สั่งลงโทษ ม.อีสานขายวุฒิ เตือนคนซื้อรีบแสดงตัว

สั่งลงโทษ ม.อีสานขายวุฒิ เตือนคนซื้อรีบแสดงตัว

สั่งลงโทษ ม.อีสานขายวุฒิ เตือนคนซื้อรีบแสดงตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รมช.ศธ.สั่งลงโทษ ม.อีสาน จ.ขอนแก่น ทั้งทางแพ่งและอาญา หลังผลสอบพบขายวุฒิครู ป.บัณฑิต พร้อมเตรียมสั่งคณะกรรมการเข้าควบคุมมหาวิทยาลัยปลดกรรมการสภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารพ้นจากตำแหน่งทันที เตือนผู้ที่ซื้อปริญญารีบมาร้องทุกข์แสดงตัว จะกันไว้เป็นพยานและหาทางเยียวยา แต่ถ้าไม่มาแสดงตัวจะต้องถูกแจ้งความร่วมกับมหาวิทยาลัยปลอมแปลงเอกสารราชการ

(27 เม.ย.) วานนี้ (26 เม.ย.)นายไชยยศ จิรเมธากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วยเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) และเลขาธิการคุรุสภา แถลงว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่ามหาวิทยาลัยอีสานซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนในจังหวัดขอนแก่น ดำเนินการซื้อขายประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู หรือวุฒิ ป.บัณฑิต จริง โดยนอกจากกรณีที่คุรุสภาตรวจสอบพบ ทางคณะกรรมการฯ ยังพบมีหลักฐานการจ่ายเงินจำนวน 4 ราย ทั้งจ่ายให้อาจารย์ของมหาวิทยาลัยและเจ้าหน้าที่ทะเบียน และต่อมาบุคคลเหล่านั้นก็มีชื่อในผู้สำเร็จการศึกษา ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา ผู้ที่เข้าข่ายกระทำผิด คือ อาจารย์ที่รับเงิน เจ้าหน้าที่ทะเบียน และอธิการบดี ซึ่งเลขาธิการคุรุสภา ในฐานะผู้เสียหาย ก็จะร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานต่อไป

นายไชยยศ กล่าวว่า ส่วนความผิดต่อ พ.ร.บ.อุดมศึกษา พ.ศ. 2546 พบทั้งกรณีระบบการเงินและการบัญชีไม่เป็นไปตามที่กำหนด ระบบทะเบียนมีความสับสน แยกทะเบียนพิเศษ บางรหัสประจำตัวมีชื่อนักศึกษาใช้ 2-3 คน เอกสารผลการเรียนไม่สอดคล้องตรงกัน องค์ประกอบอาจารย์ไม่ครบตามหลักสูตร คณะกรรมการฯ จึงสรุปได้ว่ามหาวิทยาลัยอีสานมีการกระทำผิด มีหลักฐานชัดเจน เสนอให้ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ซึ่งคุรุสภา และ สกอ.จะร่วมกันแจ้งความดำเนินคดีต่อไป ทั้งทางแพ่งและอาญา รวมทั้งจะลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเข้าควบคุมมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ (27 เม.ย.) ซึ่งจะทำให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารทั้งหมดพ้นสภาพทันที และคณะกรรมการจะเข้าทำหน้าที่แก้ปัญหาจนกลับสู่ความเรียบร้อย หรือเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง การแก้ปัญหาไม่สามารถดำเนินการได้ ก็อาจจะถึงขั้นการถอนใบอนุญาต

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ สกอ.และคุรุสภาจะตั้งศูนย์รับร้องทุกข์แก่บุคคลที่เคยซื้อปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยอีสาน ทั้งที่ สกอ.ที่คุรุสภา และที่สำนักงานอธิการบดี 2 มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อจะกันไว้เป็นพยาน แต่หากบุคคลใดไม่มาแสดงตัวจะถือว่าร่วมกับมหาวิทยาลัยในการกระทำผิดซึ่งจะถูกดำเนินคดีต่อไป โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับ ป.บัณฑิตมาในปีล่าสุดจำนวน 1,349 ราย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ส่งหนังสือยกเลิกรายชื่อดังกล่าวมาที่คุรุสภาก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม บุคคลใดที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าได้เรียนครบถ้วนตามหลักสูตรก็จะอนุมัติวุฒิให้ต่อไป อย่างไรก็ตาม จะมีการตรวจสอบไปยังคณะสาขาหลักสูตรอื่นด้วย

นายไชยยศ กล่าวด้วยว่า ส่วนการขยายผลดำเนินการตรวจสอบกับมหาวิทยาลัยอื่นอีกประมาณ 5 แห่ง ที่มีการเปิดสอนในลักษณะเดียวกัน และมีผู้สำเร็จ ป.บัณฑิตจำนวนนับพันคน ก็จะมีการตรวจสอบต่อไป แต่จะเร่งหาแนวทางตั้งคณะกรรมการที่มีอำนาจในการตรวจสอบได้ต่อเนื่องและเข้มงวดมากขึ้น เช่น อาจขอเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือแต่งตั้งภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป เพื่อให้สามารถดำเนินการได้แม้ในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล

ด้านนายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ได้ประชุมผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเพื่อเตรียมการรองรับแล้ว โดยจะต้องรีบแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องที่ใช้วุฒิที่ทางมหาวิทยาลัยอีสานออกให้ว่าได้ถูกยกเลิกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแล้ว เพื่อจะได้ไม่ต้องมาดำเนินการในการสอบหรือนำไปใช้อื่นใด โดยนัดหมายประชุมกรรมการมาตรฐานวิชาชีพโดยเร่งด่วนในวันที่ 28 เมษายนนี้ เวลา 13.00 น. เพื่อพิจารณายกเลิกใบอนุญาตที่ออกไปแล้ว จากนั้นในวันที่ 29 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม จะเปิดให้ผู้ที่ใช้วุฒิจากมหาวิทยาลัยอีสาน ซึ่งทางคุรุสภาออกใบอนุญาตให้ไปแล้วจำนวน 633 ราย มาแสดงตัวให้ข้อมูลเพื่อจะกันเป็นพยานต่อไป

"เราจะนำคนเหล่านี้ร่วมเป็นพยาน เพราะไม่ต้องการดำเนินคดีกับทุกคน ในขณะนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบว่ามีการซื้อขายกี่ราย แต่ก็จะเชิญทั้ง 663 คนมาให้รายละเอียดเพื่อจะร่วมกันดำเนินคดี ถ้ารายใดไม่มาก็จะถูกแจ้งความดำเนินคดี ถือว่าร่วมกับมหาวิทยาลัยในการยื่นเอกสารเท็จต่อเจ้าพนักงาน" เลขาธิการคุรุสภา กล่าวและว่า จากนี้จะต้องตรวจสอบคุณวุฒิของผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้อย่างละเอียด โดยไม่ได้เชื่อเพียงเอกสารจากมหาวิทยาลัย คาดว่าจะสามารถแยกผู้เกี่ยวข้องได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ที่ได้วุฒิมาโดยการซื้อขาย ผู้ที่เรียนทฤษฎีอย่างเดียวไม่ได้ไปฝึกสอน ผู้ที่เรียนครบแต่จัดนอกศูนย์ที่ตั้ง และกลุ่มผู้ที่เรียนอย่างถูกต้องทั้งหมด.- สำนักข่าวไทย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook