กัดดาฟี ลั่นกร้าว! นรกกำลังรอผู้ที่โจมตีลิเบีย

18 มี.ค. พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย กล่าวกับโทรทัศน์ของรัฐบาลโปรตุเกสว่า นรกกำลังรอผู้ที่โจมตีลิเบีย ซึ่งคำกล่าวนี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติอนุญาตให้ดำเนินมาตรการทั้งหมดที่จำเป็นในการประกาศใช้เขตห้ามบินในลิเบีย

กัดดาฟี กล่าวอย่างดุดันว่า "ถ้าโลกกลายเป็นผู้วิกลจริต ลิเบียก็จะตอบโต้ และจะทำให้ชีวิตของคนที่รุกรานลิเบียตกอยู่ในขุมนรก"

ด้าน นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ กล่าวต่อรัฐสภาว่า ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า อังกฤษจะส่งเครื่องบินขับไล่ทอร์นาโดและไต้ฝุ่น รวมถึงเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศและเครื่องบินเตือนภัย เข้าไปประจำการยังฐานบิน ซึ่งพร้อมเข้าไปปฏิบัติการทางทหารในลิเบีย ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการบังคับใช้มติสหประชาชาติประกาศเขตห้ามบินในลิเบีย

ในขณะที่ นายเซอิฟ อัล-อิสลาม กัดดาฟี ลูกชายของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย เปิดเผยผ่านการสัมภาษณ์ในรายการ "นิวส์ไนท์ไลน์" ของสถานีโทรทัศน์เอบีซี จากกรุงตริโปลีว่า เขาอยู่กับประเทศชาติและประชาชน และเชื่อว่าการทิ้งระเบิดจะไม่สามารถช่วยเหลือชาวลิเบียได้ แต่กลับเป็นการฆ่าประชาชนและทำลายประเทศลิเบีย

ลูกชายกัดดาฟี ระบุด้วยว่า มติของสหประชาชาติไม่ยุติธรรม และปฏิเสธรายงานหลายกระแสที่เผยแพร่อย่างกว้างขวางว่า ทหารที่ภักดีต่อพ่อของเขากำลังเข่นฆ่าประชาชน ในระหว่างที่พยายามยึดหลายเมืองคืนจากฝ่ายกบฏ นายเซอิฟ ยังคงยืนยันว่า ไม่มีการโจมตีทางอากาศต่อพลเรือนในลิเบีย อีกทั้งไม่มีการทิ้งระเบิดในเขตพลเรือนหรือที่มีการชุมนุมประท้วง

เขาระบุด้วยว่า ผู้สื่อข่าว 1 ใน 4 คนของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ซึ่งหายสาบสูญไปเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ขณะรายงานการสู้รบอย่างหนักหน่วงทางตะวันออกของลิเบีย ถูกควบคุมตัวและจะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ (18 มี.ค.) นายเซอิฟ ระบุว่า ผู้สื่อข่าวเหล่านั้นเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และกองทัพลิเบียพบพวกเขาขณะเข้าไปปลดปล่อยเมืองอัจดาบิยาจากผู้ก่อการร้าย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการประกาศมาตรการเขตห้ามบินในลิเบียของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายมูซา คูซา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลิเบีย ได้ประกาศหยุดยิง และยุติการดำเนินการทางทหารภายในประเทศทั้งหมด เพื่อนำพาประเทศกลับสู่ความสงบ