ขี้ยาวิ่งหนีตร. ยิงคนพิการขวางทางดับอนาถ

ขี้ยาวิ่งหนีตร. ยิงคนพิการขวางทางดับอนาถ

ขี้ยาวิ่งหนีตร. ยิงคนพิการขวางทางดับอนาถ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

2 ขี้ยาวิ่งหนีตร.ไล่จับ เจอชายพิการเป็นโปลิโอนั่งขวางทาง จ่อยิงขมับดับคาที่ ก่อนขโมยจยย.ชาวบ้านหนี ตะครุบตัวได้ 1คน มือปืนยังลอยนวล 

(5 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. สน.บางยี่ขัน รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านเสียชีวิต ภายในซอยอู่เรือราชพิธี ถนนอรุณอมรินทร์ 24 แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าที่หน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ในที่เกิดเหตุบริเวณริมทางเดินหน้าบ้านเลขที่ 80/5 พบศพนายชินทัต แสนสุข อายุ 49 ปี ซึ่งพิการขาลีบทั้ง 2 ข้าง สภาพศพนอนคว่ำหน้า มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ขมับขวา 1 นัด นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.บางยี่ขัน สืบทราบว่ามีกลุ่มคนร้ายมาเปิดห้องพักเลขที่ 338 ภายในโรงแรมอาร์ ดี โฮเต็ล เพื่อมั่วสุมเสพยาเสพติด จึงนำกำลังมาเฝ้าสังเกตการณ์ตั้งแต่เวลา 9.00 น.กระทั่งคนร้าย 2 คน คือนายชานนท์ อั้นเจริญ อายุ 29 ปี และนายบอล ไม่ทราบนามสกุล ได้ลงมาจากห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่คนร้ายพยายามขี่รถจยย.หลบหนีพร้อมโยนกระเป๋าทิ้งลงน้ำ 1 ใบ

จากนั้นนายบอลได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเปิดทางหนี เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจเข้าชาร์จตัวนายชานนท์เอาไว้ได้ ส่วนนายบอลวิ่งหลบหนีไป โดยระหว่างทางยังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่ นายชินทัต ชายพิการเป็นโรคโปลิโอ ที่นั่งขวางทางอยู่จนเสียชีวิต แล้วขโมยรถจยย.ของนายโกวิทย์ ปราสาท อายุ 25 ปี ที่จอดเสียบกุญแจรถคาไว้หน้าเมรุภายในวัดดุสิตารามหลบหนีไปได้

จากการสอบสวนนายชานนท์ ผู้ต้องหา ให้การว่ามาเปิดห้องพักที่โรงแรมดังกล่าวพร้อมกับนายบอลตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา และเสพยาเสพติดกันทั้งคืน โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่านายชานนท์ ติดต่อกับคนหลายกลุ่ม และพัวพันกับยาเสพติดทั้งสิ้น ส่วนใหญ่อยู่ในย่านซอยเอกชัย ซึ่งจะต้องสืบสวนขยายผลต่อไป ส่วนสาเหตุที่นายบอล ที่ยิงผู้ตายอาจเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นตำรวจสายสืบที่มาดักรออยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติด และร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานแก่นายชานนท์ พร้อมเตรียมออกหมายจับนำตัวนายบอล มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook