จ่อสอบทีมวิสามัญหนุ่มคลั่ง กระสุนอาจโดน พ.ญ.ด้วย
เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบทีมวิสามัญหนุ่มคลั่งป่วนกรุง แม่ พ.ญ.โวยกระสุนอาจโดนลูกด้วย ตร.วอนขอให้เห็นใจจำเป็นต้องทำเพราะต้องหยุดคนร้าย
(15เม.ย.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงคดีตำรวจวิสามัญคนร้ายที่ก่อเหตุชิงรถ ทำร้ายเจ้าหน้าที่และผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิต ว่าเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวานนี้ (14 เม.ย.) คนร้ายอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งทั้งขับรถชนและยิงทำร้ายทั้งเจ้าหน้าที่และคนที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ จึงยากต่อการเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ จำเป็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวิสามัญ เพื่อหยุดยั้งเหตุการณ์ ส่วนกรณีที่ทางมารดา ของพ.ญ.พิภัทรา ออกมาระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้อาวุธปืนยิง ขณะที่พ.ญ.พิภัทรา ยังคงนั่งอยู่ในรถ จนทำให้ถูกกระสุนปืนด้วยนั้น ก็จะมีขั้นตอนการตั้งกรรมการสอบสวนในส่วนนี้ โดยจะต้องนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ เพราะมีกล้องวงจรปิดอยู่หลายจุดตามที่เกิดเหตุ ซึ่งสามารถนำมาเป็นหลักฐานได้
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า สำหรับข้อเท็จจริง ในการระดมยิงคนร้ายภายในรถนั้น เบื้องต้น ไม่ทราบว่า มีตัวประกันอยู่ในรถด้วย เพราะรถติดฟิล์มทึบ ทำให้มองไม่เห็นข้างใน จนมาพบว่ามี พ.ญ.ภิภัทรา เจ้าของรถ นั่งอยู่ในรถด้วย และได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง หากไม่รีบทำการสกัดกั้น อาจจะทำให้เหตุการณ์บานปลาย โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นกระสุนปืนของฝ่ายใด แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมีการสอบพยานต่อไปแน่นอน และขอเห็นใจตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่มิฉะนั้นจะทำให้คนทำงานเสียกำลังใจ
พล.ต.ต.วิชัย ยันไม่ตั้งกรรมกาสอบวินัยตร.วิสามัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ขณะเดินทางมาเยี่ยมอาการของ ด.ต.ประพลพัฒน์ บุญทองคำ ผู้บังคับหมู่งานจราจร สน.พญาไท ที่ถูกคนร้ายขับรถพุ่งชนที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยได้นำกระเช้าดอกไม้ และมอบเงินสดส่วนตัวจำนวน 30,000 บาท มอบให้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวคงจะไม่มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อทำการสอบสวนวินัยเจ้าหน้าที่ที่ทำการวิสามัญคนร้าย ว่าการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ แต่จะทำการสอบสวนกันตามปกติ ทั้งนี้คดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ และเกิดเหตุในหลายท้องที่ ซึ่งการสอบสวนทั้งหมดอยู่ในสำนวน โดยมีอัยการร่วมสอบด้วย รับรองว่าการสอบสวนคดีนี้จะมีความยุติธรรมอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามจากการชันสูตรศพคนร้ายเบื้องต้นพบว่า มีสารยาเสพติดอยู่ภายในร่างกายเป็นจำนวนมาก ประกอบกับคำให้การของผู้เสียหาย ที่บอกว่า คนร้ายมีอาการคล้ายเมายา ส่วนสาเหตุของเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว ยังไม่แน่ชัดว่า คนร้ายก่อเหตุเพราะสาเหตุใด