AYS Morning Brief - บล.กรุงศรีอยุธยา

AYS Morning Brief - บล.กรุงศรีอยุธยา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Economic NEWS                    ธ.กลางออเตรเลียส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อ ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ระบุอาจมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่เศรษฐกิจ ออสเตรเลียมีแนวโน้มทั่วไปในเชิงบวก และได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตรา เงินเฟ้อพื้นฐานสู่ 3 % สำหรับช่วงสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ยังคาดว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อาจ เติบโต 3.75 % ในปี 2012 และ 2013 โดย RBA ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ ดังกล่าวลงเล็กน้อยเพื่อสะท้อนแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ออสเตรเลีย (รอยเตอร์)   ธปท.เผยการขยายตัวสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ Q1 เติบโตดี การขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1 ปี 2554 เติบโตได้ดี ทั้งสินเชื่อเอสเอ็มอี และธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการขยายตัวเพื่อการลงทุน แสดงให้เห็นภาคธุรกิจต้องการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการส่งออก โดยไตรมาสแรกปีนี้สินเชื่อขยายตัวร้อยละ 13.4 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2553 ที่ร้อยละ 11.3 โดยสินเชื่อภาคธุรกิจขยายตัวร้อยละ 12.2 ซึ่งเป็นการขยายตัวจากสินเชื่อหมุนเวียนในธุรกิจ และการลงทุนของผู้ประกอบการ (ผู้จัดการ)   Market today     (MarketCast ฉบับวันนี้) แนวโน้มตลาดรีบาวด์แต่อยู่กรอบจำกัดที่ระดับ 1065-1080 จุด   Sector news & update  (รายงานฉบับวันนี้) ICT | น้ำหนักลงทุนเท่ากับตลาด ปปช. เสนอบอร์ดทบทวน สัญญา 3 จี ระหว่างกสท. และทรู   Stock news & update (รายงานฉบับวันนี้) MAJOR | N.A News Update : ขายหุ้น CAWAW ทั้งหมด LPN | ถือ/มูลค่าพื้นฐาน 9.00 บาท Result Note : กำไรสุทธิ 1Q54 เกิดจากรายได้ 4 โครงการหลัก DELTA | ซื้อ/มูลค่าพื้นฐาน 30.0 บาท Result Note : กำไรสุทธิ 1Q54 สูงกว่าคาด 13% PTT | ซื้อ/มูลค่าพื้นฐาน 412 บาท Company Update : คาดส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีหนุนกำไร 1Q54 เติบโต 44%QoQ, 35%YoY   Technical  (TrendTrading ฉบับวันนี้)           SET Index |  ปิด 1050.85 แนวรับ 1050-1048  แนวต้าน 1060,1066           BBL  | ราคาปิด 162.00 บาท แนวรับ 161-160 แนวต้าน 165,167-169           KTB |  ราคาปิด 19.10 บาท แนวรับ 19,18.5  แนวต้าน 19.5,20.0           PLE | ราคาปิด 2.28 บาท แนวรับ 2.24-2.20 แนวต้าน 2.40   Events           - สัปดาห์ที่ 2 ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค           - 16 พ.ค. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กำหนดให้ยื่นซองเสนอราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 6           - สัปดาห์ที่ 3  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์           - สัปดาห์ที่ 3 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออกของไทย           - สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง                    - 31 พ.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน   ICT                                      สัญญา 3จี กสท-ทรู - ป.ป.ช.เสนอบอร์ดพรุ่งนี้ทบทวน           คณะทำงานตรวจสอบสัญญา 3จี ทรู-กสท ป.ป.ช.เสนอบอร์ดชุดใหญ่พรุ่งนี้ ชี้ขาดก่อนเสนอ ครม.ทบทวนสัญญา หลังจากตรวจสอบพบความไม่สมบูรณ์ของสัญญา ขัด พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ และกฎหมาย กสทช. ไม่เปิดให้เอกชนเข้าประมูลแข่ง ระบุหากปล่อยเดินหน้าอาจก่อความเสียหายรุนแรง ยัน ครม.รักษาการมีอำนาจทบทวน ทีดีอาร์ไอ ชี้ ป.ป.ช.มีสิทธิเบรกโครงการ หวั่นพบความผิดภายหลังเสียหายหนัก สตง.