เนื้อหมู-ไก่แพงจัด พาณิชย์เตรียมถกเครียด

(21 พ.ค.) นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังการตรวจราคาสินค้าตลาดสดบางแคหลังจากได้รับการร้องเรียนจากผู้โภคผ่านสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 โดยเฉพาะราคาเนื้อหมูและเนื้อไก่มีการปรับราคาสูงขึ้นจริงจากสภาพปัญหาอากาศร้อนและอีกหลายปัจจัยส่งผลให้ราคาสินค้าส่วนใหญ่การปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้น นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงได้สั่งการให้กรมการค้าภายในลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าและหามาตรการช่วยเหลือผู้บริโภคทั่วประเทศเป็นการเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสปรับราคาสูงขึ้นเกินความเป็นจริง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบตลาดสดบางแคและได้สั่งการให้ค้าภายในจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศลงตรวจสอบและติดตามราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคทั้งตลาดสดและห้างสรรพสินค้าอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้พบว่าผู้ค้าส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการจำหน่ายเนื้อหมูในราคาแนะนำของกรมการค้าภายในทุกพื้นที่อยู่ที่ กก.ละ 135 บาทจากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 140-145 บาท ส่วนราคาไข่ไก่พบว่ามีการปรับลดราคาลงแล้ว จากการที่กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศงดการส่งออกเป็นการชั่วคราวขณะเดียวกันผลผลิตไข่ไก่ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยไข่คละหน้าฟาร์ม อยู่ที่ 2.90 บาท จากเดิมที่ 3.10 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกไข่ไก่ลดลงเฉลี่ยฟองละ 10-20 สตางค์

ส่วนสินค้าที่น่าเป็นห่วง คือ ราคาเนื้อไก่ที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น ขณะนี้ เนื้อสันไก่ อยู่ที่ กก.ละ 100 บาท เนื้ออก กก.ละ 95 บาท และสะโพก กก.ละ 90 บาท เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนส่งผลให้ปริมาณผลผลิตลดลง ประกอบกับต้นทุนประกอบการที่สูงขึ้น ดังนั้นในวันที่ 24 พ.ค.นี้ กรมการค้าภายในจะเชิญผู้ประกอบการเลี้ยงไก่มาหารือถึงการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมทั้งขอความร่วมมือในการตรึงราคาไว้ไม่ให้สูงไปกว่านี้

สำหรับราคาผักสด พบว่ามีการปรับตัวสูงขึ้นในบางชนิด เช่น กะหล่ำปีอยู่ที่กิโลกรัมละ 25-30 บาท จากปีที่แล้วอยู่ที่กิโลกรัมละ 20 บาท ส่วน มะเขือ มะระและถั่วฝักยาว ปรับราคาลดลงจากปีที่แล้วกว่าครึ่ง มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 45-50 บาท จากกิโลกรัมละประมาณ 100 บาท โดยจะเร่งติดตามและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด หากพื้นที่ใดมีราคาสูงเกินไปจะใช้วิธีการเชื่อมโยงตลาดเพื่อให้ราคาสินค้าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงเกินไป ส่วนการจัดงานมหกรรมธงฟ้าลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศนั้น กำลังพิจารณาพื้นที่จัดงานและรูปแบบ คาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในสัปดาห์หน้าต่อไป.-สำนักข่าวไทย