มารูน ไฟว์ กลับมากี่ครั้งก็ยังฮอต มันส์สะใจแฟนไทย!!
ไม่ปล่อยให้แฟนเพลงต้องคิดถึงกันนานทันทีที่ปล่อยอัลบั้มใหม่ล่าสุด Overexposed ออกมา ศิลปินสุดฮอตขวัญใจคนทั่วโลก มารูน 5 (Maroon 5) ก็ออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกอีกครั้ง โดยทั้ง 5 หนุ่มกลับมาพบกับแฟนเพลงชาวไทย กับคอนเสิร์ต สิงห์ พรีเซ้นทส์ มารูน ไฟว์ ไลฟ์ อิน แบ็งคอค 2012 (Singh presents Maroon 5 Live in Bangkok 2012) วันที่ 8 ตุลาคมนี้ ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี โดยครั้งนี้ความฮอตของพวกเค้าพุ่งถึงขีดสุดบัตรคอนเสิร์ตกว่าหมื่นใบถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงภายในเวลา 2 วันเท่านั้น!!
5 หนุ่มมาดเท่ห์ อันประกอบด้วยนักร้องนำสุดฮอต อดัม เลอวีน (Adam Lervine) , เจมส์ วาเลนไทน์ (James Valentine) มือกีตาร์, มิกกี้ แมดเดน (Mickey Madden) มือเบส, แม็ต ฟลิน (Matt Flynn) มืองกลอง และ พีเจ มอร์ทอน (JP Morton) มือคีย์บอร์ด (เล่นแทน เจส คาร์ไมเคิล ที่ลาพักชั่วคราว) พวกเขาคือวงพ็อพร็อคชั้นนำจากอเมริกาที่มีแฟนคลับทั่วโลกมากมายและเหนียวแน่นเป็นอย่างมากในบ้านเรา โดยคอนเสิร์ตทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ในปี 2009 และ 2011 ได้สร้างปรากฏการณ์ความมันและยอดจำหน่ายบัตรถล่มทลายในเมืองไทยแบบไร้ข้อกังขาใดๆในความเป็นศิลปินยอดนิยม
ด้วยฝีไม้ลายมือที่ทางดนตรีที่ยอดเยี่ยมของวง และความเป็นสุดยอดเอ็นเตอร์เทรนเนอร์ของหนุ่มฮอตตลอดกาลอย่าง อดัม เลอวีน บวกกับเพลงฮิตอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดิส เลิฟ (This Love), ชี วิล บี เลิฟด์ (She Will Be Loved), เมคส์ มี วันเดอร์ (Makes Me Wonder), เวค อัพ คอล (Wake Up Call), มูฟ ไลคส์ แจ็กเกอร์ (Move likes Jagger) จนมาถึง เพย์โฟน (Pay Phone) และ วัน มอร์ ไนท์ ( One more Night) จากอัลบั้มล่าสุด ทำให้พวกเขาเป็นที่คลั่งไคล้ของแฟนเพลงทั่วโลก และเฝ้าติดตามรอชมคอนเสิร์ตครั้งแล้วครั้วเล่า
มารูน 5 เริ่มโดดเด่นฉายแววความเป็นวงร็อคชั้นแนวหน้าตั้งแต่ ผลงานอัลบั้มแรก ซอง อเบ้าท์ เจน (Song About Jane) ที่โด่งดังเพียงข้ามคืนกับซิงเกิ้ลแรก ดิส เลิฟ (This Love) และกวาดยอดขายทั่วโลกไปกว่า 10 ล้านก็อปปี้ รวมถึงซิวรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในงาน เอ็มทีวี วีดีโอ มิวสิค อวอร์ด ในปี 2004 และรางวัลแกรมมี่ อวอร์ด ในสาขาศิลปินหน้าใหม่ และสาขาศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยมจากเพลง ดิส เลิฟ ในปี 2005 และ 4 ปี หลังจากตระเวนทัวร์คอนเสิร์ตกับศิลปินมากความสามารถอย่าง เดอะ โรลลิ่ง สโตนส์ (The Rolling Stones) และ สตีวี วันเดอร์ (Stevie Wonder) พวกเขาก็กลับมาผงาดในทำเนียบป็อบร็อคแถวหน้าอีกครั้ง กับงานเพลงชุดที่สอง อิท วอนท์ บี ซูน บีฟอร์ ลอง (It Won’t Be Soon Before Long) โดยเปิดตัวด้วยเพลง เมค มี วันเดอร์ (Makes Me Wonder) ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับบิลบอร์ดชาร์ทของอเมริกา ด้วยการเป็นเพลงที่กระโดดจากอันดับที่ 64 ขึ้นสู่อันดับ 1 ได้ในเวลาเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น นอกจากนี้ เพลง เมค มี วันเดอร์ ยังทำให้พวกเขาได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์ด ในสาขาศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม และอัลบั้มชุดนี้ก็ได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์ดในสาขาอัลบั้มยอดเยี่ยม ในปี 2007 ด้วยเช่นกัน
หายไป 3 ปี พวกเขากลับมาทวงบัลลังภ์ความเป็นวงร็อกซูเปอร์สตาร์กับ แฮนดส์ ออล โอเวอร์ (Hands All Over) กับซิงเกิ้ลที่มีจังหวะคักสนุกสนาน มิสเซอรี่ (Misery), กีฟ อะ ลิตเติ้ล มอร์ (Give A Little More) และ Never Gonna Leave This Bed (เนเวอร์ กอนนา ลีฟ ดีส เบด) และซิงเกิ้ลปิดท้ายที่ออกมาเขย่าโลกอย่าง มูฟ ไลคส์ แจ็กเกอร์ (Move likes Jagger) เพลงที่ถูกซื้อผ่านการดาวน์โหลดมากที่สุดเป็นประวัติกาล ส่งผลให้ดีกรีความฮอตของ อดัม เลอวีน พุ่งขึ้นถึงขีดสุด
มาถึงอัลบั้มล่าสุด Overexposed ที่ออกมาในปี 2012 ซึ่งกำลังไปได้สวยกับ หลายซิงเกิ้ลเท่ห์ๆ ที่มีความแปลกใหม่ทางแนวดนตรี ไม่ว่าจะเป็นซิงเกิลล่าสุด วันมอร์ไนท์ (One More Night) กับแนวอิเล็คโทรนิค-เร็กเก้ ที่ออกมาต่อจาก เพย์โฟน (Payphone) ที่ได้แรพเปอร์รับเชิญ วิซ คาลิฟา (Wiz Khalifa) มาร่วมงาน หรือเพลงบัลลาดกลิ่นอายฟังค์ บิวตี้ฟูล กู๊ดบาย (Beautiful Goodbye) และ ดูอิง เดิร์ท (Doin’ Dirt) ที่มีดิสโก้และร็อคผสมผสาน เป็นต้น
5 หนุ่มมาดเท่ห์ อันประกอบด้วยนักร้องนำสุดฮอต อดัม เลอวีน (Adam Lervine) , เจมส์ วาเลนไทน์ (James Valentine) มือกีตาร์, มิกกี้ แมดเดน (Mickey Madden) มือเบส, แม็ต ฟลิน (Matt Flynn) มืองกลอง และ พีเจ มอร์ทอน (JP Morton) มือคีย์บอร์ด (เล่นแทน เจส คาร์ไมเคิล ที่ลาพักชั่วคราว) พวกเขาคือวงพ็อพร็อคชั้นนำจากอเมริกาที่มีแฟนคลับทั่วโลกมากมายและเหนียวแน่นเป็นอย่างมากในบ้านเรา โดยคอนเสิร์ตทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ในปี 2009 และ 2011 ได้สร้างปรากฏการณ์ความมันและยอดจำหน่ายบัตรถล่มทลายในเมืองไทยแบบไร้ข้อกังขาใดๆในความเป็นศิลปินยอดนิยม
ด้วยฝีไม้ลายมือที่ทางดนตรีที่ยอดเยี่ยมของวง และความเป็นสุดยอดเอ็นเตอร์เทรนเนอร์ของหนุ่มฮอตตลอดกาลอย่าง อดัม เลอวีน บวกกับเพลงฮิตอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดิส เลิฟ (This Love), ชี วิล บี เลิฟด์ (She Will Be Loved), เมคส์ มี วันเดอร์ (Makes Me Wonder), เวค อัพ คอล (Wake Up Call), มูฟ ไลคส์ แจ็กเกอร์ (Move likes Jagger) จนมาถึง เพย์โฟน (Pay Phone) และ วัน มอร์ ไนท์ ( One more Night) จากอัลบั้มล่าสุด ทำให้พวกเขาเป็นที่คลั่งไคล้ของแฟนเพลงทั่วโลก และเฝ้าติดตามรอชมคอนเสิร์ตครั้งแล้วครั้วเล่า
