กิ๊ฟซ่า รับคบ ณัฐ แต่ยังกั๊กแฟน ดีใจได้กลับมาทำงานแล้ว
หลังจากโดนเรียกตัวครั้งที่หนึ่งสำหรับ กิ๊ฟซ่า-ปิยา พงศ์กุลภา ที่ก่อนหน้านี้โดนข้อหาเมาแล้วขับก็เหมือนเจ้าตัวจะกลับมาทำงานตามปกติแล้ว ซึ่งสาว กิ๊ฟซ่า ก็ออกอาการดีอกดีใจที่ได้กลับมาทำงานโดยเฉพาะงานเอ็มวีตัวใหม่ของวง เกิร์ลลี่เบอรี่ ที่ได้ยินมาว่าจะแปลกแหวกแนวกว่าเดิม แถมได้ยินว่าสาว กิ๊ฟซ่า นั้นได้ไปเที่ยวกับครอบครัวของ ณัฐ สารสาส ผู้ที่ตกเป็นข่าวเมาแล้วขับด้วยเหมือนกัน เมื่อได้เจอสาว กิ๊ฟซ่า เจ้าตัวก็เล่าให้ฟังว่า ....ก็หลังจากช่วงธันวาคมเป็นช่วงที่หลังจากพักงานแล้ว เราก็ได้มีโอกาสทำงานถ่ายละคร ก็ทำให้สภาพจิตใจดีขึ้น การที่เราได้ทำงานเยอะขึ้นมันก็ทำให้กลับมาสนุกกับงานอีกครั้งหนึ่ง
แพลนงานปีนี้มีอะไรบ้าง
.........เดี๋ยวประมาณมีนาคมจะมีโปรเจกต์ใหญ่ของเกิร์ลลี่เบอรี่ค่ะ ก็คงจะเป็นสไตล์คล้ายๆ เดิมค่ะ แต่จะยิ่งใหญ่ขึ้น จะเป็นยังไงก็ต้องรอติดตามดูค่ะ เราก็คงจะได้เล่นอะไรที่เราไม่เคยเล่น เราอาจจะได้เล่นเอ็มวีที่แตกต่างจากเดิมค่ะ
แบบนี้แปลว่าเราเซ็กซี่ใหญ่ขึ้นหรือเปล่า
...........นมเราก็เท่าเดิม อะไรที่มันเล็กก็เล็กเหมือนเดิม อะไรที่มันก็ยังใหญ่เหมือนเดิมนะคะ(หัวเราะ) คือเรื่องเสื้อผ้ากับเพลงนี่อยู่ในช่วงดำเนินการอยู่ค่ะ ก็เลยยังบอกไม่ได้ค่ะ
ที่บอกว่าแปลกไปนี่คืออะไร
.......ก็คงจะเป็นภาพที่อลังการกว่าเดิม เอ็มวีก็อาจจะอลังการกว่าเดิมด้วย ส่วนเซ็กซี่กว่าเดิมไหมยังไม่แน่ค่ะ(ยิ้ม)
จะมีชวนคนอื่นมาร่วมด้วยหรือเปล่า
.......ไม่มีค่ะ มีแค่เราสี่คนค่ะ(ยิ้ม)
ตอนนี้จะรายงานตัวครั้งที่สองแล้ว
........วันที่ยี่สิบเอ็ดกุมภาพันธ์ค่ะ ก็ส่วนใหญ่คนที่โดนคดีแบบนี้เขาจะไปรายงานตัวปกติ แต่ของเราจะเป็นในกรณีพิเศษคือทุกครั้งที่เราไปรายงานตัว เขาก็อยากจะให้เราทำอะไรบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย ก็เหมือนการไปบำเพ็ญประโยชน์นั่นแหละค่ะ ก่อนหน้านี้เราก็ไปรายงานตัวปกติ ครั้งที่สองเขาก็เลยบอกว่าอยากให้เราทำอะไรเป็นพิเศษหน่อย เราก็เลยบอกว่าเราสนใจธรรมะ เราเลยให้เราไปปฏิบัติธรรมที่วันธรรมมงคล
ไปปฏิบัตรธรรมคือไปนั่งสมาธิกับเขาใช่ไหม
.......ใช่ค่ะ ก็ไปนั่งสมาธิและไปร่วมกิจกรรมของเขาทั้งวันเลย ก็ใช้เวลาหนึ่งวันคือทั้งวันเลยค่ะ
เห็นว่าเราไปเที่ยวกับครอบครัว
