ดีเจ.เอกกี้ หวนจับไมค์ ตื่นเต้นถ่ายทอดเรื่องจริงผ่านเพลง
นั่งแท่นเป็นดีเจจัดรายการวิทยุคลื่น Green Wave 106.5 FM และรับหน้าที่เป็นพิธีกรตามรายการต่างๆ จนใครต่อใคร คิดว่า ดีเจเอกกี้-เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์ จะไม่ร้องเพลงอีกแล้ว แต่ล่าสุด ดีเจเอกกี้หวนกลับมาจับไมค์ร้องเพลง คนที่เธอไม่ยอมรับ ซิงเกิ้ลล่าสุด จากอัลบั้ม Club Friday Based On True Story By เอิ้น พิยะดา ที่ได้แรงบันดาลใจจากผู้ฟังรายการ คลับ ฟรายด์เดย์ โทรมาเล่าให้ 2 ดีเจพี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา และ ดีเจพี่อ้อย-นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ฟังทุกคืนวันศุกร์เวลา 21.00-23.00 น. อีกครั้ง กลายเป็นที่มาที่ไปของการแต่งเพลง คนที่เธอไม่ยอมรับ
ดีเจเอกกี้เผยกับผู้สื่อข่าวอย่างตื่นเต้นว่า...ตื่นเต้นมากครับ แค่ชื่อเพลงก็แอบโดนใจเอกกี้ล่ะ ซึ่งที่มาที่ไปของการแต่งเพลงนี้หมอเอิ้นได้แรงบันดาลใจจากเรื่องเล่าของคุณผู้ฟังรายการ คลับ ฟรายด์เดย์ มาแต่งเนื้อร้องเช่นเคยครับ ซึ่งในแต่ละอาทิตย์เราก็มักจะได้ฟังเรื่องเล่าความรักหลากหลายรูปแบบทั้งที่สมหวังและไม่สมหวัง หลายครั้งเรื่องราวที่เราได้ฟังกันก็มักจะเป็นเรื่องราวของการไม่ยอมรับของอีกฝ่ายหนึ่ง ในแต่ละอาทิตย์ มันเลยมีคำๆ หนึ่งที่เกิดขึ้น... คนที่เธอไม่ยอมรับ ซึ่งบางคนอาจตีความหมายไปถึงเรื่องเพศ
ซึ่งเรื่องเพศก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงมันยังหมายถึงคนในครอบครัว หรือคนรอบข้างของคนที่เรารักได้อีกด้วย ความรักมันไม่ใช่แค่เรื่องของคน 2 คน เวลาเราคบใครหรือรักใคร ก็อยากจะบอกกับใครต่อใครว่าเรา 2 คนคบกันอยู่นะ รักกันอยู่นะ แต่บางครั้งมันก็ไม่สามารถแสดงออกหรือบอกใครได้ ซึ่งสถานการณ์แบบนี้เอกกี้มองว่ามันเป็นชีวิตจริงของคนในปัจจุบันเหมือนกัน และบางมุมก็คล้ายชีวิตเอกกี้เหมือนกัน เพลงนี้หมอเอิ้นจึงแต่งขึ้นมาจากมุมมองความรักที่ละเอียดอ่อน เป็นความรักที่ต้องการการยอมรับจากคนเพียงหนึ่งคนที่เรารักเท่านั้น ซึ่งการยอมรับคือความคาดหวังให้คนๆนั้นรู้สึกในตัวเราไม่ว่าจะมากหรือน้อย และทุกครั้งจะมีคำถามขึ้นในใจเสมอๆ ว่าคุ้มไหมกับความอดทนเพื่อรอคอยให้ใครบางคนยอมรับในตัวเรา
เป็นความรู้สึกที่ว่า มี แต่เหมือน ไม่มี ซึ่งตอนเข้าห้องอัดหมอเอิ้นเองก็จะคอยบอกว่าต้องการอารมณ์ของเพลงนี้ให้ออกมาเป็นอย่างไร จากนั้นก็ปล่อยให้เอกกี้ทำความเข้าใจถึงอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดก่อน เพราะส่วนตัวเราก็ไม่ได้เข้าห้องอัดตั้ง 5-6 ปี ไม่ถึงกับเคาะสนิม พอเข้าห้องอัดหมอเอิ้นก็ปล่อยให้เอกกี้ร้องยาวเทคเดียวรวดเดียวผ่านเลย ซึ่งตอนร้องก็แอบอินไปกับเนื้อเพลงเหมือนกันเอกกี้ก็ขอฝาก คนที่เธอไม่ยอมรับ ให้ทุกๆ คนได้ฟังกันเยอะๆ นะครับ
ดีเจเอกกี้เผยกับผู้สื่อข่าวอย่างตื่นเต้นว่า...ตื่นเต้นมากครับ แค่ชื่อเพลงก็แอบโดนใจเอกกี้ล่ะ ซึ่งที่มาที่ไปของการแต่งเพลงนี้หมอเอิ้นได้แรงบันดาลใจจากเรื่องเล่าของคุณผู้ฟังรายการ คลับ ฟรายด์เดย์ มาแต่งเนื้อร้องเช่นเคยครับ ซึ่งในแต่ละอาทิตย์เราก็มักจะได้ฟังเรื่องเล่าความรักหลากหลายรูปแบบทั้งที่สมหวังและไม่สมหวัง หลายครั้งเรื่องราวที่เราได้ฟังกันก็มักจะเป็นเรื่องราวของการไม่ยอมรับของอีกฝ่ายหนึ่ง ในแต่ละอาทิตย์ มันเลยมีคำๆ หนึ่งที่เกิดขึ้น... คนที่เธอไม่ยอมรับ ซึ่งบางคนอาจตีความหมายไปถึงเรื่องเพศ
ซึ่งเรื่องเพศก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงมันยังหมายถึงคนในครอบครัว หรือคนรอบข้างของคนที่เรารักได้อีกด้วย ความรักมันไม่ใช่แค่เรื่องของคน 2 คน เวลาเราคบใครหรือรักใคร ก็อยากจะบอกกับใครต่อใครว่าเรา 2 คนคบกันอยู่นะ รักกันอยู่นะ แต่บางครั้งมันก็ไม่สามารถแสดงออกหรือบอกใครได้ ซึ่งสถานการณ์แบบนี้เอกกี้มองว่ามันเป็นชีวิตจริงของคนในปัจจุบันเหมือนกัน และบางมุมก็คล้ายชีวิตเอกกี้เหมือนกัน เพลงนี้หมอเอิ้นจึงแต่งขึ้นมาจากมุมมองความรักที่ละเอียดอ่อน เป็นความรักที่ต้องการการยอมรับจากคนเพียงหนึ่งคนที่เรารักเท่านั้น ซึ่งการยอมรับคือความคาดหวังให้คนๆนั้นรู้สึกในตัวเราไม่ว่าจะมากหรือน้อย และทุกครั้งจะมีคำถามขึ้นในใจเสมอๆ ว่าคุ้มไหมกับความอดทนเพื่อรอคอยให้ใครบางคนยอมรับในตัวเรา
เป็นความรู้สึกที่ว่า มี แต่เหมือน ไม่มี ซึ่งตอนเข้าห้องอัดหมอเอิ้นเองก็จะคอยบอกว่าต้องการอารมณ์ของเพลงนี้ให้ออกมาเป็นอย่างไร จากนั้นก็ปล่อยให้เอกกี้ทำความเข้าใจถึงอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดก่อน เพราะส่วนตัวเราก็ไม่ได้เข้าห้องอัดตั้ง 5-6 ปี ไม่ถึงกับเคาะสนิม พอเข้าห้องอัดหมอเอิ้นก็ปล่อยให้เอกกี้ร้องยาวเทคเดียวรวดเดียวผ่านเลย ซึ่งตอนร้องก็แอบอินไปกับเนื้อเพลงเหมือนกันเอกกี้ก็ขอฝาก คนที่เธอไม่ยอมรับ ให้ทุกๆ คนได้ฟังกันเยอะๆ นะครับ