แดน เคลียร์แผนชีวิตใหม่ เมื่อไม่ต่อสัญญาโซนี่
เมื่อผลงานเพลงในช่วงหลังเริ่มซาลงไป หลายคนจึงถามไถ่ว่า แดน-วรเวช ดานุวงศ์ กำลังมีแผนที่จะทำอะไรต่อ อีกทั้งช่วงหลังหันมาทุ่มเทเวลาให้กับงานแสดงจนแทบจะกลายเป็นงานหลัก ก็ยิ่งทำให้เกิดคำถามตามมามากมาย กระทั่งกระแสข่าวลือที่ว่าหนุ่มแดนจะปล่อยให้หมดสัญญากับค่ายเพลงอย่าง โซนี่ มิวสิค เพื่อที่จะเบนเข็มไปทำงานด้านอื่นที่ตนอยากทำ ก็เริ่มมีปรากฏออกมาเรื่อยๆ
เส้นทางสายดนตรีของแดน วรเวช หลังจากตัดสินใจโบกมือลาค่ายอาร์เอสมาสู่อ้อมอกของ โซนี่ มิวสิค เมื่อ 4 ปีก่อน ถือเป็นการตัดสินใจที่ท้าทายและทำให้วงเพลงต้องฮือฮาไม่น้อย ผลงานเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวกับ โซนี่ มิวสิค ที่มีออกมา 2 ชุด (อัลบั้ม Blue ปี 2552 และอัลบั้ม Solo Motion ปี 2554) รวมถึงเพลงประกอบละครและภาพยนตร์อีกมากมาย ล้วนแต่เป็นผลงานที่เปิดโอกาสให้เขาได้มีอิสระในการร่วมคิดร่วมสร้างสรรค์พอสมควร แต่หากวัดในแง่ของความสำเร็จเมื่อเทียบกับยุคทริโอบอยแบนด์ ดีทูบี และ แดน-บีม ภาพลักษณ์และเนื้อหาที่เติบโตขึ้น ความท้าทายที่จะนำผลงานเพลงเข้าสู่คนฟังกลุ่มใหม่ๆ และเสียงตอบรับที่ไม่ถล่มทลายเท่าวันเก่าๆ อีกทั้งภาพของความเป็นนักแสดงที่ดูจะมีผลงานให้เห็นถี่กว่างานเพลงของเขา ก็อาจมีผลไม่น้อยกับการตัดสินใจที่จะผลิตงานเพลงใหม่ๆ ออกมาในอนาคต
เมื่อได้พบปะหนุ่มแดนและสอบถาม ก็ได้ความว่า ข่าวของการไม่ต่อสัญญากับโซนี่ค่อนข้างที่จะเป็นความจริง เรื่องนี้คงไม่มีใครอธิบายได้ชัดเจนเท่ากับเจ้าตัวเอง
เท็จจริงอย่างไรกับการไม่ต่อสัญญากับโซนี่ ?
"สัญญาของผมกับโซนี่กำลังจะหมดในเดือนตุลาคมนี้ ตรงนี้มีการพูดคุยแล้วครับ มันเกิดจากช่วงหลังผมรับงานเยอะ หนัง ละคร เราก็รู้สึกว่าเกิดความเกรงใจ ก็เลยตัดสินใจคุยกับผู้ใหญ่ เรื่องของงานเพลงก็คงจะต้องว่าไปตามนั้น"
แล้วผลงานที่ทำกับโซนี่ในช่วงที่ผ่านมา จะเป็นอย่างไรต่อไป ?
"ก็ยังไม่แน่ใจว่าเพลงที่มีโปรเจคท์อยู่จะยังคงเป็นโซนี่จัดจำหน่ายอยู่มั้ย แต่หากรับงานคอนเสิร์ต หรือผู้ใหญ่เห็นว่ามีงานที่เหมาะกับเราเสนอเข้ามา ก็ยินดีร่วมงานครับ ไม่มีปัญหา"
คนมักจะมองว่า เหตุที่ศิลปินไม่ต่อสัญญาเพราะมีปัญหากับทางค่าย ?
"ไม่มีครับ ไม่มีแน่นอน เป็นการตกลงที่เรารับรู้กันทั้งสองฝ่าย ผมเกรงใจทางค่าย หลายครั้งเรามีโปรเจคท์มีอัลบั้มที่เราจะทำแต่ก็ไม่ได้ลงมือทำ เพราะเราสนุกกับงานแสดง เมื่อสัญญามันยังค้างอยู่โดยที่งานเพลงเราก็ยังไม่คืบหน้า ก็ต้องมานั่งพูดคุยกัน"
พูดแบบนี้เหมือนกำลังวางแผนจะจับงานแสดงเต็มตัว ?
"ก็เป็นงานหลักที่รับผิดชอบในตอนนี้ครับ แต่เราเกิดจากการเป็นนักร้อง เป็นศิลปิน ความอยากทำผลงานเพลงมันก็ยังไม่หายไปไหนนะ เป็นเรื่องของอนาคตครับ เราพูดคุยกันลงเอยด้วยดี โซนี่ก็ยังต้อนรับเราเพราะเขาบอกว่าถ้าอยากจะกลับมาทำงานเพลงให้นึกถึงโซนี่เป็นที่แรก ผมก็ไม่มีปัญหา"
วางแผนชีวิตอย่างไรหลังจากนี้ ?
"ก็มีแผนจะไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศครับ ถือว่าเป็นการพักผ่อนด้วย ก็คงจะเป็นประเทศอังกฤษ ประมาณ 6 เดือน จากนั้นก็อาจจะหาคอร์สสั้นๆ ที่เกี่ยวกับเบื้องหลังเช่นภาพยนตร์หรือเพลงไว้ลงเรียนต่อไป หลังจากเคลียร์งานเสร็จเดือนหน้า ก็คงถึงเวลาแล้วครับ"
ด้วยเส้นทางอนาคตที่ยังอีกยาวไกล ก็ไม่แน่ว่าผู้ชายคนนี้อาจจะมีเซอร์ไพรส์เกี่ยวกับงานเพลงที่ทำให้หลายคนคาดไม่ถึงอีกครั้ง แต่จะพลิกโฉมวงการเพลงหรือจะได้ทำในสิ่งที่เขาต้องการและใกล้เคียงกับตัวตนของเขากว่าที่ผ่านๆ มาหรือไม่ หนทางข้างหน้ายังรอพิสูจน์เขาอยู่เสมอ