.......ก็ไปค่ะ ไปญี่ปุ่นมาค่ะ ก็สนุกดี ก็ไปหลายจังหวัดนะคะไม่ได้อยู่แค่โตเกียว ไปช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาค่ะ คือจริงๆ ก็เคยเจอกันอยู่แล้วค่ะ ก็คุยกันปกติ แต่ครั้งนี้ก็รู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้ไปเที่ยว เพราะเราก็เคยไปญี่ปุ่นครั้งหนึ่งแต่ครั้งนั้นเราไปเล่นคอนเสิร์ตไงคะ เราก็อยู่แค่ในโตเกียว แต่ครั้งนี้เราได้ไปเที่ยวก็มีความสุขกับการที่ได้ไปเที่ยวค่ะ
ครอบครัวเขาเป็นยังไงบ้าง
........ก็คบหากันดีค่ะ มีความรู้สึกดีๆ ต่อกันค่ะ
สถานะตอนนี้ชัดเจนแล้วหรือยัง
.......เอางี้ดีกว่าค่ะ กิ๊ฟว่าคนเราต้องดูกันไปนานๆ ค่ะ คือการไปเที่ยวกัน ไปทานข้าวด้วยกัน ทำอะไรด้วยกัน ณ เวลานี้มันเป็นสิ่งที่ดี แต่ในอนาคตก็เป็นเรื่องไม่แน่นอนค่ะ ในอนาคตอาจจะไม่ได้ทำร่วมกันแล้วก็เป็นได้
คุยกันมากี่ปีแล้ว
.......สามปีกว่าๆ ค่ะ
ได้มีทางผู้ใหญ่ของเราไปด้วยหรือเปล่า
......ไม่ได้ไปค่ะ
หลายๆ คนมองว่าเราสวีทกันหวานมาก
.......ไม่หวานค่ะ ปกติ(หัวเราะ) ก็คือไปกันหลายคนมากเลยค่ะ เราก็ไปกันแบบเป็นทัวร์ค่ะ
ก็คือคบกันแต่ยังไม่ได้เรียกว่าแฟน
.....ค่ะ ก็ยังไม่ได้ใช้คำนั้นดีกว่านะคะ
ทำไมเราถึงไม่อยากเรียกว่าแฟน
........เพราะกิ๊ฟเชื่อว่าในความเป็นจริงของชีวิตเรายืนอยู่บนความไม่แน่นอน การที่เราพูดอะไรออกไป เราอาจจะต้องชดใช้กับคำพูดของเราที่หลัง และอาจจะต้องมาเจ็บปวดเพราะคำพูดของเราเองโดยไม่จำเป็น เพราะสุดท้ายแล้วความไม่แน่นอนก็คือความแน่นอนค่ะ เราก็เอาความไม่แน่นอนยืนอยู่บนนั้นแล้วก็มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ดีกว่าค่ะ
แพลนงานปีนี้มีอะไรบ้าง
.........เดี๋ยวประมาณมีนาคมจะมีโปรเจกต์ใหญ่ของเกิร์ลลี่เบอรี่ค่ะ ก็คงจะเป็นสไตล์คล้ายๆ เดิมค่ะ แต่จะยิ่งใหญ่ขึ้น จะเป็นยังไงก็ต้องรอติดตามดูค่ะ เราก็คงจะได้เล่นอะไรที่เราไม่เคยเล่น เราอาจจะได้เล่นเอ็มวีที่แตกต่างจากเดิมค่ะ
แบบนี้แปลว่าเราเซ็กซี่ใหญ่ขึ้นหรือเปล่า
...........นมเราก็เท่าเดิม อะไรที่มันเล็กก็เล็กเหมือนเดิม อะไรที่มันก็ยังใหญ่เหมือนเดิมนะคะ(หัวเราะ) คือเรื่องเสื้อผ้ากับเพลงนี่อยู่ในช่วงดำเนินการอยู่ค่ะ ก็เลยยังบอกไม่ได้ค่ะ
ที่บอกว่าแปลกไปนี่คืออะไร
.......ก็คงจะเป็นภาพที่อลังการกว่าเดิม เอ็มวีก็อาจจะอลังการกว่าเดิมด้วย ส่วนเซ็กซี่กว่าเดิมไหมยังไม่แน่ค่ะ(ยิ้ม)
จะมีชวนคนอื่นมาร่วมด้วยหรือเปล่า
.......ไม่มีค่ะ มีแค่เราสี่คนค่ะ(ยิ้ม)
ตอนนี้จะรายงานตัวครั้งที่สองแล้ว
........วันที่ยี่สิบเอ็ดกุมภาพันธ์ค่ะ ก็ส่วนใหญ่คนที่โดนคดีแบบนี้เขาจะไปรายงานตัวปกติ แต่ของเราจะเป็นในกรณีพิเศษคือทุกครั้งที่เราไปรายงานตัว เขาก็อยากจะให้เราทำอะไรบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย ก็เหมือนการไปบำเพ็ญประโยชน์นั่นแหละค่ะ ก่อนหน้านี้เราก็ไปรายงานตัวปกติ ครั้งที่สองเขาก็เลยบอกว่าอยากให้เราทำอะไรเป็นพิเศษหน่อย เราก็เลยบอกว่าเราสนใจธรรมะ เราเลยให้เราไปปฏิบัติธรรมที่วันธรรมมงคล
ไปปฏิบัตรธรรมคือไปนั่งสมาธิกับเขาใช่ไหม
.......ใช่ค่ะ ก็ไปนั่งสมาธิและไปร่วมกิจกรรมของเขาทั้งวันเลย ก็ใช้เวลาหนึ่งวันคือทั้งวันเลยค่ะ
เห็นว่าเราไปเที่ยวกับครอบครัว
.......ก็ไปค่ะ ไปญี่ปุ่นมาค่ะ ก็สนุกดี ก็ไปหลายจังหวัดนะคะไม่ได้อยู่แค่โตเกียว ไปช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาค่ะ คือจริงๆ ก็เคยเจอกันอยู่แล้วค่ะ ก็คุยกันปกติ แต่ครั้งนี้ก็รู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้ไปเที่ยว เพราะเราก็เคยไปญี่ปุ่นครั้งหนึ่งแต่ครั้งนั้นเราไปเล่นคอนเสิร์ตไงคะ เราก็อยู่แค่ในโตเกียว แต่ครั้งนี้เราได้ไปเที่ยวก็มีความสุขกับการที่ได้ไปเที่ยวค่ะ
ครอบครัวเขาเป็นยังไงบ้าง
........ก็คบหากันดีค่ะ มีความรู้สึกดีๆ ต่อกันค่ะ
สถานะตอนนี้ชัดเจนแล้วหรือยัง
.......เอางี้ดีกว่าค่ะ กิ๊ฟว่าคนเราต้องดูกันไปนานๆ ค่ะ คือการไปเที่ยวกัน ไปทานข้าวด้วยกัน ทำอะไรด้วยกัน ณ เวลานี้มันเป็นสิ่งที่ดี แต่ในอนาคตก็เป็นเรื่องไม่แน่นอนค่ะ ในอนาคตอาจจะไม่ได้ทำร่วมกันแล้วก็เป็นได้
คุยกันมากี่ปีแล้ว
.......สามปีกว่าๆ ค่ะ
ได้มีทางผู้ใหญ่ของเราไปด้วยหรือเปล่า
......ไม่ได้ไปค่ะ
หลายๆ คนมองว่าเราสวีทกันหวานมาก
.......ไม่หวานค่ะ ปกติ(หัวเราะ) ก็คือไปกันหลายคนมากเลยค่ะ เราก็ไปกันแบบเป็นทัวร์ค่ะ
ก็คือคบกันแต่ยังไม่ได้เรียกว่าแฟน
.....ค่ะ ก็ยังไม่ได้ใช้คำนั้นดีกว่านะคะ
ทำไมเราถึงไม่อยากเรียกว่าแฟน
........เพราะกิ๊ฟเชื่อว่าในความเป็นจริงของชีวิตเรายืนอยู่บนความไม่แน่นอน การที่เราพูดอะไรออกไป เราอาจจะต้องชดใช้กับคำพูดของเราที่หลัง และอาจจะต้องมาเจ็บปวดเพราะคำพูดของเราเองโดยไม่จำเป็น เพราะสุดท้ายแล้วความไม่แน่นอนก็คือความแน่นอนค่ะ เราก็เอาความไม่แน่นอนยืนอยู่บนนั้นแล้วก็มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ดีกว่าค่ะ