มารูน 5 เริ่มโดดเด่นฉายแววความเป็นวงร็อคชั้นแนวหน้าตั้งแต่ ผลงานอัลบั้มแรก ซอง อเบ้าท์ เจน (Song About Jane) ที่โด่งดังเพียงข้ามคืนกับซิงเกิ้ลแรก ดิส เลิฟ (This Love) และกวาดยอดขายทั่วโลกไปกว่า 10 ล้านก็อปปี้ รวมถึงซิวรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในงาน เอ็มทีวี วีดีโอ มิวสิค อวอร์ด ในปี 2004 และรางวัลแกรมมี่ อวอร์ด ในสาขาศิลปินหน้าใหม่ และสาขาศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยมจากเพลง ดิส เลิฟ ในปี 2005 และ 4 ปี หลังจากตระเวนทัวร์คอนเสิร์ตกับศิลปินมากความสามารถอย่าง เดอะ โรลลิ่ง สโตนส์ (The Rolling Stones) และ สตีวี วันเดอร์ (Stevie Wonder) พวกเขาก็กลับมาผงาดในทำเนียบป็อบร็อคแถวหน้าอีกครั้ง กับงานเพลงชุดที่สอง อิท วอนท์ บี ซูน บีฟอร์ ลอง (It Won’t Be Soon Before Long) โดยเปิดตัวด้วยเพลง เมค มี วันเดอร์ (Makes Me Wonder) ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับบิลบอร์ดชาร์ทของอเมริกา ด้วยการเป็นเพลงที่กระโดดจากอันดับที่ 64 ขึ้นสู่อันดับ 1 ได้ในเวลาเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น นอกจากนี้ เพลง เมค มี วันเดอร์ ยังทำให้พวกเขาได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์ด ในสาขาศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม และอัลบั้มชุดนี้ก็ได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์ดในสาขาอัลบั้มยอดเยี่ยม ในปี 2007 ด้วยเช่นกัน
หายไป 3 ปี พวกเขากลับมาทวงบัลลังภ์ความเป็นวงร็อกซูเปอร์สตาร์กับ แฮนดส์ ออล โอเวอร์ (Hands All Over) กับซิงเกิ้ลที่มีจังหวะคักสนุกสนาน มิสเซอรี่ (Misery), กีฟ อะ ลิตเติ้ล มอร์ (Give A Little More) และ Never Gonna Leave This Bed (เนเวอร์ กอนนา ลีฟ ดีส เบด) และซิงเกิ้ลปิดท้ายที่ออกมาเขย่าโลกอย่าง มูฟ ไลคส์ แจ็กเกอร์ (Move likes Jagger) เพลงที่ถูกซื้อผ่านการดาวน์โหลดมากที่สุดเป็นประวัติกาล ส่งผลให้ดีกรีความฮอตของ อดัม เลอวีน พุ่งขึ้นถึงขีดสุด
มาถึงอัลบั้มล่าสุด Overexposed ที่ออกมาในปี 2012 ซึ่งกำลังไปได้สวยกับ หลายซิงเกิ้ลเท่ห์ๆ ที่มีความแปลกใหม่ทางแนวดนตรี ไม่ว่าจะเป็นซิงเกิลล่าสุด วันมอร์ไนท์ (One More Night) กับแนวอิเล็คโทรนิค-เร็กเก้ ที่ออกมาต่อจาก เพย์โฟน (Payphone) ที่ได้แรพเปอร์รับเชิญ วิซ คาลิฟา (Wiz Khalifa) มาร่วมงาน หรือเพลงบัลลาดกลิ่นอายฟังค์ บิวตี้ฟูล กู๊ดบาย (Beautiful Goodbye) และ ดูอิง เดิร์ท (Doin’ Dirt) ที่มีดิสโก้และร็อคผสมผสาน เป็นต้น
อัลบั้มภาพ 28 ภาพ