ลุงน้องนุ่น เชื่อมีเงื่อนงำพยานโกหกแต่แรก
ลุงน้องนุ่น สาวตกแพทุ่งใหญ่นเรศวร เข้าร้องทุกข์ตำรวจอีกครั้ง เผยครอบครัวเชื่อเรื่องมีเงื่อนงำ ยังหวังว่าจะเจออะไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.วรฐิกา พรหมณะ หรือ น้องนุ่น อายุ 29 ปี ได้หายไปเมื่อวันที่ 13 ม.ค.หลังเดินทางไปท่องเที่ยวกับเพื่อนบริเวณป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยเพื่อน ๆ ระบุว่าน้องนุ่นประสบอุบัติเหตุตกจากแพไม้ไผ่ขณะล่องในลำน้ำห้วยน้ำโจน ขณะที่เพื่อนชายอีก 4 คนสามารถว่ายน้ำขึ้นฝั่งมาได้ และได้แจ้งความที่ สภ.ทองผาภูมิ เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายประหยัด พรหมณะ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132/1 หมู่ 1 ต.บ้านป่า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ลุงของ น.ส.วรฐิกา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อภิชน เจริญผล พงส.(สบ3) กก.5 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์ขอให้ตำรวจกองปราบปรามช่วยตรวจสอบเรื่องราว และสืบสวนติดตามหา น.ส.วรฐิกา อีกทาง ซึ่ง พ.ต.อ.อภิชนได้รับเรื่องและเสนอต่อ พ.ต.อ.อธิป ฉิมอร่าม ผกก.5 บก.ป. พิจารณา เบื้องต้นได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล สว.กก.5 บก.ป.พร้อมชุดสืบสวนประสานตำรวจท้องที่เพื่อร่วมสืบสวนกรณีดังกล่าวแล้ว
โดยนายประหยัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ด้านตำรวจท้องที่เองก็มีการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องไป 7-8 ปากซึ่งจนถึงขณะนี้ยังเป็นเพียงกรณีอุบัติเหตุและมีคนหายตัวไป ทราบว่าพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับเพื่อนชายคนหนึ่งที่ อยู่ในเหตุการณ์ในข้อหาแจ้งความเท็จซึ่งศาลตัดสินลงโทษปรับ 3,000 บาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา
"ทางครอบครัวก็ยังเชื่อว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำบางอย่างไม่เช่นนั้นคงไม่โกหกตั้งแต่แรก อีกทั้งหน่วยซีล กองทัพเรือซึ่งมาช่วยค้นหานั้นก็ยืนยันว่าไม่มีร่างจมอยู่ในน้ำเนื่องจากมีการนำน้ำไปตรวจสอบแล้วไม่พบไขมันมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีการจำลองเหตุการณ์โดยนำไม้ไผ่เก่ามามัดด้วยเชือกฟางก็พบว่า แค่คนสองคนขึ้นไปแพก็จมน้ำแล้วจึงเป็นไปไม่ได้ที่คนห้าคนจะไปล่องแพด้วยไม่ ไผ่เก่าที่มัดเชือกฟาง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ยังค้นหาอยู่ แต่ความหวังเหลือน้อยเต็มทีเพราะอยู่ในป่าลึกและผ่านมานานแล้วแต่ถ้าจากไป จริงๆ ก็หวังว่าจะเจออะไรบ้างเพื่อจะได้นำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางเหนือ" นายประหยัด กล่าว