ย้ำประมาณการรายได้โครงการของที่ปรึกษาการเงิน ขัดแย้งผลการตรวจสอบคณะกรรมการตรวจรับ กสท กว่าแสนล้าน    ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ   ความเห็นและคำแนะนำ :           การที่ DTAC ยื่นฟ้อง TRUE เนื่องจากอ้างว่า   DTAC ซึ่งเป็นคู่สัญญากับ CAT เช่นเดียวกับกับ True Move เป็นผู้เสียผลประโยชน์โดยตรง  เนื่องจากทาง TRUE สามารถทำการตลาดและให้บริการได้ก่อน  ประเด็นดังกล่าวเรามองว่าต้องรอคำตัดสินจากศาลปกครองกลาง  ซึ่งหากศาลปกครองยืนยันความถูกต้องตามกฏหมายของสัญญาระหว่าง บมจ. กสท โทรคมนาคม และ กลุ่มบริษัท ทรู  จะเป็นผลบวกต่อ TRUE กลับกันหากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าสัญญาดังกล่าวมีความไม่ถูกต้องก็จะเป็นผลลบต่อหุ้น TRUE   ในส่วนของคำแนะนำ ทางพื้นฐาน  เราแนะนำขายทำกำไร TRUE ซึ่งราคาเต็มมูลค่าแล้ว   ส่วน DTAC ราคาปัจจุบันขึ้นมาเกินพื้นฐานของเราที่ 53.75 บาท แต่คาดว่าบริษัทจะจ่ายปันผลในปี 54 ที่ 3.20 – 4.57 บาทต่อหุ้น yield 5.9% -8.4% จากราคาปัจจุบัน แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว   Major Cineplex Group เมเจอร์ขายหุ้นแคลิฟอร์เนียฯเกลี้ยงพอร์ต           ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจแจ้งว่า  ผู้บริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) กล่าวว่า เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา บริษัทเมเจอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทแคลิฟอร์เนียว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ (CAWOW) ได้ขายหุ้นที่เคยถืออยู่ 67.90 ล้านหุ้นคิดเป็น 12.31% และทยอยขายในตลาดหลักทรัพย์ออกทั้งหมดแล้วเนื่องจากเก่งว่าเมื่อบริษัทถูกเข้าข่ายเพิกถอนและจะต้องถูกห้ามซื้อขายหุ้นในระยะยาว จึงไม่ต้องการครองหุ้นไว้ "บริษัทเมเจอร์ยอมรับว่าการลงทุนในบริษัทแคลิฟอร์เนียครั้งนี้บริษัทจะมีผลขาดทุนประมาณ 50% ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้เข้าตลาดมาแล้วประมาณ 5 ปี และช่วงหลังเริ่มประสบปัญหาขาดทุนจากภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นรวมถึงนโยบายการบริหารจากการขยายสาขามากเกินไป และทำโปรโมชั่นในระดับต่ำและยังไม่รู้ว่าบริษัทจะต้องใช้เวลาแก้ไขปัญหานานขนาดไหน บริษัทจึงต้องยอมตัดขาดทุนออกไป" แหล่งข่าวกล่าว  เขากล่าวว่า การตัดขาดทุนกรขายหุ้นบริษัทแคลิฟอร์เนียไปนั้น จะไม่มีผลกระทบต่อฐานะการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากในปี 2553 บริษัทได้สำรองไว้แล้วทั้ง 100% ดังนั้นจะไม่มีผลกระทบกับงบการเงินของบริษัทในปีนี้ และขณะเดียวกันภาพรวมอุตสาหกรรมยังอยู่ในทิศทางที่ดี   ความเห็นและคำแนะนำ           ประเด็นดังกล่าวถือเป็นข่าวเชิงบวกต่อบริษัทเนื่องจากธุรกิจ แคลิฟอร์เนียว้าว ถือเป็นธุรกิจที่ไม่ทำกำไร ในขณะที่การตัดขายขาดทุนบริษัทได้ตั้งสำรองไว้แล้วในขณะที่ด้านพื้นฐานคาดว่าผลประกอบการยังแข็งแกร่ง  ในเบื้องต้นเราประเมิน MAJOR มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตดี ผู้บริหารให้ข้อมูลทิศทางผลประกอบการใน 1Q54 คาดผลประกอบการมีแนวโน้มดีขึ้น YoY  โดยเราประเมินกำไรจากการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น 20% YoY เป็น 169 ล้านบาท แนวโน้มไตรมาส 2 คาดผลประกอบการยังเติบโตต่อเนื่อง ทั้ง QoQ และ YoY ต่อจาก 1Q54 เนื่องจากมีหนังฟอร์มใหญ่เข้าหลายเรื่องโดยปี 54 ถือเป็นปีทองของอุตสาหกรรมภาพยนต์เนื่องจากมีภาพยนต์ฟอร์มใหญ่เข้าฉายหลายเรื่อง และรายได้ค่าโฆษณามีแนวโน้มฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมโฆษณาในขณะที่มูลค่าพื้นฐานเนื่องจาก AYS ไม่ได้ Cover แต่หากอิง P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 5ปี ของ MAJOR ที่ 20 เท่า มูลค่าที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 16 บาท              โดย บมจ. หลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา ประจำวันที่ 9 พ.ค. 2554

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook