ต้อม รัชนีกร : นาฏศิลป์คือชีวิต
เธอคือเจ้าของบทบาท ลำยอง ในละครเรื่อง ทองเนื้อเก้า เมื่อปีพ.ศ. 2540 เป็นลำยองรุ่นที่สองที่คนวัยกลางเก่ากลางใหม่ยังพอจะนึกภาพสาวหน้าหวานผิวเข้มสวมบทลำยองตีบทแตกกระจุยจนผู้ชมติดตาไปทั่วบ้านทั่วเมือง วันนี้ เมื่อทองเนื้อเก้า ถูกนำกลับมาปัดฝุ่นใหม่ ชื่อของเธอที่เคยห่างหายไปจากวงการบันเทิงก็กลับมาเป็นที่ถามถึงของผู้ชมอีกครั้ง หลายคนอยากรู้ว่าเธอกำลังทำอะไร วันนี้ เธอกลับมาเปิดใจ แต่ไม่ใช่ในแง่มุมของการแสดงหรือชีวิตส่วนตัว แต่เป็นอีกด้านหนึ่งที่ผู้ชมรุ่นใหม่อาจยังไม่ทราบว่า ต้อม รัชนีกร พันธุ์มณี เธอมีทักษะทางด้านนาฏศิลป์ไทยติดตัวมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ และเธอกำลังรื้อฟื้นวิชานาฏศิลป์ที่ทิ้งไปนานเกือบ 30 ปี บนเวทีเล็กๆ ปัดฝุ่นฝีมือฝึกซ้อมให้การแสดงเปิดงานโรงเรียนในฐานะตัวแทนผู้ปกครอง นี่คืออีกแง่มุมหนึ่งของนางเอกสาวที่ทำให้เราสนใจเธอ
นางรำ ในทำเนียบลำยอง
เช่นเดียวกับ แก้ว อภิรดี ภวภูตานนท์ ลำยองในตำนาน และ นุ่น วรนุช วงษ์สวรรค์ ลำยองน้องใหม่ ต้อม รัชนีกร ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ร่ำเรียนมาทางศาสตร์ของนาฏศิลป์ไทยโดยตรง ในอดีตเธอก็เคยฝากฝีมือนาฏศิลป์ไว้ในละครไทยมานับไม่ถ้วน จนกลายเป็นภาพจำของผู้ชมกับบทบาทนางรำในจอแก้ว
แม้วันนี้ เธอจะไม่ได้แสดงความสามารถด้านการรำในละครแล้ว แต่เมื่อมีโอกาส ก็ยังคงนำเอาวิชานาฏศิลป์มาใช้ในบทบาทอื่นอยู่เสมอ 15 ปีแล้วที่ไม่ได้รำ มโนราบูชายัญ นาฎศิลป์ไทยที่เคยใช้แสดงความสามารถบนเวที มิสทีนไทยแลนด์ เมื่อปี 2534 ประทับใจกรรมการจนคว้ารางวัลชนะเลิศมาครอง
การเติบโตมาในครอบครัวนาฎศิลป์เริ่มฝึกรำในวัยเพียงไม่กี่ขวบ พัฒนาฝีมือสู่นาฎศิลป์ชั้นสูง ก้าวสู่การเป็นครูสอนตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี แม้ผ่านมาเกือบ 30 ปี และไม่ค่อยได้แสดงทักษะที่ฝึกฝนมาเหมือนในอดีต แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความชำนาญและท่วงท่าที่อ่อนช้อยสวยงามลดลง
การเล่นหูเล่นตาสีหน้าและท่วงท่าที่เคลื่อนไหวอย่างอ่อนหวานของ "สา" เมื่อร่ายรำเป็นเสน่ห์ทำให้ท่านชายตกหลุมรัก ฉากสำคัญของ "อีสา - ระวีช่วงโชติ" ละครดังปี 2541 คือภาพจำของนางเอก รชนีกร พันธุ์มณี ที่ภายหลังยังฝากฝีมือนาฏศิลป์ไว้ในละครแทบทุกเรื่อง ไม่เพียงเป็นใบเบิกทางสู่วงการละคร หากยังเป็นทักษะพื้นฐานให้ ต้อม รชนีกร พัฒนาฝีมือด้านการแสดงได้ไม่ยาก นาฎศิลป์จึงไม่ใช่เพียงความสามารถพิเศษที่ติดตัวมา หากเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตที่ทำให้เด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งได้ก้าวสู่การเป็นนางเอก
ไม่ได้เรียนจบนาฏศิลป์ หากเพียงเรียนรู้จากครอบครัว คุ้นเคยและคลุกคลีอยู่ในวงการนาฏศิลป์ไทยมาตลอดชีวิต สอนศิษย์ทั้งในและนอกวงการมานับไม่ถ้วน ในวันนี้ที่นาฏศิลป์ไทยเริ่มไร้พื้นที่แสดงออก คนรุ่นใหม่สนใจน้อยลงมาก ขณะที่ระบบการศึกษาสายสามัญก็ไม่ได้สนับสนุนมากนัก ในฐานะคนหนึ่งที่เชื่อมั่นในคุณค่าและประโยชน์ของนาฏศิลป์ อดีตนางเอกวัย 42 ปี ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า ศิลปะไทยแขนงนี้ อาจหายไปจากสังคมไทยในไม่ช้า