กรณ์ - โอฬาร ดีเบตนโยบายเศรษฐกิจ

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 6 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในเวทีสัญจร ครั้งที่ 1 "เลือกตั้ง 2554 อนาคต เรากำหนดได้" โดยระบุว่า หากพรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นรัฐบาล จะเดินหน้านโยบายประกันรายได้ ให้ตอบโจทย์เกษตรกรให้มากขึ้น เพิ่มรายได้แรงงานร้อยละ 25 ใน 2 ปี และปรับฐานเงินเดือนขั้นต่ำเป็น 15,000 บาทต่อเดือน รวมทั้ง จัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ เพิ่มบำนาญให้กับประชาชน และดึงประชาชนเข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยรัฐเป็นผู้สบทบเงินประกัน

ขณะที่ทางด้าน นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ และ ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะผลักดันนโยบายสร้างรายได้เป็นธรรมต่อคนฐานราก โดยจะเน้น
การเพิ่มรายได้ให้กับชาวนาเป็นหลัก


ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจผิดพลาดมาโดยตลอด เปรียบเสมือนยื่นขนมอาบยาพิษให้กับเกษตรกร ซึ่งปัญหาดังกล่าว กำลังทำร้ายประชาชน ซึ่งพรรคภูมิใจไทย มีวิธีคิดให้ชาวเกษตรกร คือ ขายสินค้าให้ได้ราคาดี ซึ่งพรรคมีนโยบายการประกันราคาข้าวที่ 20,000 บาทต่อตัน ตามนโยบาย "เพิ่มทุน สร้างที่ มีทาง"

ส่วน นายเกษมสันต์ วีระกุล ตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่า ทางเลือกระหว่างการประกันสินค้าราคาเกษตรกับการจำนำ นั้นดีทั้ง 2 แนวทาง แต่พรรคชาติไทยพัฒนา มีนโยบายลดต้นทุนให้เกษตรกร โดยการให้เกษตรกรกู้เงินซื้อปัจจัยการผลิต โดยไม่มีดอกเบี้ยเป็นเวลา 1 ปี โดยรัฐบาลเตรียมงบประมาณทั้งสิ้น 5 แสนล้านบาทพร้อมกับเพิ่มทุนในการพัฒนาแหล่งน้ำทั่วทุกตำบล โดยมอบเงินให้ตำบลละ 3 ล้านบาท เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ทางพรรคเห็นว่า การประกันราคาสินค้า เกษตรมีประโยชน์มากกว่าการจำนำ ซึ่งพรรคมีนโยบายตรงส่วนนี้อยู่แล้ว ซึ่งรวมทั้งการลดราคาสินค้าบริการจากเดิม 10% ลด 2% เหลือ 5% เกษตรกร และประชาชนทั่วประเทศ จะได้รับผลประโยชน์ เป็นการเพิ่มทุนลดภาระให้ประชาชนอย่างอัตโนมัติ


ขณะที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ระบุว่า ต้องเน้นเรื่องการศึกษา เมื่อมีการศึกษา ปัญหาปาก
ท้องก็แก้ได้


ด้าน น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กล่าวในเวทีสัญจร ครั้งที่ 1 "เลือกตั้ง 2554 อนาคต เรากำหนดได้" โดยระบุว่า หากพรรคได้เป็นรัฐบาล จะมุ่งเน้นนโยบาย ด้านเศรษฐกิจ ในเรื่องของการกำกับดูแลราคาพลังงานให้เป็นธรรม ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยจะควบคุมราคาน้ำมันเบนซิน ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยใช้กลไกภาษีสรรพสามิต และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาดูแลให้เกิดความเหมาะสม และเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้ง ยกเลิกการใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 91 ภายใน 1 ปี เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้เอทานอล เป็นการเสริมรายได้ให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ ยังจะมีการพักหนี้ให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ

อย่างไรก็ตาม ทางพรรคจะมุ่งเน้นเดินหน้าการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติ ซึ่งจะเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างแท้จริง