คนโสดยุคใหม่มองการอยู่ก่อนแต่งงานไม่ใช่เรื่องแปลก

คนโสดยุคใหม่มองการอยู่ก่อนแต่งงานไม่ใช่เรื่องแปลก

คนโสดยุคใหม่มองการอยู่ก่อนแต่งงานไม่ใช่เรื่องแปลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรุงเทพฯ 11 ก.พ. - คนโสดยุคใหม่มองการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก่อนแต่งงานไม่ใช่เรื่องแปลก สมัยนี้ใคร ๆ เขาก็ทำกัน นอกจากนี้ มองว่าการหย่าหรือแยกทางกันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าหย่าแล้วมีความสุขก็ควรหย่า โดยมีเพียง 1 ใน 3 ที่ตั้งใจจะอดทนให้ถึงที่สุด โดยให้การหย่าเป็นทางเลือกสุดท้าย

ผศ.สุนิสา ประวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของคนโสดอายุ 20-35 ปี ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องในโอกาสวันแห่งความรักปีนี้ จำนวน 1,226 คน ระหว่างวันที่ 28-30 มกราคม 2554 พบว่าคนโสดมากกว่าครึ่ง คือร้อยละ 59.5 ระบุว่าขณะนี้มีคู่รักหรือคนที่คบหาเป็นแฟนอยู่แล้ว ในจำนวนนี้มีเพียงร้อยละ 29.1 หรือประมาณครึ่งหนึ่งที่ระบุว่าคนที่คบหาอยู่ในปัจจุบันใช่คนที่คิดจะแต่งงานด้วย ขณะที่ร้อยละ 4.9 ระบุว่าไม่ใช่ และร้อยละ 25.5 ไม่แน่ใจ ทั้งนี้ คนโสดทั้งที่มีและไม่มีคู่รักต่างระบุตรงกันว่าความซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียว คือคุณสมบัติสำคัญที่สุดที่ใช้เป็นเกณฑ์ตัดสินใจเลือกคนที่จะแต่งงานด้วย ร้อยละ 36.5 รองลงมาคือ ความกระตือรือร้น ขยันทำมาหากิน ร้อยละ 12.8 และความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ร้อยละ 9.1 ตามลำดับ

สำหรับเรื่องการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก่อนแต่งงานนั้น คนโสดถึงร้อยละ 66.9 มีทัศนคติในเชิงเห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องที่ดีจะได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันก่อนแต่งงาน ร้อยละ 44.3 และไม่ใช่เรื่องแปลก สมัยนี้ใคร ๆ เขาก็ทำกัน ร้อยละ 22.6 มีเพียงร้อยละ 33.1 ที่ไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่าเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาตามมา เช่น ตั้งครรภ์ ทำแท้ง ร้อยละ 20.3 และขัดต่อวัฒนธรรมไทย ร้อยละ 12.8 ประเด็นที่น่าสนใจคือในจำนวนผู้ที่มีทัศนคติในเชิงเห็นด้วยกับการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก่อนแต่งงานนั้น ร้อยละ 30.2 หรือเกือบครึ่งหนึ่งเป็นเพศหญิง ซึ่งเป็นฝ่ายที่ถูกมองว่าเสียเปรียบหากต้องเลิกรากันไป

ส่วนประเด็นเรื่องการหย่าหรือแยกทางกันหากชีวิตคู่หลังแต่งงานประสบปัญหา ร้อยละ 17.2 ระบุว่ายอมรับได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือคอขาดบาดตาย ร้อยละ 42.5 จะคิดก่อนถ้าหย่าแล้วมีความสุขก็ควรหย่า ร้อยละ 35.5 ตั้งใจจะอดทนให้ถึงที่สุด โดยให้การหย่าเป็นทางเลือกสุดท้าย และร้อยละ 4.8 รับไม่ได้เลย และจะไม่มีวันยอมให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นกับตัวเอง

เมื่อถามถึงสถานที่ฮันนีมูนที่อยากไป ส่วนใหญ่ร้อยละ 57.5 ในประเทศไทยคือ แหลมพรหมเทพ และแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ร้อยละ 10.8 รองลงมาคือ ดอยอินทนนท์และดอยสุเทพในจังหวัดเชียงใหม่ ร้อยละ 7.9 หมู่เกาะพีพี และหมู่เกาะสิมิลันในจังหวัดกระบี่ ร้อยละ 7 ขณะที่ร้อยละ 42.5 เลือกไปฮันนีมูนในต่างประเทศ คือ ญี่ปุ่น ร้อยละ 7.3 ฝรั่งเศส ร้อยละ 5.2 และเกาหลีใต้ ร้อยละ 4.7 ตามลำดับ. -สำนักข่าวไทย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook