ทึ่ง! แตงโม ปิดรอบ Knock Out สุดพลังใน The Voice Thailand Season 2
ปิดฉากไปเรียบร้อยสำหรับรอบ Knock Out ของ The Voice Thailand Season 2 ที่ผ่านไปใน 2 สัปดาห์ ก็ได้บทสรุปของผู้ที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบ Live ซึ่งเป็นรอบที่ผู้ชมทางบ้านจะได้มีส่วนร่วมในการค้นหา เสียงจริง ตัวจริง ของประเทศไทยในปีที่ 2 ซึ่งแต่ละคนที่ผ่านเข้ารอบ Live ไปนั้น ต้องเรียกว่า น่าดูชมและน่าลุ้นกันทุกคนจริงๆ
ในสัปดาห์ที่ 2 ของรอบ Knock Out เป็นคิวของทีมโค้ชก้อง และ ทีมโค้ชแสตมป์ ที่ลูกทีมของทั้งคู่จะต้องมาประชันกันชิงพื้นที่เข้าสู่รอบ Live เริ่มดันที่คู่คุณแม่ของทีมโค้ชแสตมป์ คุณแม่เสียงเก๋ เมย์ ฝนพา ปราโมช ณ อยุธยา เลือกเพลง A Thousand Years ประกบคู่กับ ผึ้ง เปมิกา โทณะวณิก ที่เลือกเพลงโปรดส่วนตัว Let's Stay Together มาดวลกัน ทำเอาโค้ชทั้งสี่ถึงกับทึ่ง แต่คุณแม่ที่สร้างความตื่นตะลึงคือคุณแม่เมย์ ที่เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอจับใจโค้ชทุกคน
คู่หูมือกีตาร์เสียงเท่จากทีมโค้ชก้อง แก๊ป ชโนวัจน์ พิริสัยสันติ มากับเพลง ล้มบ้างก็ได้ ต้องปะทะกับสาวที่ทุกคนลงความเห็นว่ามีน้ำเสียงที่บาดลึกถึงอารมณ์อย่าง นิค ญาดา วงษ์ยี่หวา ที่หมายจะข่มด้วยเพลงสากล Let It Be แต่หนึ่งเดียวที่โค้ชก้องยอมรับว่าเอาเพลงได้อยู่หมัด โอกาสในรอบหน้าจึงเป็นของแก๊ปไปในที่สุด
ของดีอีกหนึ่งคู่จากทีมโค้ชแสตมป์ คือการปะทะกันของ สงกรานต์ รังสรรค์ ปัญญาเรือน ที่มาแปลกกว่าทุกรอบในการเลือกเพลงสากลอย่าง Apologize มาขับเคี่ยวกับ กิ๊ฟ อัญชิษฐา พงษ์ศิริยาภรณ์ ในเพลง Butterfly สองคนสองสไตล์แต่ไม่มีใครด้อยกว่าใคร สร้างความหนักใจให้กับโค้ชแสตมป์ ที่ท้ายสุด ก็เลือก สงกรานต์ ให้ได้ผ่ายเข้าสู่รอบ Live
คู่เคมีต่างจากทีมโค้ชก้อง เก่ง ณัฐิฏา ศรียานนท์ ตัวแม่อีกคนหนึ่งในซีซั่นนี้ ทำให้หลายคนแปลกใจ ทั้งการเลือกเพลง ไว้ใจ ที่ไม่น่าจะใช่เพลงที่เปิดโอกาสให้ได้งัดฝีมือมาใช้ได้เต็มที่นัก และแปลกใจยิ่งขึ้นเมื่อถูกประกบคูกับ โอปอล์ ประพุทธ์ พิมพามา ที่ทำให้ใครต่อใครได้ทึ่งกับเพลง I Won't Give Up ที่ภาษาของโค้ชเรียกว่า "เพลงเข้าปาก" ทั้งยังสร้างเซอร์ไพรส์กับการร้องที่เอาเพลงอยู่ แต่การร้องแบบ hit note อาจยังไม่ใช่คำตอบสำหรับโค้ชก้องที่ต้องการคนที่เข้าถึงอารมณ์เพลงจริงๆ จึงส่งให้ เก่ง เข้าสู่รอบ Live ท่ามกลางความข้องใจของผู้ชมกับการประกบคู่ที่ต่างขั้วกันขนาดนี้
ตัวแทนคู่แข่งจอมสร้างสรรค์จากทีมโค้ชแสตมป์ โอม ณภัทร ศิรินิล มากับเพลง Stand By Me ที่โค้ชลงความเห็นว่า ร้องได้เหมือนเป็นเจ้าของเพลงตัวจริง ประกบกับสาวเปรี้ยวเท่ เบ็น ปัณจภรณ์ เอี่ยมวิจารณ์ ที่ฉีกสไตล์ผู้เข้าแข่งขันทั่วไปด้วยการเลือกเพลงแดนซ์เต็มยศอย่าง We Found Love มาแข่ง แต่ความได้เปรียบในเพลงที่เลือกและการเข้าถึงบทเพลง ตกเป็นของ โอม ที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบ Live ต่อไป
พลังชาวร็อคจากทีมโค้ชก้อง อยู่ที่การประกบกันอย่างถูกคู่ของ ต้า คีตา อินทรสูตร เลือกเพลง ผิดที่ไว้ใจ หวังแผดพลังเสียงเต็มที่ ขณะที่ แซม เสริมศาสตร์ เดอ โรซาริโอ เลือกได้ฉลาดกับเพลง We Are The Champions ที่ส่งให้สร้างสรรค์การร้องได้หลากหลายมากกว่าการแผดเสียงแหลมสูง จึงทำให้ แซม มีภาษีที่เหลือกว่าและผ่านเข้ารอบไปได้อย่างสบาย
ไฮไลท์สองคู่สุดท้ายจากสองทีม ทุกคนจับตามองที่ลูกทีมโค้ชแสตมป์ ตุ๊กตา จมาพร แสงทอง ผู้เข้าแข่งขันที่โดดเด่นและโด่งดังจากรายการนี้มาตั้งแต่รอบแรก มากับเพลง Angel ที่เป็นเพลงโปรดส่วนตัว หลายคนคาดว่าอาจเป็นงานยกสำหรับคู่แข่งอย่าง ปอย เอื้องปอย บุญมา ที่เลือกเพลง ดาว มาร้อง ความสามารถและการพัฒนาของ ปอย ทำให้โค้ชทุกคนชื่นชม โดยเฉพาะโค้ชแสตมป์ที่ให้กำลังใจลูกทีมตัวเองว่า เด็กคนนี้มีความสามารถและไม่ธรรมดา แต่ผลก็ออกมาไม่ผิดจากที่หลายคนคาดไว้ โอกาสเข้าสู่รอบ Live ตกเป็นของ ตุ๊กตา ที่หมายกันว่า จะเป็นคนหนึ่งที่ผู้ชมพร้อมจะถล่มคะแนนโหวตให้กับเธอในรอบต่อไป
คู่ปิดรอบ Knock Out ที่น่าประทับใจและได้คะแนนเต็มคือคู่ของหนุ่มเอลวิส อั้มพ์ ณภัทร แก้วดวงใจ มากับเพลงโปรดเข้าทาง Jailhouse Rock กับดีว่าสาวจอมเอนเตอร์เทน แตงโม วัลย์ลิกา เกศวพิทักษ์ เลือกเพลงไม้ตาย And I'm Telling You (I'm Not Going) ทั้งคู่ทำได้เด็ดขาดในแนวทางของตัวเอง แต่ภาษากายและการถ่ายทอดอารมณ์ที่ครบเครื่องของ แตงโม พิชิตตั๋วเข้าสู่รอบ Live ชนิดที่หลายคนต้องยกนิ้วให้ และถือเป็นการปิดฉากรอบ Knock Out ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
อัลบั้มภาพ 57 ภาพ