ประธานศาลฎีกา เปิดตัวแผนกคดีสิ่งแวดล้อม
นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา เดินทางไปเปิดแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลแพ่ง มี นายเกษม เกษมปัญญา อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง และ นายศิริศักดิ์ เหมาะทอง รองอธิบดี ให้การต้อนรับ โดย นายเกษม กล่าวว่าปัจจุบัน
คดีสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางอากาศ กลิ่น เสียง ศาลเคมีปนเปื้อน ได้เกิดขึ้นจำนวนมาก มีความเสียหายรุนแรงต่อทุนทรัพย์สูง มีชาวบ้านได้รับผลกระทบกว้างขวาง จึงอาศัยอำนาจทางกฎหมายพระธรรมนูญศาลยุติธรรมและประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ให้ศาลแพ่งนำร่องเปิดพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อมที่เกิดทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด
โดยเปิดทำการวันนี้เป็นวันแรก มีคดีสิ่งแวดล้อมมาฟ้องในศาลแพ่ง 3 คดี ทุนทรัพย์แต่ละคดีเป็น พันล้านบาท โดย นายเกษม กล่าวอีกว่า เรื่องอำนาจฟ้องร้องของประชาชนในคดีสิ่งแวดล้อมต่อศาลแพ่ง ต้องเข้าใจว่า คดีสิ่งแวดล้อมผู้เสียหาย คือ คนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบกับมลพิษต่างๆ ในลักษณะละเมิดทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายเป็นตัวเงิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใด นอกจากจะฟ้องคดีที่ศาลต่างจังหวัดแล้ว หากเห็นว่า ไม่ได้รับความสะดวก หรือ เกรงกลัวต่ออิทธิพลท้องถิ่น สามารถโอนคดีได้เช่นเดียวกัน
คดีสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางอากาศ กลิ่น เสียง ศาลเคมีปนเปื้อน ได้เกิดขึ้นจำนวนมาก มีความเสียหายรุนแรงต่อทุนทรัพย์สูง มีชาวบ้านได้รับผลกระทบกว้างขวาง จึงอาศัยอำนาจทางกฎหมายพระธรรมนูญศาลยุติธรรมและประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ให้ศาลแพ่งนำร่องเปิดพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อมที่เกิดทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด
โดยเปิดทำการวันนี้เป็นวันแรก มีคดีสิ่งแวดล้อมมาฟ้องในศาลแพ่ง 3 คดี ทุนทรัพย์แต่ละคดีเป็น พันล้านบาท โดย นายเกษม กล่าวอีกว่า เรื่องอำนาจฟ้องร้องของประชาชนในคดีสิ่งแวดล้อมต่อศาลแพ่ง ต้องเข้าใจว่า คดีสิ่งแวดล้อมผู้เสียหาย คือ คนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบกับมลพิษต่างๆ ในลักษณะละเมิดทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายเป็นตัวเงิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใด นอกจากจะฟ้องคดีที่ศาลต่างจังหวัดแล้ว หากเห็นว่า ไม่ได้รับความสะดวก หรือ เกรงกลัวต่ออิทธิพลท้องถิ่น สามารถโอนคดีได้เช่นเดียวกัน