DNA อยู่บนหน้า! ถึงเวลาทายาทศิลปินไข่ทิ้งตามหาพ่อตัวจริง

เป็นข่าวเป็นคราวให้โลกตะลึงท่ามกลางกระแส Government Shutdown ในสหรัฐฯ ที่หลายคนตามติด เมื่อนักแสดงอาวุโสอย่าง มีอา ฟาร์โรว์ ตกเป็นจุดสนใจของชาวโลกอีกครั้ง เมื่อเธอออกมาให้สัมภาษณ์ว่า โรแนน บุตรชายของเธอนั้น อาจเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนักร้องอมตะ แฟรงค์ ซินาตร้า ไม่น่าจะใช่ วูดดี้ อัลเลน อดีตสามีผู้กำกับภาพยนตร์ที่เคยคบหากันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อย่างที่เข้าใจกันมาเป็นสิบๆ ปี

งานนี้สื่อนอกเลยถึงกับหูผึ่ง จับภาพมาเปรียบเทียบกันให้ชัดๆ ว่าใครน่าจะเป็นพ่อที่แท้จริงของผลผลิตแห่งยุค "เบบี้บูม" เหล่านี้ โดย เดลี เมล์ สื่อจอมตีแผ่แห่งเมืองผู้ดี เกาะติดประเด็นนี้พร้อมกับหยิบยกเอาภาพของศิลปินชื่อดังมาเปรียบเทียบกับบุคคลที่อ้างว่าเป็นผลผลิตอย่างลับๆ ให้ได้พิสูจน์กันชัดๆ ว่า ลูกลับๆ ของใคร มี DNA ฝังไว้ที่หน้าอย่างชัดเจนที่สุด

แฟรงค์ ซินาตร้า

เริ่มจากบุคคลต้นเรื่อง แฟรงค์ ซินาตร้า ที่ เดลี เมล์ จับภาพมาเปรียบเทียบให้เห็นกันจะๆ โดยเฉพาะนัยน์ตาสีฟ้าที่เหมือนกับ โรแนน บุตรชายของ มีอา ฟาร์โรว์ ผู้ซึ่งเพิ่งจะออกมาบอกผ่านสื่อว่า นักร้องอมตะคือบิดาบังเกิดเกล้าตัวจริง แม้ โรแนน จะเติบโตมาพร้อมๆ กับการเลี้ยงดูของผู้กำกับชื่อดัง วูดดี้ อัลเลน ก็ตาม

ร็อด สจ๊วต

แหบสะท้านทรวง ร็อด สจ๊วต กลายเป็นศิลปินอีกคนหนึ่งที่ถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องไข่ทิ้งไว้ไม่ยอมเลี้ยงดู ด้วยวีรกรรมสมัยหนุ่มๆ ที่เร่าร้อนและเจ้าชู้แบบไม่เกรงใจใคร ลือกันว่าเขาแอบไปมีสัมพันธ์ลับกับสาววัยรุ่นคนหนึ่งช่วงปลายยุค 60 จนกระทั่งตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อมจนต้องยกให้ผู้อุปการะเลี้ยงดู ปัจจุบัน ซาราห์ สตรีทเตอร์ (ขวา) เติบใหญ่ สื่อจอมขุดก็เลยขุดหาต่อไปจนได้ภาพใบหน้าของเธอในปัจจุบันมาเปรียบเทียบกันกับ ร็อด สจ๊วต ว่ามีดวงตาและปากแทบจะถอดออกจากพิมพ์เดียวกัน

มิค แจ็กเกอร์

นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ไวไฟ มิค แจ็กเกอร์ แห่ง The Rolling Stones ยังไว้ลายความเหลือร้ายไม่แพ้ตอนเป็นหนุ่มๆ แถมสาวๆ ที่ปู่มิคเข้าไปกรุ้มกริ่มต้องมีดีกรีระดับนางแบบขึ้นไปเท่านั้น! ความมาแดงอีกครั้งเมื่อปี 1999 นางแบบสาวชาวบราซิล ลูเซียนา จิเมเนซ ให้กำเนิดลูกชายที่ว่ากันว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของปู่มิค จนกลายเป็นชนวนเหตุต้องแยกทางกับภรรยาอดีตนางแบบอย่าง เจอร์รี ฮอลล์ ซ้ำสองอีก    

จิมี เฮนดริกซ์

ชีวิตจริงนั้นยิ่งกว่านิยายหลายเท่านัก เพราะใครจะไปคิดว่า ทายาทของมือกีตาร์ในตำนานผู้ล่วงลับอย่าง จิมี เฮนดริกซ์ นั้นจะเกิดมาพร้อมความอาภัพอับโชค เจมส์ เฮนริก ซุนด์ควิสท์ ลืมตาดูโลกเมื่อปี 1969 ก่อนที่ จิมี เฮนดริกซ์ จะเสียชีวิตในปีต่อมา เจมส์เป็นลูกของกรุ๊ปปี้สาวชาวสวีเดนผู้มีสัมพันธ์ลับๆ กับ จิมี เฮนดริกซ์ โดยจะพบกันทุกครั้งที่เฮนดริกซ์เดินทางไปเปิดคอนเสิร์ตที่ประเทศสวีเดน 

หลังจาก จิมี เฮนดริกซ์ เสียชีวิต เจมส์ รับรู้เรื่องราวของมือกีตาร์ในตำนานผ่านคำบอกเล่าของผู้เป็นแม่ ทว่าชีวิตของเจมส์กลับไม่ได้น่าอิจฉาเหมือนลูกคนดังหลายคน เจมส์เกลียดการเข้าสังคมเนื่องจากถูกเพื่อนล้อเลียนในวัยเด็ก ออกจากโรงเรียนกลางคัน และอาศัยอยู่ตัวคนเดียวในอพาร์ทเมนท์เก่าๆ โทรมๆ โดยไม่มีอาชีพและไม่มีรายได้ นอกจากการส่งเสียจากแม่เป็นพักๆ สิ่งเดียวที่เขารักคือเรื่องราวและประวัติของ จิมี เฮนดริกซ์ ที่เรียงรายระเกะระกะอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ ของเขาเท่านั้น

สตีเฟน ไทเลอร์

ส่วนพ่อลูกคู่นี้หลายคนน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี ลิฟ ไทเลอร์ นางเอกคนดัง เพิ่งจะรู้ความจริงเมื่อโตเป็นสาวแล้วว่า ร็อคปากกว้าง สตีเฟน ไทเลอร์ ฟรอนท์แมนแห่งวง Aerosmith คือพ่อบังเกิดเกล้าของเธอเอง โดย เบเบ บูเอลล์ อดีตกรุ๊ปปี้ตามวงดนตรี ให้เหตุผลที่ยอมเปิดปากบอกสาวลิฟในเรื่องนี้ว่า ต้องรอให้ดาราสาวโตพอที่จะยอมรับได้ว่า พ่อของเธอเป็นร็อคสตาร์ที่มีปัญหาพัวพันอยู่กับยาเสพติดเพราะไม่อยากให้ลูกสาวต้องจดจำพ่อของเธอเองในทางไม่ดี

แต่สิ่งที่หลายคนมักนำมาเป็นประเด็นอยู่บ่อยครั้ง ก็คือการเปรียบเทียบเสน่ห์และความเซ็กซี่ของสองพ่อลูก โดยเฉพาะความสวยคลาสสิคของ ลิฟ ไทเลอร์ ที่ดูเหมือนจะดึงแต่ส่วนดีๆ ของคุณพ่อปากกว้างมาแทบจะทั้งหมด  

ทอม โจนส์

ปิดท้ายกันที่คุณลุงเซ็กส์บอมบ์ ทอม โจนส์ ที่สมัยหนุ่มๆ ก็ไม่เบาเหมือนกันในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ โดยคุณลุงทอมเคยมีความสัมพันธ์ช่วงสั้นๆ กับนางแบบสาว แคทเธอรีน เบอร์ครีย์ เมื่อช่วงปลายยุค 60 ก่อนฝ่ายหญิงจะตั้งท้องแต่ก็ถูกทอม โจนส์ ปฏิเสธรับผิดชอบแบบไม่มีเยื่อใย กระทั่งปี 1987 ผลการตรวจ DNA ถึงได้ช่วยชี้ชัดให้ว่า โจนาธาน เบอร์ครีย์ (ขวา) คือลูกชายแท้ๆ ของเขา ซึ่งงานนี้ฝ่ายลุงทอมเลยต้องชดใช้ค่าเลี้ยงดูเป็นจำนวนมหาศาลไปตามระเบียบ