'โอฬาร'ปลื้มชาวนาเหนือ-อีสานสนบัตรเครดิต

นายโอฬาร ไชยประวัติ ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า การลงพื้นที่หาเสียงของพรรคครั้งล่าสุด แถบจังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเสียงตอบรับดีมากเกี่ยวกับนโยบายของพรรค โดยเฉพาะเรื่องของโครงการรับจำนำข้าว , โครงการบัตรเครดิตเกษตรกร ซึ่งโครงการบัตรเครดิตนี้ จะดูแลเกษตรกรตั้งแต่เริ่มซื้อปัจจัยการผลิตไปจนถึงการไถหว่านและเก็บเกี่ยวถึงขาย โดยให้สินเชื่อเกษตรกรทุกคนผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ไปซื้อปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ น้ำมันเชื้อเพลิง ได้ถึง 70% จากยอดขายข้าวทั้งหมด เช่น เกษตรกร ผลิตข้าวได้ตามแผนการผลิต 10 ตัน ๆ ละ 15,000 บาท ก็สามารถกู้ได้ 70% ของผลผลิต 10 ตัน และหลังจากผลผลิตออกแล้ว ขายให้กับ ธ.ก.ส. ทาง ธ.ก.ส. ก็จะหักค่าปัจจัยการผลิต 70% ส่วนที่เหลือก็เป็นรายได้ของเกษตรกรไป หรือ เกษตรกร อยากขายข้าวให้กับเอกชน ก็สามารถทำได้

ส่วนโครงการรับจำนำข้าวนั้น ถ้าเกษตรกรประเมินแล้วว่า ในวันขายข้าว มีราคาที่สูงกว่า 15,000 บาทต่อตัน ก็ให้สิทธิ์เกษตรกรเลือกรับจำนำแทนได้ และให้สิทธิ์ชาวนาไถ่ถอนคืนได้ ภายใน 6 เดือน ในราคาที่สูงกว่าที่กำหนด ถือเป็นการให้โบนัสชาวนา ซึ่งใน ปัจจุบัน ราคาข้าว ยังไม่ถึง 10,000 บาทต่อตัน สามารถเพิ่มราคาให้สูงขึ้นได้อีกมาก การจำนำข้าวจากชาวนาเป็นลักษณะรัฐบาลซื้อขาดในกรณีต้องการจำนำ แต่มีออปชั่นให้ชาวนาแทน ถ้า ชาวนาไม่สนใจจำนำก็มีสิทธิ์ขายขาดได้เลย และจากที่ลงพื้นที่มีชาวนาตื่นตัวกันมาก มีการรวมตัวกันทำเวิร์คช็อป เตรียมพร้อมที่จะไปยื่นขอบัตรเครดิตกัน มีการคำนวณปริมาณการใช้ปุ๋ย วงเงินขอกู้ โครงการนี้จะคล้ายกับประเทศญี่ปุ่น ที่ทำมานาน 50 ปี แต่ชาวนาไทย เพิ่งเริ่มต้น ก็มองว่า ชาวนาไทย ปลูกข้าวได้ราคาที่ถูกกว่ามานานแล้ว ตอนนี้ถึงยุคโลกร้อน ดินฟ้าอากาศวิปริต ข้าวเป็นของ
หายาก ฉะนั้น ข้าวไทย เป็นข้าวที่ดีที่สุดในโลก ราคาก็ควรจะขึ้นอย่างน้อย ตันละ 15,000 บาท หากทำได้ตามนโยบาย ชาวนาจะมีรายได้สุทธิหักค่าใช้จ่ายแล้ว 2 เท่าตัว หรือ 30,000-100,000 บาทต่อรอบการผลิต