กฟผ.พร้อมหาโรงไฟฟ้า3แห่งคาดแนวโน้มไฟแพง

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. มีมติให้เลื่อนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ออกไปอีก 3 ปี โดยให้ กฟผ. เป็นผู้จัดหาโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 3 โรง เข้ามาทดแทนว่า การดำเนินการดังกล่าวจะไม่เป็นปัญหา กฟผ. มีความพร้อมในการจัดหาพื้นที่อยู่แล้ว โดยเป็นพื้นที่เดิม ที่จะมีการปลดโรงไฟฟ้า อาทิ พระนครใต้และวังน้อย โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าว จะใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ และจะเข้าสู่ระบบได้ในปี 2563 - 2566 แต่ ปตท. จะต้องรับภาระในการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG เข้ามาเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งแนวโน้มราคาในอนาคตจะปรับสูงขึ้นและมีการจัดหาที่ยาก และอาจส่งผลกระทบต่อราคาค่าไฟฟ้าได้

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการตามมติดังกล่าว จะส่งผลให้แผนการใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติในการผลิตกระแสไฟฟ้า ที่จะให้ลดต่ำลงจากร้อยละ 70 อาจเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 80 ได้


นายสุทัศน์ ยังกล่าวว่า กฟผ. เตรียมจัดงานวันคล้ายวันสถาปนา 42 ปี กฟผ. ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงผลงานความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่พัฒนาและผลิตไฟฟ้าสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ ให้มีความมั่นคงในราคาที่เหมาะสม ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ โดยยืนยันว่า กฟผ. จะมุ่งมั่นดำเนินภารกิจหลัก ใน 2 ด้าน คือ การพัฒนาและการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการของคนไทย และส่งเสริมรณรงค์การประหยัดการใช้พลังงานของประชาชน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในด้านพลังงานของประเทศ นอกจากนี้ กฟผ. จะเดินหน้าส่งเสริมเครือข่ายให้ขยายการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง