น้องวีระเผย พี่ป่วยหนักในเรือนจำเปรยซอร์

น้องวีระเผย พี่ป่วยหนักในเรือนจำเปรยซอร์

น้องวีระเผย พี่ป่วยหนักในเรือนจำเปรยซอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

7 มี.ค. น้องชาย นายวีระ สมความคิด เปิดเผยว่า พี่ชายกำลังป่วยหนัก อยู่ในเรือนจำเปรยซอร์ ประเทศกัมพูชา ขณะที่ตำรวจได้เข้าขอคืนพื้นที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ จากกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และเตรียมขอคืนพื้นที่ ที่ต้องใช้จัดงานกาชาดเพิ่มเติม

เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ กำลังตำรวจปราบจลาจล 10 กองร้อย จำนวน 1,500 นาย ได้เข้าปฏิบัติการขอคืนพื้นที่การชุมนุมจากกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ โดยได้เข้ารื้อรั้วเหล็กและเต็นท์ที่ตั้งอยู่บนหัวถนนพิษณุโลก ด้านหลังเวทีปราศัยของกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ เพื่อเปิดเส้นทางการจราจร ทำให้ประชาชนและข้าราชการ รวมทั้งขบวนรถของนายกรัฐมนตรี สามารถเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยใช้ประตู 1 และประตู 2 ผ่านทางสะพานชมัยมรุเชฐได้ ทั้งนี้ แม้ระหว่างการเข้ารื้อถอนสิ่งกีดขวาง มีการปะทะและผลักดันกันเล็กน้อยระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ แต่ตำรวจก็สามารถเคลื่อนย้ายเต็นท์ออกจากสะพานชมัยมรุเชฐได้สำเร็จ โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันได้กล่าวปราศรัยขอให้ผู้ชุมนุม อยู่ในความสงบ ไม่ทำอะไรตอบโต้โดยพลการ เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่รื้อเต็นท์ไปได้ ก็สามารถที่จะกลับมาตั้งใหม่ได้

ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เป็นการขอพื้นที่บางจุดเท่านั้น ไม่ใช่การสลายการชุมนุม เนื่องจากมีผู้เดือนร้อนจากการปิดพื้นที่ของผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมาก ซึ่งตำรวจจะเดินหน้าขอคืนพื้นที่การชุมนุมเพิ่มเติมต่อไป โดยเฉพาะในจุดที่จะต้องใช้จัดงานกาชาดในปลายเดือนมีนาคมนี้ รวมทั้งเส้นทางถนนนครปฐม ด้านข้างวัดเบญจมบพิตร เพราะนักเรียนต้องใช้เป็นเส้นทางเดินไปโรงเรียน

ส่วนความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ แกนนำและสมาชิกเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเปรยซอร์ ประเทศกัมพูชา

นายปรีชา สมความคิด น้องชาย นายวีระ ยืนยันว่า พี่ชายกำลังป่วยหนักจริง โดยตนและครอบครัวเพิ่งเดินทางไปเยี่ยมมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา สาเหตุของอาการป่วยเกิดจากการติดเชื้อ เพราะเป็นแผลในช่องปาก อีกทั้งพี่ชายซึ่งอายุ 53 ปี สุขภาพไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัวหลายโรคอยู่แล้ว เมื่อต้องอยู่ในเรือนจำ จึงไม่ได้รับการดูแลเรื่องยาและอาหารที่ดี

ทั้งนี้ ทางครอบครัวยืนยันว่า ไม่มีการดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการยื่นเรื่องอุทธรณ์ทั้งสิ้น และกำลังรอให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ พร้อมกับได้แจ้งไปยังสมณะโพธิรักษ์ และ นายการุณ ใสงาม แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติแล้ว ว่าขอให้ยุติความพยายามใด ๆ เกี่ยวกับการยื่นอุทธรณ์ ซึ่ง นายวีระ ไม่มีการเซ็นมอบอำนาจใด ๆ ไปให้ทั้งสิ้น ส่วนการพูดคุยกับครอบครัว น.ส.ราตรี ได้รับการบอกเล่าว่าไม่ขออุทธรณ์ต่อสู้คดีเช่นกัน

ขณะที่ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายวีระ และ น.ส.ราตรี ได้ลงชื่อในหนังสือคัดค้านการยื่นเรื่องอุทธรณ์คดี ที่ทีมทนายความเครือข่าวคนไทยกันใจรักชาติกำลังดำเนินการอยู่แล้ว จึงเหลือช่องทางในการช่วยเหลือด้วยการยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ เพียงช่องทางเดียว

ส่วนความเคลื่อนไหวในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม. ได้เข้ามารวมตัวอยู่ในพื้นที่ชุมนุมบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนิน เพื่อเตรียมรื้อถอนร้านค้า เต็นท์ รวมทั้งห้องสุขาเคลื่อนที่ ออกจากบริเวณฟุตบาธ ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ พากันตะโกนโห่และใช้มือตบไล่ จนเจ้าหน้าที่เทศกิจต้องล่าถอยออกไป

ขณะที่ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เป็นครั้งที่ 3 เพื่อเรียกร้องให้ทวงคืนดินแดนไทยที่สูญเสียให้กัมพูชา รวมถึงยกเลิกประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อควบคุมการชุมนุมก่อนที่ในวันพรุ่งนี้จะไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ดำเนินคดีนายกรัฐมนตรี

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook