รู้จัก 4 ว่าที่ The Voice Thailand Season 2
วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคมนี้ก็จะถึงรอบ Final ของรายการ The Voice Thailand Season 2 ซึ่งจะเป็นการตัดสินว่าใครจะได้เป็น The Voice เสียงจริง ตัวจริง คนที่ 2 ของประเทศไทย
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น หลายคนอาจจะอยากทำความรู้จักกับผู้เข้าแข่งขัน 4 คนสุดท้ายจาก 4 ทีมให้มากขึ้น เพราะ 1 ใน 4 คนนี้ ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นขวัญใจของมวลมหาชนคนใหม่ พร้อมกับอนาคตในวงการเพลงที่สดใสรออยู่ข้างหน้า
รังสรรค์ ปัญญาเรือน (สงกรานต์)
หนุ่มหนวดงามจากเมืองย่าโมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจตั้งแต่รอบ Blind Audition ด้วยเพลง พระเจ้าตาก ด้วยเสียงร้องที่เฉียบขาดบวกลีลาเร้าใจควงขาไมค์ตลอดเวลาทำให้เจ้าตัวเป็นผู้เข้าแข่งขันที่มีเอกลักษณ์ที่ติดตาคนหนึ่งในปีนี้
แม้ เส้นทางการเป็นนักร้องของสงกรานต์จะไม่ได้มีภาษีเหมือนคนอื่นๆ ที่ร้องเพลงอาชีพหรือร่ำเรียนมาโดยตรง แถมยังมีอาชีพหลักเป็นพ่อค้าขายลูกชิ้น แต่ตัวแทนจากทีมโค้ชแสตมป์คนนี้กำลังเป็นว่าที่ The Voice ที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม ด้วยกระแสความนิยมชมชอบที่ล้นหลามในอินเทอร์เน็ตมากที่สุดในขณะนี้
วัลย์ลิกา เกศวพิทักษ์ (แตงโม)
สาว รสแซ่บลีลาแสบสันต์ น้ำเสียงคุณภาพระดับมืออาชีพคนนี้ไม่บอกคงไม่มีใครเชื่อว่าเธออายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น แต่ด้วยประสบการณ์ร้องเพลงกลางคืนเป็นอาชีพ ทำให้แตงโมสั่งสมวิชาในทุกๆ วัน บวกกับพรสวรรค์ซึ่งปฏิเสไม่ได้อีกเช่นกันว่าเธอก็มีพร้อม ทำให้เธอฝ่าด่านคู่แข่งในรอบ Battle และรอบ Knockout ได้แบบไม่เสียเหงื่อ จนมาถึงรอบ Live ที่เธอสะกดหัวใจผู้ชมไว้ตลอดโชว์ กลายเป็นเพชรเม็ดคุณภาพจากทีม โค้ชก้อง ที่ทุกคนไม่อาจมองข้ามได้ในรอบตัดสิน
กิตตินันท์ ชินสำราญ (กิต)
หลายๆ คนเรียกเขาจนติดปากว่า "ครูกิต" ตามตำแหน่งหน้าที่ในฐานะอาจารย์ภาควิชาดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งก็ทำให้เจ้าของเสียงเทเนอร์ทรงพลังคนนี้ถูกจับตามองตั้งแต่ผ่านรอบ Blind Audition ด้วยเพลง My Way บวกกับความชอบลองและชอบความท้าทายแบบไม่ยอมให้เสียชื่อลูกทีมโค้ชโจอี้ บอย จอมสร้างสรรค์ ไม่ว่าโจทย์เพลงที่ได้รับจะเป็นแนวแดนซ์ แร็ป หรือแม้กระทั่งลูกกรุง ครูกิตของผู้ชมก็ประยุกต์เข้ากับเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างน่าสนใจ แม้จะไม่ได้โดดเด่นในแง่ของคะแนนมหานิยมเท่าคนอื่นๆ แต่ ณ จุดนี้ ไม่ควรประมาทฝีมือของเขาในรอบ Final เป็นอันขาด
กฤษดา พิเศษพัฒนกุล (นัท)
อดีต สมาชิกวง แปดไม้เท้า วงอินดี้กลางเก่ากลางใหม่ ทำให้หลายๆ คนเซอร์ไพรส์ด้วยบุคลิกที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ตรึงผู้ชมไว้ด้วยเสียงร้องที่จัดว่าเป็นพรสวรรค์ล้วนๆ และจับใจใส่อารมณ์สุดๆ ในทุกโจทย์เพลง จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาสามารถยืนหยัดจนถึงรอบ Final ได้ในขณะที่ยังมีเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ที่โดดเด่นกว่าในการแสดงออก หลายคนที่ติดตามรายการมาตั้งแต่เทปแรก อาจวิจารณ์การทำทีมของโค้ชเจจนิเฟอร์ คิ้ม ในทุกสัปดาห์ แต่การเลือก นัท ให้เป็นตัวแทนของทีมในรอบตัดสิน อาจเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดของโค้ชคิ้มที่หลายๆ คนต้องยอมรับก็เป็นได้