จากยูเรเนี่ยม ถึง แบล็คเฮด เปิดกรุเคมีร็อคสองทศวรรษ | Sanook Music

จากยูเรเนี่ยม ถึง แบล็คเฮด เปิดกรุเคมีร็อคสองทศวรรษ

จากยูเรเนี่ยม ถึง แบล็คเฮด เปิดกรุเคมีร็อคสองทศวรรษ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ร่วมสนุกลุ้นรับบัตรชมคอนเสิร์ต Blackhead White Line ฟรี! คลิ้ก

ไม่มีชาวร็อคคนไหนไม่รู้จัก 4 สมาชิกของวง แบล็คเฮด ที่ยืนหยัดอยู่ในวงการมานานกว่า 2 ทศวรรษ และเชื่อว่ามีคอเพลงอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคงเก็บเทปคาสเซ็ทม้วนเก่าๆ ของวง ยูเรเนี่ยม ไว้ในคอลเลคชั่นส่วนตัวเป็นอย่างดี และบางคนอาจทำให้พวเราอ้าปากค้างเมื่อเห็นเขาอวดแผนเสียงของ ชัคกี้ ธัญญรัตน์ ที่มีหนุ่มน้อยหน้าขาวชื่อ "ปฐพี ฉายแสง" อวดอยู่บนปกแผ่นเสียงเมื่อเกือบสามสิบปีก่อน

พลิกย้อนดูในยุคก่อนที่วง แบล็คเฮด จะถือกำเนิดขึ้น ชาวไทยรู้จักกับวงดนตรีร็อครุ่นใหม่ที่ใช้ภาษาร็อคได้อย่างแพรวพราว บวกกับความจัดจ้านของภาพลักษณ์ จะเรียกว่าแกล็มร็อคก็คงไม่ใช่ จะแฮร์เมทัลก็คงไม่เชิง แต่ก็ผสานความเป็นร็อคนำสมัยเข้ากับมุมมองของคนฟังเพลงชาวไทยในยุคที่กำลังเปิดรับอิทธิพลใหม่ๆ เข้ามาอย่างได้จังหวะลงตัว

อานนท์ สายแสงจันทร์ และ สมทบ สมมีชัย ย้อนถึงวันที่เคยออกผลงาน 2 ชุดกับค่าย เอสพี ศุภมิตร ในนามของ ยูเรเนี่ยม ว่า เรื่องของจังหวะเวลาน่าจะมีผล ในยุคนั้น ทางฝั่งค่ายเพลงย่านลาดพร้าวกำลังปั้นวงร็อคผมยาวขึ้นมาบุกตลาดทดแทนยุคของ ร็อคเคสตร้า ค่ายเอสพี ศุภมิตร ที่มักจะดึงดาราช่อง 3 มาออกเทปมองเห็นช่องทางจึงกลับลำปั้นวงยูเรเนี่ยมขึ้นมาใหม่ ผลงานชุด ปฏิกิริยาร็อค (พ.ศ. 2535) และ อัด-สะ-จอ-รอ-หัน (พ.ศ. 2536) ที่้เหลือสมาชิกเพียง 3 คน แม้ไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ก็สร้างชื่อให้คนรู้จัก "ปู ยูเรเนี่ยม" ไม่น้อยไปกว่านักร้องนำวงร็อควงไหนในเวลานั้น

ยูเรเนี่ยมถึงจุดสิ้นสุดพร้อมๆ กับค่ายเอสพี ศุภมิตรก็ปิดตัวลง 2 ปีที่ไม่มีข่าวคราวใดๆ กระทั่งกลางปี 2538 ชาวร็อคไทยก็ได้โอกาสต้อนรับวงร็อคชื่อใหม่ แต่กลายเป็นคนหน้าเดิมจากยูเรเนี่ยมในนามของ แบล็คเฮด แม้แต่บางคนที่ไม่ได้ตามข่าววงการเพลงนัก ก็ยังจดจำได้ว่า เพลง ยืนยัน คือเพลงฮิตที่ถูกเปิดบ่อยมากตามคลื่นวิทยุในยุคนั้น ก่อนจะตามลายแทงเสียงที่คุ้นหูของปู ไปสู่การรับรู้ว่ามีวงดนตรีที่ชื่อ แบล็คเฮด เกิดขึ้นในทำเนียบวงร็อคไทยอย่างเป็นทางการ

โดยในยุคของแบล็คเฮด ปู และ ต๋อง มือเบส ยังคงเป็นสองสมาชิกดั้งเดิม ก่อนจะเพิ่ม เอก อภิสิทธิ์ พงศ์ชัยศิริกุล อดีตมือกีตาร์วง บิ๊กกัน ที่สนิทสนมคุ้นเคยกันจากร็อคผับมาช่วยกันฟอร์มวงใหม่ หามือกลองมาเติมเต็มวงร็อคให้ไฉไล จนไปลงตัวที่ ยุ่น วิโรจน์ เจริญพิพัฒน์สิน เมื่อวงสมบูรณ์แบบ อัลบั้มแรกกับค่ายใหม่ เอ็มสแควร์ ก็เกิดขึ้น

หากแต่ยุคแรกๆ ของแบล็คเฮด สร้างความงุนงงและสงสัยในหมู่แฟนเพลงเก่าๆ ไม่น้อย เพราะปูและผองเพื่อน เปลี่ยนสไตล์จากร็อคพันธุ์แท้จอมลวดลาย มาเป็นอลัเทอร์เนทีฟร็อคตามยุคสมัย "อัลเตอร์" เบ่งบาน

หลายคนคาดการณ์ว่าแบล็คเฮดไม่น่าจะไปรอด

แต่พวกเขาก็ยังมีผลงานตอ่เนื่องและไปได้สวยกับชุดที่ 2 Full Flavor แถมยังกลายเป็นอัลเทอรืเนทีฟร็อคแถวหน้าที่งานชุก ก่อนจะมาเติบโตอย่างมั่นคงในชายคา มอร์ มิวสิค อีก 8 อัลบั้ม

ไม่ใช่ตัวจริงก็คงอยู่ไม่ได้นานขนาดนี้

กว่าสิบปีในแกรมมี่ ถึงอีกยุคที่ต้อง "เปลี่ยน"
 
10 กว่าปีกับต้นสังกัดเดิมๆ ถือว่านานมาก หากเปรียบกับคนทำงานก็เหมือนบ้านหลังเก่า แต่ใครจะคิดว่าวันหนึ่ง แบล็คเฮด จะตบเท้าก้าวออกจากแกรมมี่สู่การเดินทางครั้งใหม่ที่ต้องเลือกเองอีกครั้ง หลังจากตั้งหลักกับแกรมมี่มาร่วมทศวรรษ ปลายทางแห่งใหม่คือ สหภาพดนตรี ค่ายเพลงที่มีมุมมองและแนวคิดไปในทางเดียวกัน โดยเฉพาะกับวงดนตรีที่ผ่านอะไรมามากมายอย่างพวกเขา

"กับการที่ย้ายมากับทางสหภาพ เนื่องจากมันใกล้หมดสัญญาแล้ว ก็คิดเห็นตรงกันกับบริษัทว่า เราขอออกมาทำเองดำเนินการเอง ขายเอง แล้วบังเอิญว่าระหว่างทัวร์คอนเสิร์ตเรื่อยๆ อยู่ 3 ปี เรามีสปอนเซอร์ที่คอยจ้างเราอยู่ตลอด ระยะเวลาตรงนั้นได้พูดคุยว่าถ้าเกิดเขาไปสังกัดใหม่อย่างสหภาพดนตรีแล้วจะมาทำร่วมกันไหม ได้พูดคุยในเรื่องของทิศทางของสัญญาจะเป็นยังไง ทิศทางของบริษัทใหม่ของเขาจะเป็นยังไง พอได้เป็นสหภาพขึ้นมาก็เลยตกลงว่าจะอยู่ด้วยกัน"

การห่างหายจากการทำอัลบั้มชุดที่แล้วนานกว่า 3 ปี ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้แฟนเพลงสงสัย ว่าแบล็คเฮดจะทำอะไรต่อไปหลังจากนี้ "จริงๆ ทำอัลบั้มชุดใหม่เราเองเริ่มทำไปแล้ว แต่ปราฏว่าไม่ได้ออก พอย้ายมาสหภาพฯ ก็เลยตัดสินใจทำเพลงใหม่หมด ทั้งนี้เราไม่ได้เอาเพลงที่เคยทำกลับมาทำใหม่ เพราะถึงเวลานี้ ผมรู้สึกว่าเพลงที่เคยทำนั้น มันเก่าไปแล้ว"

เพลงเก่าๆ ที่ตอ้งทิ้งไปบางส่วนจากช่วงรอยต่อของการทำงาน เมื่อไม่มีการนำกลับมาทำใหม่ ก็ชวนให้คิดว่า แบล็คเฮดกับแกรมมี่ จากกันด้วยดีหรือเปล่า

"ยืนยันว่าการออกจากแกรมมี่ไม่ได้เกิดจากการน้อยใจที่ไม่ได้ทำเพลงอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าเราต้องการหาประสบการณ์ใหม่ในการทำเพลงเท่านั้นเอง"

เมื่อถามถึงฟีดแบ็กกับการอัลบั้มใหม่ภายใต้สังกัดใหม่นั้น "ปู" เสริมอีกว่า "นี่คือสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น เพราะว่าเราชอบที่จะทำอะไรใหม่ๆ ออกมา เราโตแล้วจะรู้ทุกเรื่องเข้าไปเจาะรู้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนของ โปรดักชั่น และรวมไปถึงเรื่องการตลาด"

ส่วนในเรื่องของการที่ถูกยกย่องให้เป็นตำนาน ความยากง่ายในการทำเพลงนั้น  "เอก" ยังยืนยันว่า "จริงๆ ของเรามันง่ายขึ้น พอเราได้ลงคอนเสิร์ตคนที่มาฟังคอนเสิร์ตเรา ไม่ใช่ผู้ใหญ่กลายเป็นเด็กรุ่นใหม่ มันอาจจะไม่มีกระแสของหนัง เพราะเด็กก็เพิ่งรู้จักวงแบล็กเฮดจากหนังแล้วก็ไปฟังตาม อีกอย่างเราอยู่ด้วยกันมานานมาก ทำกันเองมาตลอดด้วย มันก็ไม่ยาก เรื่อยๆ แต่หยุดทำงานเราก็ยังสามารถรักษาไว้ได้

หลักของแบล็กเฮดคือเพลงอยู่แล้วแต่สายอื่นๆ ที่เราจะไม่ไปทำก็ทำได้ด้วยในระหว่างเดียวกันก็ไม่ได้มาตั้งความเครียดว่า เราจะมีคอนเสิร์ตไหม เราจะได้ทำอัลบั้มไหมระหว่างนั้นเราก็หาอะไรทำแล้วเรามาทำอันนี้ก็มีความสุขดี" ปูกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook