ซก อาน ฟ้องยูเนสโกไทยทำพระวิหารเสียหาย

ประธานกรรมการมรดกโลกของกัมพูชา ซก อาน ส่งหนังสือฟ้อง ยูเนสโก ไทยทำปราสาทพระวิหาร เสียหาย วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ยับเยิน ร้อง ตั้งคระกรรมการตรวจสอบโดยเร็ว

เว็บไซต์ ฟิฟทีนมูฟ เผยแพร่ หนังสือร้องเรียนจาก นายซก อาน ประธานกรรมการมรดกโลกของกัมพูชาและรองนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พร้อม ดีวีดี ประมวลภาพความเสียหายต่อปราสาทพระวิหารและวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ส่งถึง 1.นางอิรินา โบโควา (Irina Bokova) ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การยูเนสโก 2. Eleonora Mitrofanova เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเนสโก และ 3. Mai Bint Mohammad Al Khalifa Manama (บาห์เรน)ประธานคณะกรรมการมรดกโลก เกี่ยวกับ ความเสียหาย อย่าง "ร้ายแรง" ของปราสาท
พระวิหาร จากเหตุการปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารของไทยและกัมพูชา

โดยบอกว่า กัมพูชา ยึดมั่นในนโยบายของตน เคารพต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และให้ความสำคัญกับการรักษาสันติภาพและความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีกับไทยมาโดยตลอด พร้อมระบุว่า ประเทศไทยทำการโต้แย้งมาตลอดว่า การขึ้นทะเบียนปราสาทพรวิหาร แต่เพียงฝ่ายเดียว ทั้งในการประชุมที่ ไครสเชิร์ช ปี 2007 , ควิเบค ปี 2008 และซิลเวีย บราซิลเลีย ปี 2010

ซึ่งในความเป็นจริงต้นเหตุของความขัดแย้งถูกวางแผนและเตรียมการโดยรัฐบาลไทยโดยอาศัยแผนที่ลับที่จัดทำขึ้นฝ่ายเดียว โดยปราศจากความถูกต้องตามกฎหมายระหว่างประเทศ จากนั้นจึงทำการเสริมกำลังทหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุความปรารถนาที่จะรุกล้ำเขตแดนกัมพูชาอย่างจงใจ เจ้าหน้าที่ไทยมักอ้างเสมอว่างานอนุรักษ์และบำรุงรักษาปราสาทดำเนินการบนเขตแดนที่ "อ้าง" ว่าเป็นของประเทศไทย การคุกคามทางทหารในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร เป็นผลให้เกิดการยิงตอบโต้กัน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาและกำลังทหารของกัมพูชา ได้ดำเนินการตอบโต้การโจมตี และ ปกป้องกันการยึดครองแผ่นดินภายในดินแดนของตน โดยกระสุนปืนและกระสุนปืนใหญ่ของทหารไทย ไม่เฉพาะทำให้เกิดการเสียชีวิตจำนวนมาก แต่ยังได้เแสดงให้เห็นความจงใจที่จะยึดครองและทำลายแหล่งมรดกโลกปราสาทพระวิหาร นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ห้องโถงของวัด และที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโบสถ์วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ถูกทำลายด้วยกระสุนปืนใหญ่และกระสุนปืน พร้อมเรียกร้องให้มีการจัดตั้งคณะทำงานตรวจสอบปราสาทโดยเร็ว