Exclusive โบ จอยส์ Return Of The Triumphs Kingdom | Sanook Music

Exclusive โบ จอยส์ Return Of The Triumphs Kingdom

Exclusive โบ จอยส์  Return Of The Triumphs Kingdom
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผ่านมาเกือบสองทศวรรษถ้าจะให้สำนักโพล ไปทำการสำรวจความคิดเห็น ว่าคนไทยคิดถึง นักร้องคนใด และอยากให้เขารีเทิร์นสู่วงการบ้าง GM เชื่อมั่นว่า Triumphs Kingdom จะต้องติดอยู่ในโผลำดับต้นๆ สุรัตนาวี สุวิพร (โบ) และ พรพรรณ รัตนเมธานนท์ (จอยซ์) สาวน้อยจากค่ายเพลง "โดโจ ซิตี้" สังกัด "เบเกอรี่มิวสิค" โด่งดังเป็นพลุแตกในเวลาอันรวดเร็ว จากสไตล์การแต่งตัว การเต้น และแนวเพลง พวกเธอเคยมีเพลงยอดนิยมมากมายร้องกันติดปาก เช่นเพลง อย่าเข้าใจผิด ผ้าเช็ดหน้า อ้วน จนกระทั่งพวกเธอทั้งสองห่างหายไปจากแวดวงดนตรี และไม่ได้กลับมาร่วมงานกันอีกเลย

เราเพิ่งสืบทราบข่าวดีว่าค่ายเพลง "โดโจ ซิตี้" และ "วงบีไฟว์" กำลังจะจัดคอนเสิร์ตใหญ่สไตล์เรโทรขึ้น โดยแน่นอนแล้ว ว่านี่คือโอกาสแรกในรอบสองทศวรรษที่หนุ่มๆ จะได้เจอพวกเธอ Triumphs Kingdom กันอีกครั้ง GM รีบนัดเจอสองสาวที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ดูไม่คิขุ อาโนเนะเหมือนเก่าอีกต่อไป พวกเธอสุขุมนุ่มลึกในทางความคิด และมานั่งพูดคุยกันเพื่อรำลึกความหลัง และบอกเล่าถึงความใฝ่ฝันในชีวิตให้เราฟัง เราใช้เวลาร่วมกันตลอดทั้งบ่าย จนกระทั่งหายคิดถึงกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว หนุ่มสาวรุ่นผมหลายคน บอกว่าพวกคุณสองคน ไทรอัมพ์ส คิงดอม นี่เป็นตำนานแห่งวงการเพลงไปแล้ว

GM บอกกับพวกเธอ โบกับจอยซ์หัวเราะฮาขึ้นมาพร้อมกันดูเหมือนคำว่า "ตำนาน" จะทำให้พวกเธอดูแก่เกินไปสักหน่อยอีกทั้ง การห่างหายไปจากวงการอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ออกผลงาน ร่วมกันมาแค่ 3 อัลบั้ม ทำให้กลายเป็นความทรงจำสั้นๆ อันรางเลือน "คือเราทำงานด้วยกันมาตั้งแต่อายุ 16-17 จนช่วงหนึ่งก็รู้สึกว่าอิ่มตัวเกินไป เราทั้งสองเริ่มรู้สึกว่าเป็นทางตัน คิดไม่ออกแล้ว สุดท้ายแยกตัวกันไปทำอย่างอื่น เล่น ละครบ้าง อะไรบ้าง ตามประสา คือเราตัดสินใจร่วมกัน และเราต้องการหยุดเอง เพราะเป็นจุดที่รู้สึกว่าเราอิ่มตัว การกลับมาคราวนี้ ถ้าจะให้จริงๆ ก็คือรู้สึกคิดถึงแต่เรา ยังไม่มีไอเดียอะไรมากนัก ถ้าให้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตเพื่อ ร้องเพลงบ้าง พวกเราก็โอเคอยู่ แต่ถ้าให้เราทำอัลบั้ม ใหม่เลย ก็ไม่ไหวนะ เราคิดว่ามันไม่ใช่ยุคของเราแล้ว” โบ สุรัตนาวี กล่าว

"คือแก่แล้วละ ยอมรับ" (หัวเราะ) จอยซ์ พรพรรณ นั่งฟังเพื่อนสนิทไปสักพัก แล้วก็ช่วยแทรกเข้ามาวงการเพลงไทยเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็ว ตั้งแต่ที่ครั้งหนึ่งสมัยหนึ่ง นักร้องต้องเติบโตขึ้นมาจากการฟูมฟักของค่ายเพลง แต่ในทุกวันนี้ไม่ใช่แล้ว นี่คือเหตุผลว่าทำไมโบถึงบอกว่านี่ไม่ใช่ยุคสมัยของพวกเธอ "โบคิดว่ายุคนี้เป็นยุคของการประกวดร้องเพลง หนุ่มสาวยุคนี้ต้องมีความสามารถจริงๆ จึงจะได้โอกาสทำงานเพลงและออกอัลบั้ม เขาต้องเดินทางมาสายนี้จริงๆ" โบกล่าว "ตอนยุคเรา เราไม่ได้เรียนร้องเพลง ไม่ได้เรียนเต้น สมัยนั้นยังไม่มีคนอยากเข้ามาในวงการนี้มากนักหรอก การประกวดก็น้อยมาก ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ การประกวดเยอะๆ ทำให้คนเก่งมีเยอะขึ้น เก่งกว่าพวกเราอีก" จอยซ์กล่าว

แล้วพวกคุณกลายเป็นศิลปินมาได้อย่างไร GM ถาม "สมัยนั้นก็ตามสูตรเลย ไปแถวสยามจะมีแมวมอง อะไรแบบนี้ แต่พวกเรานี่น่าจะก่อนยุค พี่พจน์ อานนท์ อีกนะคะ คือมันนานมากๆ" โบกล่าว เงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ค่าย "โดโจ ซิตี้" และ "ไทรอัมพ์ส คิงดอม" ประสบความสำเร็จแบบถล่มทลาย อาจจะไม่ใช่ เพียงแค่ความสามารถเฉพาะตัวของพวกเธอ แต่กลับเป็นเรื่องการตลาดมากกว่า วงการเพลงในยุคนั้น ถูกครอบงำด้วยดนตรีร็อกเป็นส่วนใหญ่ ซาวนด์ดนตรีแบบอัลเทอร์เนทีฟแบบที่พวกวัยรุ่นสมัยนั้นต้องกระโดดๆ หรือต้องเต้นท่าแปลกๆ เกิดเป็น ช่องว่างทางการตลาดให้ค่าย "โดโจ ซิตี้" แทรกตัวขึ้นมา ทำดนตรีเต้นรำของเด็กสาววัยรุ่น เป็นตลาดที่ยังไม่มีใคร เข้ามา

"ถ้าเทียบกับ Niece ตอนนั้น ไทรอัมพ์ส คิงดอม เราจะดูเป็นสาวกว่าจริงๆ ตอนนั้นเราก็เด็กนะ แต่ลุคจะออกมาดูสาวเกินตัว" โบบอกกับ GM "Niece จะดูมัธยม แต่เราจะเป็นเฟรชชี่ เพราะตอนนั้นก็เพิ่งเข้ามหา’ลัยเหมือนกัน" สไตล์ของ ไทรอัมพ์ส คิงดอม ตอนนั้น เป็นสิ่งที่ถูก วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง สายเดี่ยว เอวลอย ขาสั้น เผยให้เห็นเรือนร่างของสาวแรกรุ่น โบบอกว่ากระแสตอบรับในตอนนั้น แยกออกเป็น สองด้านอย่างชัดเจน "มุมมองบวกก็จะมาจากวัยเรา ส่วนคนที่มองลบก็จะเป็นผู้ใหญ่ มันก็เหมือนในทุกวันนี้แหละ สังคมเราก็วนเวียน อยู่กับเรื่องนี้" โบกล่าว

"อย่างตัวเราเองทุกวันนี้ มองวัยรุ่นแล้วรู้สึกว่า เฮ้ย! นี่พวกเธอขนาดนี้เลยหรอ สงสัยว่าแต่ก่อนพวกผู้ใหญ่ก็คง อู้หู! กับพวกเราแบบนี้เหมือนกัน (หัวเราะ) เพราะเราโตขึ้นด้วยนะ เหมือนเราไปอยู่อีกวัยหนึ่งแล้ว จึงมีสายตาที่ต่างไป มองอะไรในมุมโตขึ้น น้องๆ สมัยนี้อาจจะแต่งโป๊ ได้มากกว่าเรา คนไทยก็ยังมีความคิดว่านี่เยอะเกินไป โป๊เกินไป ถ้าเอาพวกเราไปเทียบ เราน้อยเกินไปแล้วละ" จอยส์กล่าว "คือถ้าให้โบทำแบบนั้นในตอนนี้ ก็ไม่ยอมแล้วนะ (หัวเราะ) เพราะโบโตแล้ว มันแล้วแต่วัยที่เหมาะสม มันเป็นเรื่องของวาระและโอกาสนะ คงไม่มีเด็กสาวคนไหนจะใส่สั้น ไปตลอดเวลา คือวันหนึ่งเขาก็ต้องมีเปลี่ยนบ้าง"

ความโด่งดังและเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งที่มาถึงพวกเธอพร้อมๆ กัน ในเวลานั้น "ทุกครั้งที่มีเสียงด่าเข้ามา ไม่ใช่ว่าเราไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยนะ เราก็พยายามเปลี่ยนแปลงสไตล์ของเรา เรารู้จักแต่งตัวตามกาลเทศะ เวลาได้ยินใครมาติ เราถือว่านั่นคือ คำเตือนหรือคำแนะนำ เพื่อให้เราได้ทบทวนตัวเอง ว่าเราอาจจะกำลังสนุกเกินไปหรือเปล่า” จอยซ์บอก สมมุติว่าถ้าตอนนั้นมีโซเชียลมีเดียกันแล้วนะ  โบช่วยเปิดประเด็นให้กับเรา "เละ!! น่าจะเละเลยทีเดียว" จอยซ์เสริมแล้วก็หัวเราะ การเป็นศิลปินในยุคสมัยก่อนหน้าอินเตอร์เน็ตเฟื่องฟูมันมีข้อดียังไง

GM ถามพวกเธอโบกลอกตาไปมา นึกจินตนาการถึงวันชื่นคืนสุขในอดีต "แต่ก่อนนั้นนะการที่จะได้ซีดีหนึ่งแผ่น การจะทำหน้าปกแต่ละอัน รายชื่อคนที่จะไปอยู่ในปกมันมีคุณค่า เราเปิดมาดูว่าใครแต่ง เขาเขียนถึงใคร เขียนอะไรในนั้น เป็นของให้สะสม เป็นยุคที่คนยังซื้อแผ่นซีดี และทุกคนก็จะเอามาให้ เราเซ็น" "เรารู้สึกว่ามันมีคุณค่าและสามารถจับต้องได้ ดอกไม้ ตุ๊กตา จดหมาย พวกเขาเอามาให้ตามคอนเสิร์ต หรือส่งมาให้ที่บริษัท" จอยซ์พูดแล้วหยุดชะงักไป น้ำตาเริ่มคลอ"ไม่ขำนะ ซึ้งนะเว้ย" โบพูดแทรกเข้ามาเพื่อช่วยเพื่อน เธอเอื้อมมือไปตบบ่าจอยซ์เบาๆ แล้วทั้งสองก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน "คือบางทีเขามาจากต่างจังหวัด อดทนเดินทางมาซะไกล เพื่อมาเจอเราแค่แป๊บเดียว เขาเขียนจดหมายมาบอกให้รู้ว่าทำไมถึงชอบเรา ติดตามเราอยู่นะ แสดงความเป็นห่วง มันทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากเลยนะ" จอยซ์น้ำตาซึม อีกครั้ง

"โลกยุคนั้นมันไม่ได้เร็วๆ เหมือนทุกวันนี้ที่อะไรก็แชทๆ แล้วก็ผ่านเลยไป การส่งจดหมาย คุณต้องเขียนด้วยมือ เลียแสตมป์ แปะซอง เอาจดหมายไปหย่อน คือมันมีสตอรี่ยาวมากเลย ทุกวันนี้กับแฟนคลับของเรากลุ่มเล็กๆ เราก็ยังนัดเจอกันอยู่ ไปกินข้าวด้วยกัน ชวนกันว่าวันนี้ไปโบสถ์มั้ย บางคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันเลย" โบกล่าว "มีแฟนคลับบางคนที่เห็นกันตั้งแต่เล็กๆ ตอนเราร้องเพลง เขายังเป็นนักเรียนประถม จนทุกวันนี้กลายเป็นเมกอัพอาร์ทิสต์ มีแฟนคลับบางคนก็เป็นแม่คนไปแล้ว แล้วเธอก็สอนลูกให้รู้จักเพลงเรา" จอยซ์เสริม และทำให้เรารู้สึกห่วงว่าเธอจะสะเทือนใจอีก จึงพยายามเลี่ยงไปชวนคุยเรื่องเฮฮาบ้างดีกว่า

ช่วงที่เข้าวงการเพลงใหม่ๆ ตอนนั้นคิดฝันอะไรไว้ไหม GM ถามพวกเธอ จอยซ์ "ไม่ได้คิดอะไรเลย (หัวเราะ) แค่ทำตามใจตัวเองเท่านั้น เขาให้โบมาชวนว่าจะออกเทปกัน เราก็ฟังๆ แล้วก็ อืมๆ ก็ได้ ไม่ตื่นเต้นอะไรเลยเหรอ? จอยซ์  "ไม่เลยๆ ด้วยความเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว เรารู้ว่า ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็มีเพื่อนคนนี้อยู่นะ เราจึงมาทำงาน ด้วยกัน โดยตอนนั้นไม่มีภาพว่าจะต้องดัง ไม่คาดหวังว่าจะมีคนรู้จักเยอะแยะ คิดแค่ว่าทำแล้วสนุก แต่สรุปกลายเป็นดัง ขึ้นมา ไปไหนมาไหนมีแต่คนรู้จักหมด ไปเดินแผงเทปที่สยามสแควร์ก็มีคนวิ่งเข้ามาหา เมื่อนึกถึง ไทรอัมพ์ส คิงดอม เราก็มักจะนึกถึงสยามสแควร์ และเซ็นเตอร์พ้อยท์

"สมัยนั้น ออฟฟิศของเบเกอรี่มิวสิคอยู่ที่สยาม สมัยนั้นเซ็นเตอร์พ้อยท์จะเหมือนเป็นแลนด์มาร์คให้เด็กวัยรุ่นมานัดพบกัน" โบกลอกตาไปมานึกถึงอดีตอีกแล้ว "ใช่ๆ มานัดเจอกัน แล้วก็ไม่ต้องไปร้านอาหาร ก็นั่งกันอยู่ที่เซ็นเตอร์พ้อยท์นั่นแหละ แต่เดี๋ยวนี้สยามกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้ง มากกว่าจะเป็นแหล่งนัดพบนะ สมัยเรานี่ไปสยาม โดยไม่ต้องซื้ออะไรหรอก แค่ไปนัดเจอเพื่อน บรรยากาศ เต็มไปด้วยวัยรุ่นแต่งตัว จำได้ว่าโบทำผมสีแดงด้วยนะ" "เราทำก่อนออกเทปอีก ทำก่อนใครเลย" โบกล่าวอย่างภูมิใจ

ยังมีโมเมนต์ไหนที่คุณจดจำได้ไม่เคยลืม GM ถาม "สมัยนั้นเราไปจัดคอนเสิร์ตตามมหา’ลัย สนุกมาก แล้วก็งานทัวร์แผงเทปก็สนุก" จอยซ์ตอบ ทัวร์แผงเทปคืออะไร!? "อ้าว! ไม่รู้จักหรอ ทัวร์แผงเทปเป็นยังไงคะพี่โบ" จอยซ์ ส่งลูกให้เพื่อน "ก็สมมุติว่าบริษัทออกเทปมา บริษัทก็จะส่งไปที่ร้านใหญ่ๆ หรือพวกยี่ปั๊วใช่ไหม ก็นั่นแหละที่เราจะต้องไปเยี่ยมเยียนเขา อารมณ์แบบไปที่หน้าร้านดีเจสยาม" โบช่วยอธิบาย "มันจะไม่ใช่คอนเสิร์ตนะ เหมือนการไปทักทาย โชว์ตัว หรืออะไรอย่าง..." จอยซ์เสริม “ก็จะแบบประมาณเอารูปไปแปะไว้ที่ร้าน บางร้านเขาก็จะเปิดเพลง แล้วให้เราโชว์ลิปซิงค์ ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว"

ถ้าเมื่อก่อน ไทรอัมพ์ส คิงดอม เป็นเด็กสาวใส่เสื้อ สายเดี่ยว เกาะอก ทุกวันนี้ ทั้งสองเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก หลังจากที่ห่างหายกันไปนาน GM สงสัยว่าพวกเธอรู้สึกอย่างไรเมื่อได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง จอยซ์กับโบมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะแบบเขินๆ แววตาของจอยซ์เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มเมื่อมองตรงไปที่โบ "โบเปลี่ยนไปเยอะ เรารู้สึกว่าโบเป็นผู้ใหญ่แล้วจริงๆ แต่เรายังชอบแต่งตัวอยู่นะ ยังรู้สึกแฮปปี้ ไม่คิดว่าตัวเองเปลี่ยนไปเท่าไร" จอยซ์อธิบาย "ก็โบแต่งงานมาสามปีแล้ว มีครอบครัวต้องรับผิดชอบ ร่างกายก็ชักจะไม่ค่อยไหวเหมือนสมัยก่อน แต่ก่อน ลุยไหนลุยนั่น นอนกี่โมง ตื่นกี่โมงก็ได้ เดี๋ยวนี้เหนื่อยง่าย ออกกำลังกายแค่ยี่สิบนาที ก็ต้องคอยหันไปมองนาฬิกาแล้ว เฮ้ย! ไม่ไหวแล้ว เมื่อไรจะครบเวลา" โบกล่าว

นอกจากครอบครัวแล้วตลอด 9 ปีที่ผ่านมา การทำงานที่โบสถ์เปลี่ยนแปลงโบไปเยอะมาก "ทุกวันนี้ก็ได้รู้ว่า เราไม่ได้ทำงานเพื่อตัวเรา แต่เราทำงานเพื่อคนอื่น ชีวิตเราคือส่วนหนึ่งของฟันเฟืองที่หนุนส่งต่อๆ กันไป ก่อนจะมาพบพระเจ้า ชีวิตของโบแกว่งมาก ทำงานแล้วยังไงต่อ มีชื่อเสียงแล้วยังไงต่อ มีคนเข้ามาสนใจแล้วยังไงต่อ มันไม่มีจุดหมาย พอมาทำงานในโบสถ์แล้ว รู้สึกว่าชีวิตมีจุดหมาย โอเคขึ้นมากเลย" ส่วนจอยซ์บอกว่าทุกวันนี้ยังไม่เห็นภาพในอนาคตชัดเจนนัก เธอเองไม่คิดว่าจะสามารถทำอัลบั้มใหม่ แล้วมาเต้นกุ๊กกิ๊กๆ ชีวิตของเธอกำลังอยู่ในช่วงของจุดเปลี่ยน

โดยยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหน "อาจจะได้เจอพวกเราตามงานคอนเสิร์ตบ้าง นอกจากนั้น เราก็มองหาโอกาสใหม่ๆ ในการทำงาน ถ้ามีอะไรที่เป็นโอกาสเข้ามาจอยซ์ก็สนใจอยากลองทำ" ผลงานล่าสุดคือการทำงานเพลงและเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา ให้กับผลิตภัณฑ์เชนไดร้ท์ และเตรียมตัวออกคอนเสิร์ตใหญ่ร่วมกับผองเพื่อนโดโจ ซิตี้ในอดีต "ตอนนี้เริ่มออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง ต้องเตรียมตัว ให้ดี เพราะว่าต้องเอาให้อยู่ เพราะคนคงมาดูเราเยอะเลยละ จะมาคิดว่าแค่โดดขึ้นไปโชว์ตัวบนเวทีแค่นั้นไม่ได้" โบกล่าว "จะมีเพลงเก่าๆ ของพวกเราเยอะเลย ตอนแรกก็กังวลว่าจะจำเนื้อร้องไม่ได้ แต่พอได้เริ่มร้องขึ้นมาก็จทำได้ทั้งหมด มันออกมาเอง เพราะว่ามันเป็นเพลงของพวกเรา มันยังคงอยู่ข้างในนี้" จอยซ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม แล้วชี้นิ้วไปที่หัวใจ

"แต่บางทีก็มีร้องผิดนะ เพราะแนวพวกเรา ไม่ได้เป็นนักร้องแบบเป๊ะๆ เหมือนคนอื่นเขา บางทีก็ลืมร้อง ลืมช่วง ลืมท่อน" โบหัวเราะ "เวลาอยู่บนเวทีจะสนุกสุดเหวี่ยงเลยนะ สนุกจนแบบว่า เฮ้ย! ตรงนี้ท่อนของเราแล้ว แต่โบยังร้องอยู่เลย เราก็จะหันไปส่งสัญญาณ โบๆ มึงลากยาวเกินไปแล้ว" (หัวเราะทั้งคู่) "ไม่น่าเชื่อนะว่าการขึ้นคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง มันทำให้เรารู้สึกแฮปปี้ไปได้อีกนานมาก ถึงคอนเสิร์ตจะจบไปแล้ว แต่พลังที่ส่งเข้ามาจากแฟนๆ มันมหาศาลเลย” โบกล่าว "ใช่ๆ มันชุ่มชื่นหัวใจมากนะ ที่มีคนตั้งใจมาหา ซึ่งเป็นคนที่รัก เราได้ประสบการณ์ชีวิต ในมุมมองของการทำเพลง เป็นนักร้องมีชื่อเสียง และมีเพื่อนใหม่มากมาย สำหรับ เรานะ คำว่าไทรอัมพ์ส คิงดอม ก็คือคำว่า เพื่อน" จอยซ์กล่าว โดยมีโบนั่งยิ้มให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา

 ติดตามคอลัมน์อื่นๆเพิ่มเติม ดาวน์โหลดนิตยสารในเครือจีเอ็มได้แล้วที่

 

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ Exclusive โบ จอยส์ Return Of The Triumphs Kingdom

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook