แอ๊ด คาราบาว อยู่ที่ไหนเมื่อไทยขยับ!
ในขณะที่ศิลปินไทยทั้งนักร้องนักดนตรีและนักแสดงสร้างปรากฏการณ์พร้อมใจกันออกมาเดินหน้าคัดค้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ชนิดที่เรียกได้ว่าสร้างกระแสตื่นตัวอย่างมีสีสัน ศิลปินเพลงบางรายใช้โอกาสนี้ร่ายบทเพลงการเมืองเพื่อตอกย้ำจุดยืนและท่าทีที่มีต่อผู้บริหารประเทศอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา
ทว่าก็มีคำถามจากคนธรรมดา ฝากไปถึง "สัญลักษณ์แห่งเพลงเพื่อชีวิตเมืองไทย" อย่าง แอ๊ด ยืนยง โอภากุล และ คาราบาว ที่ดูเหมือนจะเก็บตัวเงียบเชียบผิดวิสัย ว่า คาราบาว พร้อมจะออกมารวมตัวกับเพื่อนศิลปินในความเคลื่อนไหวครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็ผิดคาดไม่น้อยเลยทีเดียว
"ตอนนี้กำลังทำงานเพลงอยู่" เป็นคำตอบแรกจาก แอ๊ด คาราบาว ในห้วงของพลังประชาชนที่พร้อมใจกันออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ในเวลาเดียวกันกับที่ คาราบาว เพิ่งจะเปิดตัวงานเพลงใหม่ชุดที่ 28 ที่ใช้ชื่อว่า สวัสดีประเทศไทย ในสังกัด วอร์เนอร์ มิวสิค เจ้าเก่า
โดย แอ๊ด สาธยายว่าอัลบั้ม สวัสดีประเทศไทย ถือเป็นผลงานชุดพิเศษของคาราบาว ซึ่งคงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันให้มากความ แถมในอัลบั้มชุดนี้ แอ๊ด ยังภูมิใจเสนอบทเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อสดุดีสันติภาพของสหภาพเมียนมาร์ ซึ่งแอ๊ด ยังถือโอกาสนี้สอนใจคนไทยว่า ให้ดูพม่าในปัจจุบันที่มีความสงบ มีสันติภาพ และมีประชาธิปไตยแล้วเป็นแบบอย่าง
"ก็ลองคิดดูแล้วกันว่าถ้าให้เราไปอยู่ที่อื่นเราจะเป็นยังไง เพราะเราอยู่ที่นี่เรามีที่อยู่เรามีงานทำ คงไม่มีใครอยากไปทำงานซาอุ ญี่ปุ่นหรอกครับ เพราะฉะนั้นถ้าเราอยู่ที่นี่เราก็ต้องช่วยกันทำให้เมืองไทยน่าอยู่ แต่เราก็ต้องยอมรับความจริงว่าบ้านเราบ้านเมืองกำลังเดินหน้า ก็มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน สงสัยคงต้องให้พม่าสอนมวยสักวัน"
นี่คือมุมมองของยอดศิลปินเพลงเพื่อชีวิตเมืองไทย เขากำลังมองประเทศไทยเป็นแบบนี้
เมื่อ คาราบาว แถลงข่าวเปิดอัลบั้มใหม่ ในจังหวะที่ตรงกับมีสถานการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้น ทุกคนย่อมอยากเห็น แอ๊ด'บาว สะท้อนมุมมองต่อสถานการณ์ที่เกิดในตอนนี้ เพราะความศรัทธาในบทเพลงเก่าๆ ของคาราบาวที่อยู่เคียงข้างคนไทยขับไล่นักการเมืองมากมายในอดีตยังติดตรึงหู แต่จากที่เห็นครั้งล่าสุดนี้ เชื่อว่าวิตามินบี 12 น่าจะมีส่วนช่วยให้มุมมองเกี่ยวกับบ้านเมืองของแอ๊ด คาราบาว อ่อนเบาลง โดยขุนเพลงเพื่อชีวิตบอกว่า ไม่ได้ติดตามสถานการณ์ของทั้งสองฝ่าย และไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จึงไม่สามารถออกความเห็นใดๆ ได้ และคงไม่สามารถออกไปร่วมคัดค้านกับเพื่อนศิลปินคนอื่นๆ ได้ เพราะกำลังยุ่งกับงานเพลงชุดใหม่อยู่พอดี!!!
