เจมส์จิ-เต้ย จับไมค์ร้อง ไกลแค่ไหนคือใกล้ ใส่จอ Timeline
นอกจากเป็นคู่พระนางขวัญใจวัยรุ่นแห่งยุคที่ได้รับการยอมรับว่าฮอตที่สุดในนาทีนี้ เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข และเต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ ซึ่งถูกเลือกมากับมือโดยผู้กำกับระดับแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ให้มารับบท แทน-จูน 2 ตัวละครสำคัญที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวความรักความทรงจำของผู้คนในยุคปัจจุบันที่ชีวิตเกี่ยวพันและได้รับอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียและสื่อออนไลน์ที่อยู่รายล้อมรอบตัวอาทิ เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์, ไลน์, วีแชท, ว๊อทแอพส์ ฯลฯ ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิต, จุดประกายความคิดความฝันโดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักใน TIMELINE จดหมาย ความทรงจำ ภาพยนตร์รักโรแมนติคเรื่องล่าสุดของสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล ที่มีโปรแกรมเข้าฉายในวันที่ 13 ก.พ.นี้ ได้เตรียมเซอร์ไพรส์พิเศษที่ตั้งใจมอบให้เป็นของขวัญต้อนรับเทศกาลปีใหม่สำหรับแฟนๆ ที่ทั้งเจมส์-เต้ยรวมไปถึง ผกก. อุ๋ย-นนทรีย์ ตั้งใจมอบให้แฟนๆ อีก 1 ชิ้นนั่นคือ บทเพลง ไกลแค่ไหนคือใกล้ ประกอบภาพยนตร์จากเสียงร้องของทั้งคู่ ที่แอบลัดคิวงานอันยาวเหยียดก่อนปีใหม่ย่องเข้าห้องอัดบันทึกเสียงเสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยโดยได้ คชภัค ผลธนโชติ หรือ พล วง Clash ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์เพลงต้นฉบับจากเสียงร้อง GETSUNOVA มารับหน้าที่โปรดิวเซอร์ติวเข้มและควบคุมการร้องทั้งเจมส์และเต้ยด้วยตัวเอง
"สวัสดีปีใหม่นะคะ ปีนี้ปี 2557 แล้ว เต้ยก็ขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขคิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนา มีสุขภาพที่แข็งแรง แล้วก็ในปีนี้ขอให้มีแต่เรื่องดีๆ และมีแต่ความสุข เต้ยมีของที่จะมาฝากในช่วงปีใหม่ด้วยนั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Timeline หวังว่าทุกคนก็จะรอคอยกันอยู่ แล้วก็มีของขวัญพิเศษอีกหนึ่งอย่างที่อยากจะมอบให้นะคะ ไม่รู้ว่าพิเศษกับทุกๆ คนรึเปล่า แต่ว่าพิเศษสำหรับเต้ยมากๆ เลยค่ะ เต้ยได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ด้วยค่ะ
เพลง ไกลแค่ไหนคือใกล้ เป็นเพลงของวง GETSUNOVA ซึ่งเป็นเพื่อนของเต้ยเอง เต้ยก็ดีใจมากๆ แล้วเพลงนี้ก็ดังมากๆ เต้ยก็รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากๆ นะคะ ที่ได้มาร้อง cover เพลงนี้ เพราะว่าเป็นเพลงของตัวละครของเต้ยค่ะ ตอนแรกที่อ่านบทหนังเรื่องนี้แล้วเต้ยก็รู้สึกได้เลยว่าเพลง ไกลแค่ไหนคือใกล้ เป็นเพลงของตัวละครของเต้ยจริงๆ ก็คือจูน และเพลงนี้น้องเจมส์ร้องเองด้วย น้องเจมส์เสียงเพราะมากค่ะ ตอนแรกพี่อุ๋ยเขาคงชั่งใจอยู่นานว่าจะให้เต้ยร้องเพลงนี้ดีมั้ย แต่ก็รู้สึกดีขึ้นไปอีก เขาก็ว่าเรียกไงดีเชื่อมั่นเหรอ น่าจะกัดฟัน เขาก็คงจะลองร้องดูก็ได้ แล้วก็ให้ร้องเพลงนี้ด้วย"
ก่อนหน้าทั้ง เจมส์ และ เต้ย ได้ผ่านการถ่ายทอดในบทบาทของตัวละครผ่านการแสดงมาแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้พิเศษกว่าตรงที่ผู้กำกับ อุ๋ย-นนทรีย์ ตั้งใจให้นักแสดงทั้งคู่ต้องสื่อสารถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครผ่านการให้เสียงร้องในบทเพลงแทน โดยตั้งใจให้ปรากฎอยู่ในฉากไฮไลท์สำคัญที่เกิดขึ้นกับตัวละครในภาพยนตร์ ที่รับประกันว่าจะเป็นอีกหนึ่งฉากที่จี๊ดลงตรงกลางใจของผู้ชมอย่างแน่นอน
"สำหรับเจมส์นะครับ สิ่งสำคัญที่เซอร์ไพรส์มากๆ ตรงที่พี่เต้ยมาร้องเพลงครับ (หัวเราะ) เพราะพี่เต้ยเคยบอกว่าปกติพี่เต้ยไม่มาร้องเพลงแต่กลายเป็นว่าพี่เต้ยมาร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ก็ไม่รู้ว่าจะอินหรือฮาดี (หัวเราะ) แต่ว่ามันคือความทุ่มเทของพี่เต้ยเองหรือของภาพยนตร์ที่พี่อุ๋ยเขาคอยใส่ใจและมีไอเดียว่า ถ้าเกิดมีเสียงของตัวละครในเรื่องร้องขึ้นมาจริงๆ แล้วนำมาประกอบภาพยนตร์ใน 1 ซีนหรือว่าในหลายๆ ซีนก็ตามแล้วถ้ามันจะช่วยโอบอุ้มอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครให้มันมีความแน่นมากขึ้น ก็เลยเป็นที่มาที่เราจะได้เห็นเจมส์กับพี่เต้ยที่นอกจากจะมีการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมาผ่านการแสดงงภาพยนตร์ให้ทุกคนได้เห็นกันได้รู้สึกจริงๆ ในการสวมบทตัวละครแทนกับจูนแล้ว ก็ยังมีโอกาสถ่ายทอดอารมณ์ผ่านทางบทเพลงที่จะทำให้ทุกคนได้รู้สึกว่า บทเพลงก็สามารถทำให้เรารู้สึกกับตัวละครได้"
นอกจากเนื้อหาที่สื่อความหมายถึงระยะห่างของความใกล้ชิดในความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวยุคนี้ที่ตรงกับความสัมพันธ์ของ 2 ตัวละครเจมส์และต้นแล้ว ยังกล่าวได้ว่าเป็นบทเพลงๆ เดียวในประวัติศาสตร์เพลงไทยที่มียอดผู้ฟังกดไลค์ให้เพลงนี้ในโซเชียลเน็ตเวิร์คไปแล้วถึง 96 ล้านวิว