สาธุชนเรือนแสนหลั่งไหลสู่วัดป่าบ้านตาด

บรรยากาศล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินในพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ณ เมรุชั่วคราว วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) จ.อุดรธานี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเข้าพลับพลา ประทับพระราชอาสน์ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นเมรุทอดผ้าไตร 10 ไตร ที่จิตกาธาน รอบอุโบสถ พระสงฆ์ 10 รูป บังสุกุล เสร็จลงจากเมรุ ทรงหยิบกระทงข้าวตอกดอกไม้จาก เจ้าพนักงานพระราชพิธีวางข้างโกศ ทรงหยิบธูปเทียน ดอกไม้จันทน์ จากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ทรงจุดไฟที่โคมตำรวจวางชูถวายพระราชทานเพลิง ซึ่งมี พระภิกษุสงฆ์ สามเณร แม่ชี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเนืองแน่นนับล้านคน มาร่วมงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด

 

บรรยากาศล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. ที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ขณะนี้หลังจากที่ประชาชนส่วนใหญ่ ออกไปรับประทานอาหารกลางวัน บริเวณด้านนอกวัด ตามจุดที่ตั้งของโรงทานกว่า 1,000 จุด ก็ได้ทยอยกลับมาจับจองที่นั่งภายในวัด กันอย่างหนาแน่น ยิ่งกว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงบ่ายของวัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนิน มายังวัดป่าบ้านตาด เพื่อพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ในเวลา 17.00 น. ประชาชนจึงต้องการเฝ้ารอรับเสด็จฯ อย่างใกล้ชิดมากที่สุด

ทั้งนี้ ด้านการเตรียมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร หลวงตามหาบัว ในเวลาอันใกล้นี้ เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้นำกลุ่มตัวแทนประชาชนที่ถูกคัดเลือกให้เป็นตัวแทนแต่ละหมู่บ้าน ในการวางไม้จิก ที่หน้าจิตกาธาน มาติดโบว์เป็นสัญลักษณ์ เพื่อความเรียบร้อย เพื่อเข้าร่วมพิธีสำคัญในครั้งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ชุดล่วงหน้ารักษาพระองค์ ก็ได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดแล้ว และได้ซักซ้อมเตรียมความพร้อม รักษาความปลอดภัยในการรับเสด็จฯ

 

บรรยากาศล่าสุด เมื่อเวลา่ 10.00 น. วันนี้ (5 มี.ค.) ประชาชนยังคงทยอยเดินทางมา เพื่อรอร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ที่จะมีขึ้นในเย็นของวันนี้กันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนทำให้บริเวณโดยรอบของวัด หนาแน่นไปด้วยประชาชน ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด และพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนพื้นที่ลานจอดรถที่จัดเตรียมให้ประชาชนกว่า 18 จุดนั้น ขณะนี้ทุกจุดเต็มหมดแล้ว และได้มีการประกาศแจ้งประชาชนที่จะเดินทางมายังวัดป่าบ้านตาด เป็นระยะ โดยประชาชนส่วนใหญ่ ต่างเดินเท้าเข้ามา ซึ่งมีระยะทางกว่า 4 ก.ม.

ด้านการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ได้มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ สนธิกำลังกันกว่าพันนาย ดูแลประชาชนโดยทั่วบริเวณ

 

บรรยากาศทั่วไป เมื่อช่วงเช้าที่วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี โดยในวันนี้ กำหนดพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มีประชาชนทั่วไป ศิษยานุศิษย์ และญาติโยม ต่างหลั่งไหลกันมาจากทั่วสารทิศ กันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน จนถึงขณะนี้ บริเวณวัดนั้นแน่นขนัดไปด้วยประชาชนเรือนแสน โดยกิจกรรมในช่วงเช้าของวันนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่งมายัง วัดป่าบ้านตาด เพื่อทรงบาตรเช้า

ส่วนกำหนดการของวันนี้นั้น หลังประชาชนใส่บาตรพระสงฆ์เสร็จแล้ว ในเวลา 10.00 น. พระเถระแสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ จากนั้น เวลา 17.00 น. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร ทรงทอดผ้าไตร 30 ไตร ที่จิตกาธาน รอบกลดสรีระ พระสงฆ์ 10 รูป ขึ้นพิจารณาผ้าไตรบังสุกุลบนเมรุ จากนั้นจะถึงพิธีพระราชทานเพลิง ในเวลา 18.00 น.

ส่วนการจราจรในช่วงเช้าของวันนี้ ประชาชนที่จะเดินทางมายัง วัดป่าบ้านตาด ควรเดินทางโดยรถที่ทางส่วนราชการ และทางวัดได้จัดเตรียมไว้ให้ เนื่องจากทุกพื้นที่นั้นเนืองแน่นไปด้วยประชาชน และถนนรถติดยาวกว่า 4 กิโลเมตร ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เดินเท้ากันเข้ามายังบริเวณวัด

ด้าน พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี (ผบก.ภ.จว.อุดรธานี) เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ทางเจ้าหน้าที่ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการจัดการจราจรภายใน บริเวณงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร เป็นอย่างดี โดยได้กำหนดการเดินรถออกเป็น 3 โซน หลักๆ คือ โซนใน โซนกลาง และโซนนอก ซึ่งขณะนี้ประชาชนเดินทางมาอย่างเนืองแน่น แต่พื้นที่การจอดรถ ที่ได้จัดไว้ ยังเพียงพอต่อจำนวนของประชาชนอยู่

สำหรับการเดินทางเข้าวัดป่าบ้านตาดนั้น ได้มีการจัดรถบริการฟรีไว้บริการรับ-ส่ง ประชาชน เป็นรถสองแถว จำนวน 150 คัน รถ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี และเทศบาลนครอุดรธานี 20 คัน รถตู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 161 คัน ส่วนเส้นทางการเดินทาง ประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมงาน สามารถเลือกเดินทางในเส้นทางที่ได้จัดไว้ ให้เป็นทางพิเศษ 11 ช่องทางได้ ซึ่งแต่ละช่องทางจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการอยู่

ทั้งนี้ ในส่วนของการดูแลรักษาความปลอดภัยนั้น ได้มีการเพิ่มกำลังจากจำนวน 2,000 นาย เป็น 4,000 นาย โดยความร่วมมือระหว่างตำรวจภูธรภาค 3 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดข้างเคียง ในเขตอีสานเหนือ