จอยซ์ ไทรอัมพ์ คิงดอม : วันวานที่อยากแก้ และวันนี้ที่ถูกสื่อรังแก
ครั้งหนึ่งเคยมีวงดนตรีคู่หูสองสาวที่เรียกได้ว่าปฏิวัติวงการเพลงไทยอย่างฮือฮา พวกเธอไม่ได้มีเสียงร้องที่ทรงพลัง ไม่ได้มีความเป็นดีว่าส์ แต่พวกเธอคือความกล้าของยุคนั้นที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแฟชั่นให้เป็นจุดขาย ภาคดนตรีที่เน้นจังหวะเต้นรำสนุกๆ เนื้อหาฟังสบายไม่คิดมาก มีท่อนฮุที่ติดปาก ขณะที่หลายคนอยากเลือกที่จะจดจำพวกเธอในฐานะ "เจ้าแม่สายเดี่ยว-เกาะอก"
ไทรอัมพ์ส คิงดอม คือพวกเธอ
แค่แฟชั่น ใส่ทุกวัน ฉันว่าไม่แปลก
โบ สุรัตนาวี สุวิพร และ จอยซ์ พรพรรณ รัตนเมธานนท์ นักร้องคู่หูเบอร์ต้นๆ ของค่าย โดโจ ซิตี้ ค่าย "ลูกสาว" ของ เบเกอรี่ มิวสิค ที่หากย้อนกลับไปในปี 2542-2545 ในหมู่เด็กสยามและวัยรุ่นที่ตามกระแส พวกเธอคือสัญลักษณ์ที่หากเป็นทุกวันนี้คงต้องเรียกว่า "ตัวแม่" แฟชั่นสายเดี่ยว กางเกงขาสั้นของโบ และกระโปรงยาวเกาะอกของจอยซ์ กับรองเท้าส้นตึกแบบสปอร์ตี้ สไตล์วัยรุ่นญี่ปุ่นย่านฮาราจูกุเป็นสิ่งที่หลุดออกมาจากแม็กกาซีน Katch มาโลดแล่นอยู่ในรายการเพลง มิวสิควิดีโอ และเวทีคอนเสิร์ต ในยุคนั้นผู้ใหญ่มองว่าพวกเธอดูแรงเพราะขายความน่ารักปนเซ็กซี่เล็กๆ ผิดกับนักร้องหญิงรุ่นเดียวกันที่ยังแต่งตัวมิดชิด
"โบไม่เคยไปต่างจังหวัด อย่างมากก็แค่ไปเชียงใหม่ โบไปเล่นคอนเสิร์ตต่างจังหวัดเยอะมาก ไม่เคยเห็น แบบว่าเฮ้ย! เราแปลกจริงๆ ด้วย ตอนแรกอยู่รวมกันกับเพื่อนๆ ที่สยามเราไม่คิดว่าเราแปลก ก็ทำให้รู้จักคนไทยมากขึ้น" เด็กสยามเต็มขั้น ย้อนเล่าให้ฟังถึงวันที่เริ่มจะโด่งดังจนมีทัวร์คอนเสิร์ตตามต่างจังหวัด
"โบไม่ได้เป็นคนตัดเสื้อผ้าเอง แต่คนก็ต่อต้านนะ ตอนนั้นอายุแค่ 17 ก็คิดว่าแค่ 'แล้วไง ฉันอยากใส่เสื้อกล้าม' แต่ยอมรับว่าการที่ถูกแอนตี้มันทำให้ทุกวันนี้โบไม่กล้าแต่งตัวโป๊ คนอื่นไปถึงไหนต่อไหน แต่โบหายไปเลย
พอเราโตเราก็คิดอย่างคนที่แก่มากขึ้น ผู้หญิงก็ต้องรักนวลสงวนตัวสิ ยอมรับว่าตัวเองแก่ขึ้นมาก"
ไม่คิดว่าจะดัง
อัลบั้ม Triumphs Kingdom คือผลงานชุดแรก ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าเพลง อย่าเข้าใจฉันผิด ที่นำทำนองบางส่วนมาจากเพลง จะกลายเป็นเพลงฮิตติดหูระบาดไปทั่วทุกผับเธค กระทั่งถึงยุคมิลเลนเนียม อัลบั้ม Twice TK พวกเธอกลับมาใหม่แต่แรงและใหญ่กว่าเก่า ใหญ่ในที่นี้คือคอสตูมที่จัดเต็ม เซ็กซี่และสั้นขึ้น เมื่อรวมกับเพลงฮิตที่ติดหูหลายเพลง จึงเรียกได้เต็มปากว่าพวกเธอแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากอัลบั้มนี้ แฟนเพลงทุกคนรู้จักเพลง อยู่นานๆ อีกนิด, อ้วน ที่ฟังสนุกลุกเต้นสบาย หรือเพลง งานเลี้ยง เพลงอกหักแบบมีสไตล์ รวมไปถึงเพลงที่เป็นตำนานของ TK นั่นคือเพลง ผ้าเช็ดหน้า
ไทรอัมพ์ คิงดอม ผ่านจุดสูงสุดสู่จุดที่เริ่มจะนิ่งในอัลบั้ม TK Vision (2544) ลุคของโบและจอยซ์ก้าวเข้าสู่ความเซ็กซี่แบบโตขึ้นกว่าเดิม แม้แต่ดนตรีก็ยังมีมิติที่น่าสนใจ แต่ผลตอบรับอาจไม่เปรี้ยงปร้างเท่าอัลบั้มชุดที่ 2 ความดังทำให้พวกเธอได้รับโอกาสชิมลางงานในด้านอื่นอย่างละครและภาพยนตร์ ความโดดเด่นของวงดูจะอยู่ที่โบที่มีทั้งงานแสดงและข่าวคราวรักๆ ใคร่ๆ ขึ้นๆ ลงๆ ขณะที่ จอยซ์ ดูจะเก็บตัวเงียบและโลกส่วนตัวสูงกว่า งานเพลงของ TK เริ่มสร่างซาลงไปจนถึงปี 2545 TK ก็ยุติวง ภาพลักษณืที่ดูแรงๆ ในตอนนั้นก็ทำให้หลายคนวิจารณ์สาเหตุเลิกวงกันไปต่างๆ นานา และแน่นอนว่า ไม่มีเรื่องดีเลยแม้แต่เรื่องเดียว
"กับข่าวที่เกิดขึ้น จอยซ์เสียใจมากแต่ร้องไห้ไม่ออก ส่วนใหญ่จะเก็บเอาไว้ไม่ค่อยแสดงออก แต่ก็ยอมรับว่าเคยท้อมาก แย่มาก จนรู้สึกว่าช่วงชีวิตหนึ่งตกสุดๆ มองไปทางไหนก็ไม่ดี ท้อจนรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองมันเหลือแต่ความว่างเปล่า ไม่ไปไหนมาไหน เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง แต่ซักพักหนึ่งเราก็คิดได้แล้วก็ให้กำลังใจตัวเอง มันก็จะผ่านพ้นไปด้วยดี" นี่คือบทสัมภาษณ์ของ จอยซ์ ที่เคยทิ้งไว้ครั้งหนึ่งก่อนจะถึงจุดเปลี่ยนที่ส่งผลต่อชีวิตที่เหลือของเธอเองโดยสิ้นเชิง
ช็อควงการยิ่งกว่าใส่สายเดี่ยว
หากเป็นสมัยนี้แฟชั่นของพวกเธออาจจัดว่ากลายเป็นความน่ารักเรียบร้อย แต่สิ่งหนึ่งที่กลายเป็นความด่างพร้อยและไม่มีวันปฏิเสธได้ คือการพัวพันยาเสพติดของ จอยซ์ ก่อนจะถูกจับและกลายเป็นข่าวที่ครึกโครมที่สุดแห่งปี แต่ที่ช็อคยิ่งกว่าเมื่อจอยซ์ถูกดำเนินคดี ศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง เธอจึงต้องชดใช้ความผิดอยู่ในเรือนจำนานกว่า 8 ปี
ไทรอัมพ์ส คิงดอม สลายหายไปกับกาลเวลา เด็กสาวร้องๆ เต้นๆ เป็นแค่ภาพที่เหลือแต่ความทรงจำ โบ สุรัตนาวี ยังคงวนเวียนในวงการบันเทิงกับอาชีพดีเจทางคลื่นเวอร์จิ้นฮิตซ์ตามที่ตัวเองถนัดและผันตัวไปเป็นคริสเตียนอุทิศตัวเองให้กับกิจกรรมทางศาสนา ข่าวคราวในอดีตของ จอยซ์ ถูกลืมเลือนไปบ้างตามประสาคลื่นลูกใหม่ๆ สร้างข่าวใหญ่กว่าซัดมาเป็นพักๆ กระทั่งเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) เมื่อศาลนัดพิจารณาคดี จอยซ์ พรพรรณ ได้รับอิสรภาพอีกครั้งจากบทเรียนชีวิตและเวลาที่อยู่ในเรือนจำ 8 ปี 10 เดือน แต่ถึงกะนั้น ก็ต้องยอมรับว่า เธอยังคงเป็นบุคคลสาธารณะคนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าจะดีหรือร้ายสื่อก็ยังขายข่าวเธอได้ และนี่เองที่นำมาซึ่ง 'ดราม่าบทใหม่' จากกรณีของจอยซ์ในครั้งล่าสุดนี้
ส่วนหนึ่งของผู้ติดตามข่าวที่เข้าไป "ระบาย" กับพฤติกรรมสื่อที่กระหายภาพข่าวของนักร้องสาวไทรอัมพ์ส คิงดอม จนลืมจรรยาบรรณ
กรณีศึกษาของ 'จอยซ์' กับพฤติกรรมสื่อไทยที่ควรประนาม
ในขณะที่อดีตนักร้องสาวก้าวพ้นจากเรือนจำ กองทัพนักข่าวที่ไปเฝ้าสังเกตการณ์ต่างหวังจะได้ภาพข่าวเด็ดจนถึงขนาดที่มีช่างภาพจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งถึงกับโดนรถเฉี่ยวเพื่อให้ได้ภาพก่อนใคร ขณะที่สื่อยักษ์ใหญ่ก็รุมกันใช้พาดหัวข่าวประเภทดักตีหัวแบบไม่แคร์จิตใจของเจ้าตัวและครอบครัว
"ชมภาพแรก “จอยซ์” พ้นคุกแล้ว หลบกล้องโดดขึ้นรถปรับเบาะนอน"
เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์สื่อจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ชาวเน็ตหลายคนบอกว่า เป็นการกระทำที่สมควรประนาม เพราะมองในแง่ของความเป็นผู้ต้องขังรายหนึ่ง ก็ควรจะให้เกียรติและทำข่าวตามสมควร มากกว่าจะเกาะติดทุกจังหวะ จนดูเหมือนว่า ไม่ต้องมีจรรยาบรรณในการทำข่าวก็ได้ แต่ขอให้ได้ภาพแรงๆ เพราะคำว่า "คุก" "เรือนจำ" "ยาเสพติด" และ "ไทรอัมพ์ส คิงดอม" ก็ถูกสื่อในยุคก่อนเก่าสร้างขึ้นมาในโทนแรงๆ พอๆ กัน จนสื่อยังหวังว่าหากจะแรงอีกสักครั้ง ยังไงก็ต้องขายได้
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