ETC : Back To The Past | Sanook Music

ETC : Back To The Past

ETC : Back To The Past
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ETC

เชื่อว่าสำหรับแฟนเพลงตัวยงของ ETC แล้ว ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา หลายคนอาจไม่ได้ตั้งใจจดจำว่าได้เปิดรับบทเพลงของ ETC เข้ามาสู่ชีวิตกี่เพลง เพราะคนรัก ETC ตัวจริง ย่อมไม่ปฏิเสธผลงานของพวกเขาแม้แต่เพลงเดียว ขณะที่อีกหลายคนก็บอกว่า ทุกเพลงของ ETC มีความหมายเสมอ

แล้วสำหรับคนทำคลอดแต่ละเพลงมาเองกับมืออย่างพวกเขา ระยะเวลา 10 ปี กับ 4 อัลบั้ม กับการทำให้แต่ละบทเพลงเป็นเพลงโปรดของใครๆ หลายคน ETC คือหนึ่งในวงดนตรีที่ผู้ฟังล้วนยอมรับว่าเข้มข้นด้วยคุณภาพ ไม่ว่าจะฟังผ่านซีดี หรือตามไปฟังสดๆ ติดขอบเวที

"10 ปี 4 อัลบั้ม ก็เท่ากับว่าเราทำเพลงไปแล้วประมาณ 40 เพลง" หนึ่ง-อภิวัฒน์ พงษ์วาท ย้อนคร่าวๆ เกี่ยวกับ 10 ปีในนามของ ETC คนฟังบางคนอาจตกใจที่เวลาผ่านไปเร็วนัก เพราะดูเหมือน ETC แทบจะไม่เคยหายไปไหน

"เราอาจจะไม่ได้ทำเพลงแบบต่อเนื่อง วางตารางไว้เท่านั้นเท่านี้ 1 ปีต้องออกหนึ่งครั้ง แต่เราจะทำเมื่อทุกอย่างลงตัว เราพร้อมที่จะทำเพลงกันแล้ว หรือมีแรงบันดาลใจใหม่ๆ แล้ว"

เหมือนที่ โซ่-แมนลักษณ์ ทุมกานนท์ ได้บอกไว้ว่า ETC เป็นวงที่ไม่เคยอยู่กับที่ เพลงของพวกเขาเกิดจากการมองไปรอบๆ ตัวว่าในแต่ละยุคแต่ละสมัย ทิศทางของดนตรีเป็นไปอย่างไร

"ตั้งแต่วันแรกของปีที่หนึ่ง จนถึงวันนี้ของปีที่ 10 กระแสเพลงมันเปลี่ยนไปพอสมควร แต่เราไม่เคยย่ำอยู่กับที่ พอมาถึงวันนี้ เราก็รู้สึกว่า มันเป็นเรื่องน่ายินดีที่เรายังสามารถอยู่ในกระแสได้"

เมื่อ ETC ทบทวนความสำเร็จ

จุด "เปลี่ยน" สำคัญของ ETC สมาชิกในวงทุกคนลงความเห็นว่า อัลบั้ม "เปลี่ยน" เมื่อปี พ.ศ. 2550 (ในสังกัด เคพีเอ็น มิวสิค ขณะนั้น) คือก้าวสำคัญที่ทำให้ ETC มีวันนี้ และอัลบั้ม Bring It Back ในปีต่อมา คือการตอกย้ำว่าพวกเขาคือตัวจริง ด้วยความสำเร็จอย่างท่วมท้นทั้งชื่อเสียงและรางวัลการันตีจากหลายสถาบัน (ศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม จากเวทีคมชัดลึกอวอร์ด รวมถึงอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี Fat Awards ครั้งที่ 9) 

 

"ถ้าย้อนไปที่จุดเริ่มต้นของเราจริงๆ คือเพลง เจ้าชายนิทรา จากอัลบั้ม Etc. เมื่อปี 2004 จากจุดนั้นทำให้เราได้เรียนรู้คนฟังเพลงว่าเขาชอบอะไร เพราะจาก 10 เพลงในอัลบั้มนั้น เพลงนี้ต้องถือว่าเป็นเพลงสร้างชื่อให้กับเราในระดับหนึ่ง ก็เริ่มหาจุดที่เป็นสำเนียงของวงเราในการที่จะทำเพลงต่อๆ ไป เมื่อออกมาเป็นอัลบั้มที่ 2 ซึ่งมีเพลง เปลี่ยน กับ เธอคือใคร ก็ยิ่งชัดเจนว่า ลายเซ็นที่เราเลือก เราได้เลือกในสิ่งที่ใช่แล้ว"

ความสำเร็จที่ได้รับคือผลตอบแทนการทำงานของ ETC ที่ล้ำค่าอย่างหนึ่ง แต่ในอีกด้านของความสำเร็จในขณะนั้น ETC บอกว่า เป็นความภูมิใจที่ตลอดทุกขั้นตอนของการทำงาน พวกเขาลงแรงกันเอง 100% ร่วมกับเพื่อนๆ ที่เล่นดนตรีด้วยกันมาจากเชียงใหม่ ซึ่งในฐานะของคนทำงาน ไม่มีอะไรจะตอบแทนความสำเร็จทั้งหมดได้เท่านี้

"เราได้ พี่ปิง (วง am pm) มาช่วยเขียนเนื้อร้องให้ในเพลง เธอคือใคร กับ แมค อะแคปเปลลา เซเว่น (ศรันย์ วงศ์น้อย) ที่เขาแต่งเพลง เปลี่ยน มาให้เราลองฟังดู เราฟังแล้วเราก็ชอบ ก็เลยเอามาทำต่อ ซึ่งที่สุดแล้ว เพลงนั้นคือเพลงที่เปลี่ยนชีวิตพวกเรา ETC จริงๆ จะเรียกว่ารายชื่อที่เอ่ยมาคือทีมแต่งเพลงร่วมกับพวกเราในตอนนั้นก็ได้ พอกระแสเริ่มมา พอเราเริ่มมี momentum มีเพลงเปิดทางวิทยุ ในเว็บไซต์มีคนพูดถึง ก็เริ่มจะรู้สึกว่า ETC ของเราเริ่มจะเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาแล้ว"

เธอคือใคร เพลงฮิตของ ETC ที่นำความสำเร็จมากมายมาสู่พวกเขาจนถึงปัจจุบัน

งานชุกจนถูกยกให้เป็น "คลื่นใต้น้ำ"

โซ่ เล่าเสริมต่อไปว่า จากที่เริ่มจะมีคนรู้จัก ETC มากขึ้นในตอนนั้น (ความจริงแล้วตอนนั้นพวกเขาจัดว่าดังเกินกว่าที่พยายามถ่อมตัวว่า แค่เริ่มมีคนรู้จัก) งานแสดงสดอีกมากมายก็ค่อยๆ ตามมา ซึ่งเข้าทาง ETC ที่มีประสบการณ์ระดับหนึ่งตั้งแต่ตระเวนเล่นดนตรีกลางคืนอยู่ที่เชียงใหม่ การได้มีโอกาสแสดงสดบ่อยครั้ง ทำให้ ETC เริ่มมองเห็นทิศทางใหม่ๆ ที่จะนำมาใช้ในการทำอัลบั้มชุดที่ 3 "Bring It Back" ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงและความจัดจ้านมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

"เรามีเพลง อย่าถาม เป็นเพลงเปิดอัลบั้ม เพลงนี้ พี่บี-โสตถินันท์ ไชยลังการณ์ มือซินธิไซเซอร์ของเราแต่งไว้" (โซ่ส่งต่อความอยากรู้ข้อนี้ไปให้เจ้าของเพลงที่นั่งอยู่ข้างๆ ช่วยอธิบาย)

"เพลงนี้จริงๆ แล้ว มันมีความกดดันอยู่พอสมควรจากชุดที่ 2 ที่ฟีดแบ็คออกมาดี อัลบั้มชุดที่ 3 เป็นอัลบั้มที่ ETC ใช้เวลาทำค่อนข้างนานพอสมควร ในตอนนั้นเหมือนเราแบกภาระฟีดแบ็คที่ดีจากอัลบั้ม เปลี่ยน มันก็เลยเป็นความท้าทายของพวกเราทั้งหมดว่าจะทำอย่างไรให้ชุดนี้ออกมาดีขึ้น ดนตรีก็ต้องดีขึ้น เนื้อหาก็ต้องทำให้เข้าถึงคนฟังมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็น่าภาคภูมิใจ เพราะต่อมาอัลบั้ม Bring It Back ก็ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่น่าดีใจ"

เพลง อย่าถาม ซิงเกิ้ลเปิดอัลบั้มชุดที่ 3 ที่ทำให้หลายคนฮือฮา และนำมาซึ่งความสำเร็จอีกขั้น

อัลบั้ม Bring It Back เปลี่ยนโฉม ETC จากวงดนตรีที่มีผลงานเพลงในระดับที่คนฟังรู้จัก ไปสู่อัลบั้มที่หลายคนอยากมีไว้ครอบครอง ทีมงานเบื้องหลังทั้งในห้องอัดและโปรดักชั่นสวยๆ ช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนถึงความตั้งใจ ศิลปินรับเชิญที่เข้ามาแจมก็ล้วนแล้วแต่เป็นตัวจริงในวงการเพลงยุคนี้ ตั้งแต่ โก้ มิสเตอร์แซ็กแมน จนถึง เจนนิเฟอร์ คิ้ม ที่มาช่วยร้องรับเชิญในเพลง สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าหัวใจ 5 ปีผ่านไป อัลบั้มนี้ยังคงถูกหยิบมาฟังใหม่ไม่เว้นแต่ละวัน

ผลที่ตามมาจากความสำเร็จสูงสุดของ Bring It Back ทำให้ ETC มีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเอง มีตารางทัวร์แน่นตลอดทั้งปี น่าตกใจไม่น้อยที่นับนิ้วแล้ว ETC ใช้เวลาไปกับการทัวร์และงานแสดงสดต่างๆ ถึง 3 ปี ซึ่งน่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่พวกเขาทิ้งช่วงจากอัลบั้มที่ 4 ไปนานพอสมควร

การกลับมาในอัลบั้มที่ 4 มีหลายสิ่งเปลี่ยนไปในขั้นตอนการทำงาน โดยเฉพาะกระบวนการผลิตที่ ETC กลับมาพร้อมกับยุคที่พฤติกรรมการบริโภคดนตรีเปลี่ยนไปอย่างน่าใจหาย การปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของคนฟัง ขณะที่การทำงานในห้องอัดก็มีมาตรฐานที่สูงจากอัลบั้มก่อนๆ คอยกดดันอยู่ สุดท้ายแล้ว อัลบั้ม Push ก็คลอดออกมาท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและจุดพลิกผันมากมาย ซึ่งเรื่องราวทั้งหมด ETC ขอเก็บไว้เล่าให้ฟังอย่างละเอียดใน Top Artist ตอนต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook