สิงคโปร์ส่งสาส์นถึง อภิสิทธิ์ เสียใจ ซานติก้าผับ ไฟไหม้
นายกฯสิงคโปร์ส่งสาส์นถึง อภิสิทธิ์ แสดงความเสียใจเหตุ ซานติก้าผับ ไฟไหม้ ซินดี้ วางดอกไม้ไว้อาลัยหน้า ซานติก้า
นาย ลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้ส่งสาสน์ถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจต่อเหตุอัคคีภัย ซึ่งเกิดขึ้นที่ซานติก้าผับ เมื่อคืนวันที่ 1 มกราคม 2552 และมีชาวสิงคโปร์ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายกรัฐมนตรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะให้ความช่วยเหลือครอบครัว หรือญาติมิตรของผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นเป็นอย่างดี และรัฐบาลสิงคโปร์ขอแสดงความเสียใจ ต่อครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายด้วย เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 2 ธันวาคม นายธนกร ด้วงสวัสดิ์ อายุ 34 ปี พี่ชายของ น.ส.อัญชิษฐา ด้วงสวัสดิ์ เจ้าของรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีม่วง ทะเบียน สฬ 6274 กทม. ได้เดินทางมาที่สน.ทองหล่อ เพื่อติดต่อขอรับรถยนต์และทรัพย์สินของน้องสาวและเพื่อนน้องสาว คือ น.ส.ปุณย์รฐา ศิริเศษฐวงศ์ อายุ 26 ปี นายธนกร กล่าวว่า น้องสาวของตนเรียนอยู่คณะมนุษยศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งวันเกิดเหตุได้เดินทางมาเที่ยวพร้อมกับเพื่อนๆเพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่ หลังจากเกิดเหตุได้นำตัวน้องสาวส่งไปรักษาที่ รพ.กรุงเทพ ซึ่งทั้งน้องสาวและเพื่อนอยู่ในอาการสาหัส ขณะนี้ยังใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ เนื่องจากหลอดลมอักเสบ จึงไม่สามารถเดินทางมารับรถยนต์และทรัพย์สินคืนได้ ตนจึงเดินทางมารับแทน. นายสกล การพจน์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/288 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. ได้พา นายชลสิทธิ์ การพจน์ อายุ 24 ปี บุตรชาย ประกอบอาชีพอาจารย์สอนถ่ายภาพ และกราฟฟิกดีไซน์ ที่ Art Institute แคลิฟอเนียร์ สหรัฐอเมริกา เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุเพลิงไหม้ผับซานติก้า พร้อมกับขอตรวจสอบทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ โดยพบกล้องถ่ายภาพยี่ห้อแคนนอน EOS 10D พร้อมแฟลชในสภาพเสียหายถูกไฟไหม้เกรียม นายสกล กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุลูกชายได้ไปเที่ยวที่ซานติก้าพร้อมกับพี่ชาย คือ นายเมธี การพจน์ อายุ 30 ปี อาชีพครูสอนภาษาอังกฤษที่สถานบันภาษาแห่งหนึ่งที่ห้างเซ็นทรัล สาขาปิ่นเกล้า เพื่อฉลองปีใหม่ ลูกชายเล่าให้ฟังว่าก่อนเกิดเหตุตอนนั้นทั้งสองอยู่หน้าเวทีแสดงดนตรี โดยชลสิทธิ์ กำลังถ่ายภาพบรรยากาศภายในผับอยู่ ขณะนั้นก็เห็นว่าบทเวทีมีการใช้เอฟเฟ็กซ์ประกอบการแสดงเป็นลูกไฟพุ่งขึ้นไปลักษณ์เป็นสะเก็ดไปโดนของตกแต่งภายในร้านที่ห้อยอยู่ด้านบน นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟ็กซ์บางส่วนที่อยู่หลังวงดนตรีก็ทำให้เกิดสะเก็ดไฟติดผ้าม่านของตกแต่งเช่นกัน นายสกล กล่าวด้วยว่า หลังผ่านไปประมาณ 30 วินาทีไฟก็ลามไปทั่ว คนในร้านก็แตกตื่น ส่วนชลสิทธิ์ กับพี่ชายก็พยายามหาทางหนีแต่ถูกฝูงผลักดันจนแยกกันไปคนละทาง โดยนายชลสิทธิ์ มาทางบันไดลงชั้นใต้ดิน เห็นผู้หญิงหกล้มกองกันอยู่หลายคนจึงทิ้งกล้องแล้วเข้าไปช่วยเหลือแต่ก็ถูกดันลงไปตามบันได ช่วงนั้นก็ได้ยินเสียงดังขึ้นคล้ายของชิ้นใหญ่หล่นจากเพดานลูกชายเลยคิดว่ากลับขึ้นไปไม่ได้แล้วจึงพากลุ่มแขกที่หลงมาด้วยกันเป็นชาย 5 คน หญิง 15 คนช่วยกันหาทางออกที่ชั้นใต้ดินแต่ก็ไม่พบ จึงนำพวกเขาเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูกันไฟลามเข้า โดยลูกชายได้แนะนำให้ทุกคนช่วยกันเอาน้ำในชักโครกออกมาราดที่พื้น และให้นำเสื้อไปชุบน้ำมาปิดจมูกไว้เพื่อกันควัน จากนั้นทั้งหมดได้นั่งรออยู่ในห้องน้ำกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาช่วยเหลือออกไปได้ นายสกล กล่าวว่า ส่วนบุตรชายคนโตนั้นมาทราบภายหลังว่ารอดชีวิตมาได้แต่อาการสาหัสตามร่างกายถูกไฟไหม้ไปกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ชั้น 3 โรงพยาบาลเจ้าพระยา เพื่อรอดูอาการอีกครั้ง ทั้งนี้ตนดีใจที่เห็นลูกชายทั้งสองคนรอดชีวิตมาได้ โดยเฉพาะลูกชายคนเล็กซึ่งเกิดและศึกษาอยู่ที่สหรัฐ ซึ่งเขาบอกว่าในชั้นเรียนที่สหรัฐนั้นเขาจะสอนวิธีการเอาตัวรอดจากภัยพิบัติต่างๆ เช่น ถ้าเกิดแผ่นดินไหวต้องทำอย่างไร ถ้าไฟไหม้ต้องคลานต่ำเพราะควันจะลอยสูง หรือถ้าเข้าที่อับให้เอาผ้าชุบน้ำปิดจมูกช่วยการหายใจ ให้กับเด็กและเยาวชนในประเทศของเขา ซึ่งจุดนี้ทำให้ลูกชายนำมาใช้เอาตัวรอดและช่วยเหลือคนอื่นๆจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้มาได้ ซินดี้ วางดอกไม้ไว้อาลัยหน้า ซานติก้า เมื่อเวลา 13.30 น. น.ส. สิรินยา เบอร์บริดจ์ หรือ ซินดี้ เดินทางมาพร้อมกับสามีและเพื่อน เดินทางมาที่ ซานติก้า ผับ โดยได้นำกระเช้าดอกไม้ไปวางไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งยืนมองสถานที่เกิดเหตุด้วยสีหน้าเหม่อลอย ทั้งนี้คาดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะมีเพื่อนหรือคนสนิทของ ซินดี้ อยู่ในเหตุการณ์ด้วย