DSI ห่วงแกนนำแดง เผยนักข่าวยุ่นโดนอาก้า
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผย เกี่ยวกับกรณีที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ น.พ.เหวง โตจิราการ และแกนนำคนอื่นๆ รวม 7 คน ว่า จากกรณีที่แกนนำทั้ง 7 ออกมาให้ข่าวว่า จะเป็นแกนนำเข้าร่วมปราศรัย และชุมนุมเคลื่อนไหวกับกลุ่ม นปช. ในวันที่ 12 มี.ค. ที่จะถึงนี้ โดยอ้างเหตุผลต่างๆ ซึ่งทางดีเอสไอ ในฐานะผู้รับผิดชอบ ในการสอบสวนคดีดังกล่าว มีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะการเป็นแกนนำร่วมปราศรัย และจะเข้าร่วมชุมนุมเช่นนั้น น่าจะเป็นการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนเงื่อนไขของศาล ที่กำหนดไว้ ดังนั้น หากแกนนำทั้ง 7 คน มีการกระทำใดๆ ในการเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มนปช. โดยมีพฤติการณ์อันเป็นการผิดเงื่อนไขของศาล หรือเกินขอบเขตที่กำหนดไว้ ทางดีเอสไอ ก็จะดำเนินการยื่นคำร้อง
ต่อศาล เพื่อเพิกถอนการประกันตัวชั่วคราวต่อไป
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงผลความคืบหน้า การชันสูตรพลิกศพ นายฮิโระ มูราโมโต้ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น ที่เสียชีวิต ในระหว่างการปะทะกันของกลุ่ม นปช. เมื่อปีที่ผ่านมา ว่า จากการเชิญให้ พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา ผู้เชี่ยวชาญด้านบาดแผลกระสุนปืน มาดูบาดแผลเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความรอบคอบของทั้ง 13 ศพ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงศพของ นายมูราโมโต ด้วยนั้น ซึ่งทาง พล.ต.ท.อัมพร บอกว่า พบรอยกระสุนบนร่างกายของ นายมูราโมโต มีขนาดใหญ่กว่าแผลกระสุนปืนบนร่างกายของศพอื่นๆ คือ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 7 มม. และไม่พบว่า มีการทิ้งร่องรอยเศษตะกั่วตลอดทางที่กระสุนผ่านในร่างกาย
ทั้งนี้ พล.ต.ท.อัมพร บอกว่า ขนาดกระสุนดังกล่าว อาจเป็นกระสุนปืนจาก เอเค 47 หรือ 05 นาโต้ หรือ เจตาเซ่ ที่มีขนาดกระสุนปืนใกล้เคียงกัน แต่ปืนทั้ง 3 ชนิดนั้น ไม่ได้นำมาใช้ในการกระชับพื้นที่ของทหาร ในวันดังกล่าว จึงไม่ขอยืนยันว่า เป็นชนิดใด เนื่องจากยังไม่พบหัวกระสุน
ทั้งนี้ ด้านนายธาริต บอกว่า ได้ส่งสำนวนเพิ่มเติมให้กับทางนครบาลไปแล้ว เมื่อ 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา และได้แจ้งให้ทางอุปทูตญี่ปุ่น รับทราบในเรื่องดังกล่าว พร้อมกับยืนยันว่า จะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา