สมราคา!สายฟ้าช็อตโอสถฯ3-0นำโด่ง,โลมาทุบบลูมารีน
บุรีรัมย์ พีอีเอ โชว์ฟอร์มสมราคาเต็งหนึ่ง แม้จะขาดตัวหลักกว่าค่อนทีมแต่ยังบุกไปเอาชนะ โอสถฯ ถึง สระบุรี 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 23 คะแนนทิ้งชลบุรี ที่จะเล่นพรุ่งนี้ 6 แต้มและรักษาสถิติไม่แพ้ใครต่อไป ขณะที่ "เมืองชลดาร์บี้แมตช์" "โลมาฟ้าขาว" พัทยา ยูไนเต็ด คืนฟอร์มเมื่อไล่ต้อน "บลูมารีน" ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี 2-0
ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก
นัดที่ 9
โอสถฯสระบุรี 0- บุรีรัมย์ พีอีเอ 3
ศึกไทยพรีเมียร์ลีกที่สนาม อบจ.สระบุรี โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ทีมอันดับ 9 แข่ง 8 นัดชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 2 โดย 4 เกมหลังสุดพวกเขายังเก็บชัยชนะไม่ได้เลย คู่แข่งบุรีรัมย์ พีอีเอ จ่าฝูงและทีมหนึ่งเดียวจนถึงเวลานี้ที่ยังไม่แพ้ใคร แข่ง 8 นัด ชนะ 6 เสมอ 2 มี 20 คะแนน
ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือเจ้าถิ่นจัดชุดใหญ่ลงมาเต็มสูบขาดเพียง ลาซารัส คัมเบ้ ปีกความเร็วสูงที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ โดยแนวรุกมี พิพัฒน์ ต้นกันยา ลงพบกับทีมเก่าโดยคู่กับ คลีตัน ซิลวา ซุปเปอร์สตาร์ชาวบราซิล ส่วน อรรถพล ปุษปาคม ปรับทัพเกือบครึ่งทีมไม่มี สุเชาว์กับอภิเชษฐ์ที่โดนแบนส่วน ยุทธจักร ก้อนจันทร์ เจ็บไม่หาย ขณะที่ฟร็องค์ โออ็องซา ดาวซัลโวตัวเก่งหลุดจากทีมแบบเซอร์ไพรส์ ทำให้ กีรติ เขียวสมบัติ ต้องยืนกองหน้าตัวเป้าคนเดียวโดยถอย แฟร็งค์ อาชีมปอง มายืนริมเส้น
เริ่มมา 5 นาที บุรีรัมย์ตั้งเกมได้และมีโอกาสก่อนจากลูกตั้งเตะริมเส้น จักรพันธ์ แก้วพรม เปิดลึกมาเสาสอง ฉัตรชัย บุตรพรม ออกมาคว้าบอลวืด เลยไปถึง ราฟาเอล ซูซ่ากองหลังที่สูงเกือบ 2 เมตร แต่จังหวะสุดท้ายโหม่งไม่ดีบอลหลุดกรอบไป ถัดมา 3 นาที กีรติ ได้เปิดกดดันแนวรับโอสถอีกครั้งแต่ คาตาโนะ ยังโหม่ง เคลียร์ไว้ได้
โอสถแม้จะเป็นเจ้าบ้านแต่วันนี้มาเน้นรับและหาจะงหวะสวนกลับเกือบจะได้เฮ เหมือนกัน เจษฎา พั่วนะคุณมี วางยาวจากกลางสนาม โอบาม่า สกัดบอลพลาดโดน คลีตันฉกไปก่อนจะกระดกบอลลอยสูงข้ามหัว ศิวรักษ์ และเป็น พิพัฒน์ วิ่งเข้ามาซ้ำจ่อๆตุงตาข่ายแต่ ผู้ตัดสิน ปรีชา การัมย์ เป่าฟาวล์อย่างน่ากังขา
เจ้าถิ่นฉวยโอกาสอีกครั้ง คลีตัน หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่ศิวรักษ์ยังไวออกมาบล็อกได้ทัน น.21 โอสถ ได้ลุ้นจากฟรีคิกระยะ 25 หลากลางประตูพอดีอภิภู ปั่นไปติดกำแพงไม่มีอะไร
น.26 โอสถบุกเพลินๆเจอทีเด็ดของ บุรีรัมย์ เล่นงานจนได้ ธีราทร บุญมาทัน สลับจากแบ็กซ้ายมาขึ้นทางขวาแล้วเปิดมาเสาแรกเข้าหัว อั๊ควาล่า เฮอร์แมน พุ่งมาโขกตุงตาข่ายทีมเยือนออกนำ1-0
น.34 เจ้าถิ่นน่าจะได้จุดโทษ อภิภูจ่ายตัดแนวรับบุรีรัมย์ให้ คลีตัน หลุดเข้าไปแตะหลบศิวรักษ์ก่อนที่จะโดนศิวรักษ์ กระแทกล้มในกรอบแต่ผู้ตัดสินบอกว่า “เกรโต้”พุ่งล้ม
ท้ายครึ่งแรกโอสถลุยขึ้นมา อภิภู ไหลให้ คลีตัน วิ่งมากดเต็มขอจากระยะ 18 หลาบอลพุ่งแรงแต่ไม่เข้ากรอบ หมด 45 นาที บุรีรัมย์ บุกมานำ 1-0
5 นาทีแรกของครึ่งหลังทั้งสองทีมยังหาจังหวะเข้าทำไม่ได้ เฮอร์แมนลองส่งไกลเกือบ 30 หลาให้บุรีรัมย์ ก็ติดบล็อก ผ่าน 10 นาที บุรีรัมย์ที่นำอยู่ลงมาแพ็กเกมรับและปล่อยให้ โอสถฯ ครองบอลบุกเข้าหา
น.58 บุรีรัมย์ค่อยๆสวนขึ้นมาและได้ประตูที่สองแบบไม่ยากเย็น จักรพันธ์ แก้วพรม ลากจี้เข้าหาแนวรับก่อนที่จะไหลให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรองไม่ถึง 3 นาทีหาช่องยิง ฉัตรชัย ปัดได้แต่ไม่พ้นบอลเข้าประตูไป บุรีรัมย์ นำ 2-0
ถัดมา 3 นาที บุรีรัมย์เกือบได้ประตูที่ 3 แฟร็งค์ อาชีมปอง หาจังหวะเปิดมาให้กีรติ กลับตัวยิงบอลค่อยๆไหลไปชนเสา ก่อนที่ โคชเบ๊จะตัดสินใจแก้เกมด้วยการส่ง สุรเดช ธงชัย ลงมาแทน พิพัฒน์ ต้นกันยา
น.69 โอสถเปลี่ยนเอา วรรณพล ปุษปาคม ลูกชายของ อรรถพล ปุษปาคม กุนซือบุรีรัมย์ลงมาเจอกับทีมของพ่อ แทน เจษฎา พั่วนะคุณมี กัปตันทีม
เข้าสู่ 15 นาทีสุดท้าย โอสถ พยายามเร่งเกมเพื่อเอาประตูแรกให้เร็วแต่กลายเป็นเล่นผิดพลาดไปหมด ส่วนบุรีรัมย์เล่นอย่างใจเย็นรอสวนกลับเกือบได้ผล แฟร็งค์ อาชีมปองไหลให้ รังสรรค์ ซัดด้วยขวาข้างไม่ถนัดเหินข้ามคาน น.83 กีรติ ได้จังหวะกลับตัววอลเลย์หน้ากรอบเขตโทษออกหลัง
น.86 แต่บุรีรัมย์ มาตอกฝาโลงจนได้ แฟร็งค์ อาชีมปองใช้ความเร็วกระชากเข้าเขตโทษ ฉัตรชัย ออกมาไมถึง บอลก่อนที่ อาชีมปองจะไหลให้ เฮอร์แมน ที่เสาสอง ยิงโล่งๆไม่มีใครประกบ 3-0 จบเกมจ่าฝูงบุรีรัมย์ยังคงรักษาสถิติไม่แพ้ใครต่อไปและทิ้งห่างชลบุรีที่จะ ลงเล่นพรุ่งนี้เป็น 6 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โอสถฯสระบุรี : ฉัตรชัย บุตรพรม (GK) – คาตาโนะ ฮิโรมิชิ ,ประทุม ชูทอง ,มาร์ซิโอ ดาซิลวา ,เกรียงศักดิ์ ชุมพรผ่อง – ทีโอดอร์ ยูยุน ,คาร์รูบี้คาเล็ด ,เจษฎา พั่วนะคุณมี (C) (วรรณพล ปุษปาคม น.69),อภิภู สุนทรพนาเวศ (อนรุตน์ สืบยิ้ม น.86)– พิพัฒน์ ต้นกันยา (สุรเดช ธงชัย น.64),คลีตัน ซิลวา
บุรีรัมย์พีอีเอ : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) – จักรพันธ์ แก้วพรม (ณภัทรทับเกตุแก้ว น.90),โอบาม่า ฟลอเรนต์ ,ราฟาเอล ซูซ่า ,ธีราทร บุญมาทัน – อั๊ควาล่า เฮอร์แมน ,แอนเดอร์สัน ดอสซานโต้ส ,ซารีฟ สายนุ้ย (อดิศักดิ์ ไกรษร น.55 ),แฟร็งค์อาชีมปอง ,รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค(C) – กีรติ เขียวสมบัติ (ไกรเกียรติเบียดตะคุ น.86)
ภาพเพิ่มเติม
พัทยา ยูไนเต็ด 2- ศรีราชา ซูซูกิ 0
การแข่งขันฟุตบอลศึกสปอนเซอร์ไทยพีรเมียร์ลีก นัดที่ 9 ของฤดูกาล ที่สนาม สพล.ชลบุรี เป็นการทำศึกดาร์บี้แมตช์เมืองชลบุรีระหว่าง "โลมาฟ้าขาว" พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 7 ของตารางต้อนรับการมาเยือนของ "บลูมารีน" ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซีทีมบ๊วยของตารางในขณะนี้
เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก และเพียงแค่ น.7 เจ้าบ้านได้ลุ้นประตูขึ้นนำก่อนทันทีจากจังหวะที่ กาเบียล โอบาโตล่า ได้หลุดเข้าไปในกรอลเขตโทษ แต่กองหน้าผิวสีรายนี้ดึงจังหวะหลอกกองหลังทีมเยือนมากเกินไป ทำให้จังหวะที่ได้ง้างเท้ายิงนั้นบอลเบาเกินไปนายทวารทีมเยือนพุ่งมาปัดออก หลังไปได้ หลังจากนั้น 4 นาทีทีมเยือนได้ลุ้นประตูเช่นเดียวกันจากจังหวะโต้กลับและเป็น เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ได้ตั้งป้อมยิงระยะ 25 หลาบอลพุ่งแหวกอากาศก่อนที่จะเฉี่ยวคานออกหลังไปอย่างหวุดหวิด
แต่แล้ว น.14 พัทยา ยูไนเต็ด ก็มาฉวยโอกาสพังประตูขึ้นนำ 1 - 0 จนได้ จากจังหวะที่ ธีรยุทธ ดวงพิมาย หลุดขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนตวัดเข้าไปที่หน้าปากประตูบอลเลย ลูโดวิค ทาคาม และ กาเบียล โอบาโตล่าก่อนที่จะไปเข้าทาง ธีระเวคิน สีหวงศ์ จับหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยขวาทันทีบอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด พร้อมเป็นประตูขึ้นนำของเจ้าบ้านด้วย
ถัดมา น.32 พัทยา พลาดการได้ประตูหนีห่างไปเป็น 2 - 0 อย่างที่สุดเมื่อดักลาส โคโบ แผงหลังของ ศรีราชา ไปจับบอลพลาดในกรอบเขตโทษและเป็น "ลูโด้" ลูโดวิค ทาคาม ได้ซัดเหน่งๆ ระยะ 6 หลา แต่กองหน้าร่างตันรายนี้กลับยิงหลุดกรอบออกหลังอย่างเหลือเชื่อ
ให้หลัง 3 นาทีทีมเยือนได้ลุ้นประตูตีไข่แตกจากจังหวะเตะมุมเข้ามาและเป็น ดีเอโก้ โรเบิร์ต ได้โหม่งเต็มๆ แต่บอลยังไม่ผ่านมือนายทวารเจ้าบ้านอย่าง นริศ ทวีกูล ที่พุ่งมาปัดช่วยเจ้าบ้านไว้ได้อย่างหวุดหวิด หลังจากนั้นไม่นานผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดจบ 45 นาที ปรากฏว่าไม่มีทีมใดพังประตูเพิ่มกันได้ ทำให้ พัทยา ยูไนเต็ด ออกนำ ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี ไปก่อนด้วยสกอร์ 1 - 0
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องตัวผู้เล่น ยังคงใช้ชุดเดิมลงสนามด้วยกันทั้งคู่ และเพียงแค่ น.50 ทีมเยือนก็พลาดการได้ประตูตีไข่แตกอย่างเหลือเชื่อ ในจังหวะที่ได้เปิดลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้ายเข้ามาที่หน้าประตูและเป็น สนอง ชัยประโคม ได้เทกตัวโหม่งระยะ 6 หลาคนเดียวโล่งบอลพุ่งตกพื้นหนึ่งจังหวะก่อนที่จะเด้งข้ามคานออกไปอย่างน่า เสียดาย
ถัดมา 2 นาที ทีมเยือนก็มาเสียเปรียบเรื่องตัวผู้เล่นเมื่อ สุจริต จันทกล ไปเล่นนอกเกมใส่ผู้เล่นของ พัทยา และผู้ตัดสินก็ใช้เวลาพูดคุยกันอยู่นานในจังหวะชุลมุนครั้งนี้ ก่อนจะควักใบแดงไล่ สุจริต ออกจากสนามทันที ทำให้ตอนนี้ ศรีราชา เป็นรองทั้งสกอร์และตัวผู้เล่นด้วย
น.64 เจ้าบ้านก็มาฉวยโอกาสทำประตูหนีห่างไปเป็น 2 - 0 จนได้จากจังหวะที่ทำเกมโต้กลับขึ้นมาทางฝั่งขวาและเป็น กาเบียล โอบาโตล่า สบัดศรีษะโหม่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเกมเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ นักเตะทั้งสองทีมมีจังหวะปะทะกันหนักๆ หลายครั้ง แต่ยังดีที่ผู้ตัดสินก็สามารถควบคุมเกมไว้ได้
มาถึง 75 เจ้าบ้านพลาดการได้ประตูที่ 3 อย่างเหลือเชื่อเมื่อ ลูโดวิค ทาคาม ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนได้ลองซัดเต็มข้อแต่กลับยิงไปตกตรงนายทวารทีมเยือน บอลกระเด้งมาเข้าทาง กาเบียล โอบาโตล่า ที่รอซ้ำอยู่แต่จังหวะสุดท้ายก็ยังแผงหลังของทีมเยือนช่วยกันบล็อคหลังไปได้ อย่างหวุดหวิด
ช่วงเวลาที่เหลือแม้ว่าทั้งสองทีมจะยังคงไม่เบาเกมรุก โดยหวังทำประตูเพิ่มด้วยกันทั้งคู่ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีทีมใดพังประตูเพิ่มกันได้ ทำให้จบ 90 นาที พัทยา ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ ศรีราชา ซูซูกิเอฟซี ที่เหลือ 10 คนไปอย่างสนุก 2 - 0 พร้อมกับคว้า 3 คะแนนเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนทีมเยือนต้องพบกับความพ่ายแพ้เป็นเกมที่ 6 จากทั้งหมด 9 นัด และยังต้องควานหาชัยชนะเป็นนัดแรกต่อไป
รายชื่อตัวจริงของทั้งสองทีม
พัทยา ยูไนเต็ด : นริศทวีกูล (GK), นิเวส ศิริวงค์ (C), ฮิโรยูกิ ยามาโมโต้, ธีระเวคิน สีหวงศ์ (อิทธิ), สมชาย สิงห์มณี, กาเบียล โอบาโตล่า (ไพโรจน์ อนันตณรงค์ น.84), ซีเกด หมาดปู้เต๊ะ, โอกาว่ะ เคซูเกะ, อนุวัติ อินยิน, ลูโดวิค ทาคาม (ปฏิพลเพชรวิเศษ น.88), ธีรยุทธ ดวงพิมาย
ศรีราชา ซูซูกิ : ลูคัส แดนเนี่ยล (GK), ดิเอโก้โรเบิร์ต, ดักลาส โคโบ, สุจริต จันทกล, วรุตม์ วงศ์ดี, จัสติน มูส, สุพจน์วงษ์หอย (เอกชัย ฤทธิพันธ์), เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, สนอง ชัยประโคม (C) (อาร่อน ดาซิลวา น.65), สุภกรณ์ พรหมพินิจ, อรรถพงศ์ หนูพรหม ( วุฒิศักดิ์มณีสุข น.55)
สรุปผลไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่ 9 ประจำวันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2554
- ทีโอที เอสซี ชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 1-0
- โอสถฯสระบุรี แพ้ บุรีรัมย์ พีอีเอ 0-3
- พัทยา ยูไนเต็ด ชนะ ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี 2-0