"การนิรโทษกรรมผมก็ไม่รู้ว่าในรายละเอียดมันเป็นยังไง ผมเห็นคนทั้ง 2 ฝ่ายที่มีความเห็นต่างกันทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุน ต้องให้ผมไปดูในรายละเอียดก่อนผมถึงจะพูดได้ เพราะพูดอะไรไปเดี๋ยวจะผิด เรื่องออกไปต่อต้านร่วมกับคนอื่นๆ ก็คงไม่ครับ เพราะกำลังออกอัลบั้มเพลง"
ด้วยการงานที่ แอ๊ด บอกว่ารัดตัว จึงเป็นอันชัดเจนแล้วว่า คาราบาว จะไม่เข้าร่วมแสดงความเคลื่อนไหวร่วมกับพี่น้องชาวไทยในครั้งนี้อย่างแน่นอน แต่ถึงกระนั้น แอ๊ด ก็ยังฝากความห่วงใยไปยังทุกกลุ่มที่แสดงความเคลื่อนไหว คัดค้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรมด้วยว่า
""ก็อย่าให้มันรุนแรงแล้วกัน เพราะเราก็ใช้สิทธิในการเป็นประชาธิปไตย เพราะบ้านเมืองมันก็ต้องเปลี่ยนไปสิ่งใหม่ต้องมาแทนที่สิ่งเก่าอยู่แล้ว ก็ต้องให้ปรับไปพร้อมๆ กันเพราะอะไรที่เร่งรัดไปมันก็ไม่ถูก ประชาธิปไตยใครอยากออกก็ออก แสดงความคิดเห็นได้ แต่ผมไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ไม่อยากพูดอะไรมากเดี๋ยวพูดผิดก็ดูไม่ดี ไม่อยากตอบพลาด ขอกลับไปดูรายละเอียดก่อนก็แล้วกัน"
วันวานในฐานะคนดนตรีเพื่อชีวิตผู้จุดประกายความหวัง กับปัจจุบันที่เห็นและเป็นอยู่ของ คาราบาว
---------------------------------------------
ก่อนจากฝากทิ้งท้าย หากย้อนกลับไปมองหาบทเพลงแห่งประชาชนเพื่อประชาชนที่สะท้อนถึงความอดทนที่เดินทางมาสู่จุดสิ้นสุดทั้งเรื่องปากท้องและความแร้นแค้น มีบทเพลงหนึ่งของ คาราวาน จากอัลบั้ม ยูเอสเจแปน เมื่อปีพ.ศ. 2530 ที่ยังสะท้อนให้เห็นว่า 26 ปีผ่านไป ทุกข์ของคนไทยหน้าตาเคยเป็นอย่างไรก็ยังคงเป็นอย่างนั้นมาจนถึงปัจจุบันที่ความเสื่อมถอยของสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา และคุณภาพชีวิตที่สะท้อนออกมาเป็นคุณภาพนักการเมืองจนเหลืออดให้คนไทยทั้งหมดต้อง "ลุกขึ้นสู้" อย่างที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้
ขณะที่บางคนเลือกจะ "สู้" เพื่อตัวเองก่อนส่วนรวม ความคิดอ่านจึงสะท้อนความกำกวมในบทบาทของตัวเองที่เผยออกมา ในวันที่คนไทยถึงเวลา "ตาสว่าง" อย่างจริงจังเสียที