เขมรแถลงอ้างไทยล้ำน่านฟ้า ยั่วยุปะทะอีก

เขมรแถลงอ้างไทยล้ำน่านฟ้า ยั่วยุปะทะอีก

เขมรแถลงอ้างไทยล้ำน่านฟ้า ยั่วยุปะทะอีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เว็บไซต์ ฟิฟทีนมูฟ รายงาน จากการแถลงการณ์ของ โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวหา ไทย บินล่วงล้ำน่านฟ้า โดยแถลงการณ์ ลงวันที่ 3 มิถุนายน 2554 โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกแถลงการณ์ เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 3 มิถุนายน 2554 กล่าวโทษเครื่องบินของทหารไทย ที่ได้บินล่วงล้ำน่านฟ้ากัมพูชา ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. ถึง 3 มิ.ย. โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า กองทัพแห่งชาติกัมพูชา ขอกล่าวโทษอย่างรุนแรงต่อทหารไทย ที่เกี่ยวข้องกับการล่วงล้ำน่านฟ้า และต่อทุกการกระทำที่ยุยงให้เกิดเหตุที่อาจก่อให้เกิดความชิงชังตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย ขณะนี้ สถานการณ์เปราะบาง การเผชิญหน้าและการปะทะกันอาจเกิดขึ้นได้อีก เนื่องจาก ทหารไทย ไม่เอาใจใส่และไม่เคารพต่อการเสริมสร้างความร่วมมือที่ได้เห็นชอบร่วมกัน เมื่อ 4 พ.ค.2554 แถลงการณ์กล่าวต่อว่า กองทัพกัมพูชา ได้อดทนอดกลั้นอย่างสูงสุดมาโดยตลอด ในความพยายามเท่าที่จะเป็นไปได้ ในการเอาใจใส่และควบคุมสภาพทางทหาร เพื่อให้การยืนยันได้ถึงความเรียบร้อยของกองทัพ เพื่อรักษาสันติภาพที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ ที่อาศัยอยู่ตามแนวพรมแดนกัมพูชา-ไทย หากแต่ทหารไทย กลับใช้การบินของตนรุกรานซ้ำแล้วซ้ำอีก เข้ามาเหนือน่านฟ้ากัมพูชา โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ ปฏิบัติการบินของไทย ได้ละเมิดกัมพูชาดังนี้

1. วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2554 เวลา 11.30 น. เครื่องบินทหารของไทย รุ่น L19 บินล่วงล้ำน่านฟ้ากัมพูชา ตามแนวพรมแดนกัมพูชา-ไทย จากจุดด่านบึงตากวน หมู่บ้านบันเตียมีริต ตำบลโคกระเมียต อำเภอทมาปวก ไปถึงเมืองปอยเปต และจากเมืองปอยเปต กลับมาที่ด่านบึงตรอกวน

2. วันที่ 1 มิ.ย พ.ศ.2554 เวลา 11.15 น. เครื่องบินสอดแนมไทย รุ่น L19 ได้บินมาสอดแนมอีกครั้ง ในพื้นที่เมืองปอยเปต ไปบ้านโจ็คเจ็ย ตำบลโอร์บีจวน แล้วไปยังด่านบึงตรอกวน บ้านบันเตียมีริต ตำบลโคกระเมียต ตัดไปตามแนวพรมแดนรวม 3 อำเภอ คือ อำเภอโอร์จเร๊า อำเภอซวายเจก และอำเภอทมาปวก

3. วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 07.45 น. ทหารพรานไทย กองร้อยที่ 253 ขับร่มบินติดเครื่องยนต์ 1 เครื่อง บินลาดตระเวนตามแนวพรมแดนในเขตอำเภอพนมปรึกส์ จังหวัดพระตะบอง กองทัพแห่งชาติกัมพูชารักษาสิทธิทุกประการ ต่อภารกิจในการรักษาป้องกันบูรณภาพดินแดน และอธิปไตยของตนตามกฎหมาย การละเมิดและรุกรานของทหารไทยนี้ อาจพิจารณาได้ว่าเป็นชนวนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้มีการปะทะกันด้วยอาวุธอีกครั้ง และกองทัพแห่งชาติกัมพูชา มีความเชื่อว่า ทหารไทย ควรต้องยอมรับผิดต่อผลอันจะตามมาจากการกระทำของตน ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

ในตอนท้ายของแถลงการณ์ กล่าวว่า กัมพูชาเคารพและถือปฏิบัติตามคำบัญชาสูงสุดของ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ในการสกัดกั้นอย่างที่สุดในทุกอิริยาบถและกิจกรรมของตน โดยเฉพาะต่อความชิงชังจากการยั่วยุของทหารไทย กัมพูชาต้องรักษาไม่ให้มีการรุกรานอย่างเด็ดขาด หากแต่ป้องกันตนเองและป้องกันบูรณภาพดินแดนเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ไม่อาจรองรับการล่วงละเมิดจากผู้หนึ่งผู้ใดได้

การบินล่วงล้ำน่านฟ้าของทหารไทย ปรากฏในสื่อกัมพูชาครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2554 จากสำนักข่าว ซีอีเอ็น ที่อ้างแหล่งข่าวกองกำลังป้องกันพรมแดน บริเวณด่านบึงตรอกวน ที่ระบุว่า ทหารไทยบินตรวจการณ์ตามแนวตะเข็บพรมแดน ในวันที่ 31 พ.ค. 2554 จากนั้นในวันที่ 1 มิ.ย. 2554 ทหารไทย บินล่วงล้ำน่านฟ้ากัมพูชาถึง 2 ครั้ง ลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชา 700 ม. และ 200 ม. ตามลำดับ ซึ่งข่าวดังกล่าวนี้ กลายเป็นกระแสในกัมพูชาถัดมา เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2554 มีการตอบโต้จากทางการกัมพูชา โดย บายนทีวี รายงานว่า นายเขียว กันหะริด รัฐมนตรีข่าวสาร ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีดังกล่าวเป็นการแสดงถึงความต้องการของไทยและแสดงให้เห็นว่าฝ่ายทหารมีอำนาจเหนือรัฐบาลรักษาการ ขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกัน สำนักข่าวซีอีเอ็น รายงานอีกครั้งว่า กองพลทหารราบที่ 2 จ.ปราจีนบุรีของไทย ยอมรับว่า มีการบินดังกล่าวจริง แต่เป็นเครื่องบินพลเรือน ไม่ใช่ของทหารแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook