันและปรองดอง คืนดีกันในที่สุด โดย Royce ก็ได้ไปปรากฏอยู่ในอัลบั้มของ D12 อีกด้วย
หลังจากที่ทั้งคู่ร้องและเขียนเพลงด้วยกันมานาน ในที่สุดทั้ง Eminem และ Royce Da 5’9” ก็ตัดสินใจที่จะออกอัลบั้มด้วยกัน โดยใช้ชื่อวงว่า Bad Meets Evil โดย Bad นั้นหมายถึง Royce ส่วน Evil นั้นหมายถึง Eminem นั่นเอง
Eminem เปิดใจว่า ทั้ง Royce และเขากลับมาเที่ยวด้วยกันอีกครั้ง และนั่นก็นำพาพวกเขาเข้าสตูดิโอด้วยกัน ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้มีแผนอะไรจริงจัง แต่พอเข้าสตูดิโอจริงๆ เพลงเจ๋งๆก็พรั่งพรูออกมาเต็มไปหมด จนกลายมาเป็นอัลบั้ม Hell: The Sequel นั่นเอง
ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้ม Hell: The Sequel นั้นก็คือเพลง The Fast Lane ตามต่อด้วยซิงเกิ้ลที่สองที่กำลังไต่ชาร์ทบิลบอร์ดและเขย่าทุกชาร์ทในบ้านเรานั่นก็คือเพลง Lighters นั่นเอง ซึ่งหนุ่ม Bruno Mars ได้รับเชิญ ให้มาร่วมแจมร้องท่อนฮุคให้อีกด้วย
หลังจากที่ Eminem กลับมายิ่งใหญ่กับเพลงฮิตแห่งปี Love The Way You Lie ที่ดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว Lighters คืออีกเพลงที่จะมาสร้างประวัติศาสตร์สร้างชื่อให้กับ Eminem อีกครั้งหนึ่ง
Eminem กล่าวว่า เขาต้องการให้เพลง Lighters เป็นเพลงที่พิเศษสุดๆ โดยเขาตั้งใจให้เป็นเพลงที่แตกต่างออกไปจากเพลงอื่นๆของอัลบั้ม และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาเรียก Bruno Mars มาร่วมร้องและแต่งในเพลงนี้ อัลบั้ม Hell: The Sequel ของ Bad Meets Evil วางแผงแล้ววันนี้ โดยยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย)
ทั้งคู่ต่างเติบโตขึ้นมาด้วยกันที่ Detroit พวกเขาทั้งคู่ไปรู้จักกันในงานคอนเสิร์ตของ Usher ในปี 1997 ก่อนที่จะค่อยๆสานสัมพันธ์ แต่งเพลงและแร๊พร่วมกันหลายครั้ง จนในที่สุด Eminem ก็ได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินเดี่ยวกับค่ายของ Dr.Dre ซึ่งในอัลบั้มแรกของ Eminem ที่มีชื่อว่า The Slim Shady LP ก็มีแทร็คที่ชื่อว่า Bad Meets Evil ซึ่งมี Royce มาฟีเจอริ่งในเพลงนี้ด้วย
แล้วความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็มาเจอกับความขัดแย้ง หลังจากที่ Royce มีเหตุเข้าใจผิดกับ D12 (วงของ Eminem) ทำให้ทั้งคู่ประกาศตัดความสัมพันธ์ลง แต่ไม่นานทั้งตัว Eminem, Royce และ D12 ก็ปรับความเข้าใจกันและปรองดอง คืนดีกันในที่สุด โดย Royce ก็ได้ไปปรากฏอยู่ในอัลบั้มของ D12 อีกด้วย
หลังจากที่ทั้งคู่ร้องและเขียนเพลงด้วยกันมานาน ในที่สุดทั้ง Eminem และ Royce Da 5’9” ก็ตัดสินใจที่จะออกอัลบั้มด้วยกัน โดยใช้ชื่อวงว่า Bad Meets Evil โดย Bad นั้นหมายถึง Royce ส่วน Evil นั้นหมายถึง Eminem นั่นเอง
Eminem เปิดใจว่า ทั้ง Royce และเขากลับมาเที่ยวด้วยกันอีกครั้ง และนั่นก็นำพาพวกเขาเข้าสตูดิโอด้วยกัน ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้มีแผนอะไรจริงจัง แต่พอเข้าสตูดิโอจริงๆ เพลงเจ๋งๆก็พรั่งพรูออกมาเต็มไปหมด จนกลายมาเป็นอัลบั้ม Hell: The Sequel นั่นเอง
ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้ม Hell: The Sequel นั้นก็คือเพลง The Fast Lane ตามต่อด้วยซิงเกิ้ลที่สองที่กำลังไต่ชาร์ทบิลบอร์ดและเขย่าทุกชาร์ทในบ้านเรานั่นก็คือเพลง Lighters นั่นเอง ซึ่งหนุ่ม Bruno Mars ได้รับเชิญ ให้มาร่วมแจมร้องท่อนฮุคให้อีกด้วย
หลังจากที่ Eminem กลับมายิ่งใหญ่กับเพลงฮิตแห่งปี Love The Way You Lie ที่ดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว Lighters คืออีกเพลงที่จะมาสร้างประวัติศาสตร์สร้างชื่อให้กับ Eminem อีกครั้งหนึ่ง
Eminem กล่าวว่า เขาต้องการให้เพลง Lighters เป็นเพลงที่พิเศษสุดๆ โดยเขาตั้งใจให้เป็นเพลงที่แตกต่างออกไปจากเพลงอื่นๆของอัลบั้ม และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาเรียก Bruno Mars มาร่วมร้องและแต่งในเพลงนี้ อัลบั้ม Hell: The Sequel ของ Bad Meets Evil วางแผงแล้ววันนี้ โดยยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย)